xs
xsm
sm
md
lg

“ใหม่-เก่า” กับ “โควิด-19”!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ยุค “โควิด-19” มีเรื่อง “ใหม่” (New Normal)และ “เก่า” (Old Normal) เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งมีทั้ง “ดี” กับ “เลว”!

ที่ยังคงทำงานกันอย่างแข็งขันยามนี้ หนีไม่พ้นกองทัพ “โควิด-19” ตั้งหน้าระบาด “ฆ่ามนุษย์” และ “ใช้มนุษย์-ฆ่ามนุษย์” ด้วยกันเอง นับตั้งแต่ปลายปี 2562-2563 เป็นเวลานานกว่า 6-7 เดือนแล้ว

โดยชาติตะวันตกที่เป็นมหาอำนาจ ซึ่งเจริญทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เมื่อเผชิญกับการระบาดของ “โควิดฯ” ต้องพบกับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สูญเสียชีวิตผู้คนอย่างมหาศาล ดังสถิติล่าสุดของการระบาด “โควิดฯ” ทั่วโลก ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563

ชาวโลกติดเชื้อ “โควิดฯ” มากกว่า 3.7 ล้านคน! เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2.6 แสนคน!

ชนชาติที่ติดเชื้อและเสียชีวิต 5 อันดับ คือ หนึ่ง-ชาวอเมริกันติดเชื้อกว่า 1.2 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 7 หมื่นคน! สอง-ชาวสเปนติดเชื้อกว่า 2.5 แสนคน เสียชีวิตกว่า 2.6 หมื่นคน! สาม-ชาวอิตาลีติดเชื้อกว่า 2.1 แสนคน เสียชีวิตกว่า 2.9 หมื่นคน! สี่-ชาวอังกฤษติดเชื้อกว่า 1.9 แสนคน ทว่าผู้ เสียชีวิตกว่า 3 หมื่นคน สูงเป็นอันดับ 1 ในยุโรปไปแล้ว! ห้า-ชาวฝรั่งเศสติดเชื้อกว่า 1.8 แสนคน เสียชีวิตกว่า 2.6 หมื่นคน!

แม้บางชาติจะสยบ หรือควบคุม “โควิดฯ” ให้ชะลอลงได้จนเป็นที่น่าพอใจแล้วก็ตาม แต่กระนั้น.. “โควิด-19” ก็ยังคงระบาดคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไม่หยุดยั้ง อีกมากมายหลายชาติ กำลังถูก “โควิดฯ” บุกทำลายชีวิตผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังประเทศ “บราซิล” ที่กำลังเผชิญกับการระบาดของ “โควิดฯ”อย่างหนักอยู่ในขณะนี้..

ศึกสงคราม “โควิดฯ” กับ “มนุษย์โลก”ครั้งนี้ ทำให้ชาวโลกเห็นอย่างชัดแจ้งว่า “ผู้นำหลายชาติ” ที่กำลังต่อสู้กับ “โควิดฯ” อยู่นั้น มีคุณภาพน่าชื่นชม หรือด้อยคุณภาพน่าตำหนิ โดยเฉพาะประธานาธิบดี “โดนัลด์ทรัมป์” ของมะกัน ได้แสดงวุฒิภาวะที่ไร้คุณภาพอย่างมาก รวมทั้งยังผิดพลาดกับการต่อสู้กับ “โควิดฯ” หลายเรื่อง เช่น

“ทรัมป์” ละเลยไม่ใส่ใจมากเท่าที่ควร กับสัญญาณเตือนภัย การระบาดของ “โควิดฯ” อีกทั้งยังรับมือกับการระบาดของ “โควิดฯ” ช้าเกินควร โดย “ทรัมป์” ให้สัมภาษณ์ในการชุมนุมประจำปี ของผู้นำระดับโลก ที่เมืองดาวอส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563

โดย “ทรัมป์” ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อภัยคุกคาม ซึ่งเกิดจากไวรัส “โควิดฯ” ในชาติจีน ที่เพิ่งแพร่ติดต่อมาถึงชายฝั่งอเมริกาในวันนั้น จาก “คนไข้เดี่ยว” ในมลรัฐวอชิงตัน..

แถม “ทรัมป์” ยังคุยโม้ผ่านจอโทรทัศน์ของ “ซีเอ็นบีซี ”ว่า “คนป่วยมีคนเดียว เป็นผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐจากประเทศจีน เราสามารถควบคุมมันได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว มันจะเรียบร้อยไม่มีอะไรหรอก”

”ทรัมป์” ยังดูแคลน ”โควิดฯ” ว่าเป็นแค่ ”ไข้หวัดธรรมดา”เท่านั้น โดย ”ทรัมป์” ได้ประกาศโฆษณาชวนเชื่อต่อชาวมะกันว่า เดือนเมษายน”โควิดฯ”จะหายไปอย่างแน่นอน! แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เพราะเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านไป “ทรัมป์”ทำให้อเมริกาเจอโรคระบาด จนชาวมะกันติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างมากมาย จนพุ่งพรวดเป็นอันดับ 1 ของโลกไปเลย

11 สัปดาห์หลัง “ทรัมป์” ให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น ขณะที่ “โควิดฯ” ระบาดลุกลามไปทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกันชนนั่นแหละ ที่ต้องติดเชื้อและล้มตายมากจนแซงชาติอื่นทั้งโลก! สังคมชาวโลกก็ได้เกิด “กฎเกณฑ์ใหม่” หรือ “New Normal” เข้ามาแทนที่ “กฎเกณฑ์เก่า” หรือ “Old Normal”มากมายหลายๆเรื่อง เช่น การแพทย์นำหน้าเศรษฐกิจเพื่อต้าน “โควิดฯ”

ชีวิตของผู้คนทั่วโลก ที่เคยปฏิบัติอย่างเคยชิน ต้องเปลี่ยนแปลงมาเป็น การรักษาสุขภาพขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการติดเชื้อจาก “โควิดฯ” อย่างเคร่งครัด โดยมีทั้งการ “ปิดล็อกเมือง-ปิดล็อกชาติ” ชนิดเข้มข้น ตามสภาพการณ์จริงของแต่ละชาติ รวมทั้งต้องทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนในสังคมต้องลดหรือหยุดสันทนาการ ด้วยการเก็บตัวเว้นระยะห่างกัน เพื่อมิให้โรคร้ายระบาดสู่กันนั่นเอง ฯลฯ

การเดินทางไปไหนมาไหน ต้องใส่ “หน้ากากอนามัย” กันเชื้อ “โควิดฯ” กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดต่างๆ ทำให้การไปมาหาสู่ของผู้คน ทั้งภายในแต่ละชาติและทั่วโลกแทบหยุดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำดิ่งเหวอย่างฉับพลัน

เรียกว่า..ทุกสังคมของมนุษย์ เกิดการปิดกั้นและมีกฎเกณฑ์เพิ่มขึ้นมากมาย ทำให้ผู้คนที่ยากจนส่วนใหญ่ทั่วโลก ต้องขาดแคลนทั้งเงินทองและอาหารการกิน ความยากแค้นลำเค็ญแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางทั่วโลก

“ทรัมป์” พยายามแก้ตัว ด้วยการโยนความผิดของตนเอง ในการบริหารชาติต่อสู้กับ “โควิดฯ” ผิดพลาด “ทรัมป์” อ้างว่า “จีนกับ WHO เป็นตัวการทำให้โควิดฯระบาดในอเมริกาและทั่วโลก”!

“ทรัมป์” ออกอาการเป็น “อันธพาลโลก” ถึงขนาดประกาศจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจีน และจะตัดงบประมาณที่เคยให้กับ WHO อีกด้วย แถม “ทรัมป์” ยังเล่นการเมืองกับบรรดา “ผู้ว่าการมลรัฐ” ด้วยการไม่สนับสนุนงบประมาณ และอุปกรณ์การแพทย์เท่าที่ควร ให้กับมลรัฐที่ล็อกเมือง ป้องกันผู้คนเดินทางไปมาระหว่างเมืองต่างๆ อันเป็นต้นเหตุหนึ่งในการระบาดของ “โควิดฯ”

โดย “ทรัมป์” ได้ประกาศให้เปิดเมือง เพื่อคืนเมืองคืนชาติสู่ธุรกิจดังเดิม ด้วยหลักคิดที่ยึดถือ “เงินทอง” สำคัญกว่า “ชีวิตมนุษย์” นั่นเอง..ล่าสุด..ใครจะตาย “ทรัมป์” ไม่สน เพราะ “ทรัมป์” กำลังจะยุบศูนย์ต้านโควิดฯ เพื่อลุยเศรษฐกิจกันแบบเต็มร้อยในเร็วๆนี้แล้ว.. เฮ้อ..เวรกรรม..

เมื่อ “ทรัมป์” ล้มเหลวในการต่อสู้ กับ “โควิดฯ” แทบทุกมิติในชาติมะกัน “ทรัมป์” จึงต้องฝากความหวังไว้กับอีกหนทางหนึ่ง นั่นคือ การค้นพบ “วัคซีน” มาควบคุม “โควิดฯ” โดยเร็วที่สุด

“ทรัมป์”ได้ประกาศให้เงินทุนไม่อั้น กับคณะวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน โดย “ทรัมป์”ประกาศ อเมริกาจะต้องมี “วัคซีน”ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 นี้ รวมทั้งจะต้องผลิต “วัคซีน” มากถึง 300 ล้านโด๊ซ เพื่อนำมาฉีดป้องกัน “โควิดฯ” ให้กับชาวอเมริกันกว่า 200 ล้านคนนั่นเอง

ทั้งๆที่วงการแพทย์นานาชาติทั่วโลก อีกทั้ง WHO ที่กำลังวิจัยค้นหา “วัคซีน” รวมทั้งภาคเอกชนระดับมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลกอย่าง “บิลล์ เกตส์” ที่บริจาคเงินกับอุปกรณ์การแพทย์มากมาย และมีโรงงานถึง 7 แห่งเพื่อทำโครงการผลิต “วัคซีน” ต่อต้านและป้องกัน “โควิดฯ” ได้ระบุตรงกันว่า

โลกจะมี “วัคซีน” ที่ดีมีคุณภาพฯ ไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพผู้คนในภายหลัง ผู้เชี่ยวชาญในการผลิต “วัคซีน” เชื่อว่า โลกจะได้ “วัคซีนดีมีคุณภาพ” ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ปี.. ดังนั้น ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 ที่ “ทรัมป์” ต้องการนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ยากมาก

แม้วันนี้จะมีบางชาติอ้างเป็นตุเป็นตะว่า “จะผลิดวัคซีนได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้”! แถมบางชาติยังโอ้อวดว่า “ชาติตนผลิตวัคซีนต้านโควิดฯได้เรียบร้อยแล้ว” ฯลฯ

เฮ้อ..เมื่อ “ทรัมป์” ทำให้การวิจัยค้นคว้า “วัคซีน” กลายเป็นเรื่องการเมืองเฉพาะหน้า ที่ “ทรัมป์” จะใช้กลบความล้มเหลวในการบริหารอเมริกา จากการทำให้ “มะกันชน” ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก จน “ทรัมป์” ร้อนรนกับการเร่งรัดการวิจัยค้นคว้า อาจทำให้ “วัคซีน” ไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร..

ใช่เลย..วันนี้ชาวโลกล้วนตั้งความหวัง สยบ “โควิดฯ” ด้วย “วัคซีนดี” มีคุณภาพ..!

ส่วนในชาติไทยยุครัฐบาล “บิ๊กตู่” ! โควิดฯ-ยังขยันกินคน! ผู้นำชาติ..ยังขยันทำงานทั่วๆไป! บุคลากรการแพทย์..ยังขยันทำงานด้วยคุณภาพ! นักการเมืองหลายคน..ยังจมปลักน้ำเน่าเหมือนเดิม! ประชาชนส่วนใหญ่..ยังขยันทำตามแบบที่รัฐต้องการ แต่ก็ยังคงอดอยากยากจนแสนสาหัสเหมือนเดิม(ว่ะ)!

แม้ “บิ๊กตู่” จะมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นในบางเรื่อง! แต่เรื่องแก้ต้นเหตุสำคัญต่างๆ ให้ชาติ “บิ๊กตู่” ยังเก่าคร่ำครึเหมือนเดิม!

โดยเฉพาะการเมืองในพรรคแกนนำรัฐบาล “นักการเมืองหลายคน”ที่ไร้คุณภาพ ยังหลับหูหลับตาแย่งอำนาจกันโดยไม่ดูกาลเทศะ ว่าควรทำหรือไม่ ในห้วงที่ บุคลากรทางการแพทย์กับประชาชน กำลังต่อสู้อย่างเอาจริงเอาจัง กับการควบคุม “โควิดฯ” ในชาติไทยให้ได้โดยเร็วที่สุด..

“บุคลากรทางการแพทย์” สร้างสิ่ง “ใหม่” จนเกิด “New Normal” ที่ดีหลายเรื่องให้ชาติไทย!

แต่ “บิ๊กตู่” ที่ไม่ปฏิรูปการเมือง ยังทำสิ่ง “เก่า” ย่ำอยู่กับ “Old Normal” ทำให้ “การเมืองไทยน้ำเน่ายิ่งกว่าเดิม”(ว่ะ)!

กำลังโหลดความคิดเห็น