xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

รถยนต์ไตรมาสแรกยอดลดฮวบ โตโยต้าขยายปิดโรงงานเพิ่ม มาสด้าชี้ “ยังไม่เห็นทิศทางที่สดใส”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ก็ต้องลุ้นกันว่า บรรดา “รถใหม่” ที่เปิดตัวในช่วงนี้จะสามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้มากน้อยแค่ไหน
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับการขาย “รถยนต์” ในห้วงเวลานี้ที่สภาพเศรษฐกิจถดถอยมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งบวกกับปัญหาการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ด้วยแล้ว ยิ่งเห็นชัดเจนว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ยอดขายลด “ฮวบฮาบ” กันเลยทีเดียว

กล่าวคือยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.63) ทำได้ 200,959 คัน ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ขายได้ 263,549 คัน โดยในเดือนมกราคม 71,688 คัน จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเหลือ 68,271 คัน และเดือนมีนาคม 61,000 คัน จะเห็นว่าตัวเลขการขายลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าเดือนเมษายนนี้จะลดลงต่ำกว่า 60,000 คัน

ยิ่งถ้าเทียบกับตัวเลขยอดขายไตรมาสแรกของปีก่อนหน้านี้ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงขนาดไหน เพราะต่ำสุดในรอบ 3 ปีเลยทีเดียว กล่าวคือ ไตรมาสแรกของปี 2560 ขายได้ 210,124 คัน ปี 2562 ขายได้ 237,093 คัน และปี 2563 ขายได้ 200,959 คัน

ขณะที่บรรดา “โรงงานประกอบรถยนต์” ที่เคยปิดตัวก่อนหน้านี้ก็ส่งสัญญาณขยายระยะเวลาในการปิดเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น “บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด” ที่เดิมหยุดพักการเดินสายการผลิตรถยนต์ของโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าในประเทศไทย ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า สำโรง จ.สมุทรปราการ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าบ้านโพธิ์ และ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นการชั่วคราว ในระหว่าง วันที่ 7 เมษายน จนถึงวันที่ 17 เมษายน 2563 ก็ขยายการปิดออกไปจนถึงวันที่ ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563

ทั้งนี้ ทั้ง 3 โรงงานของโตโยต้ามีกำลังการผลิตต่อปีมากถึง 760,000 คัน แบ่งเป็นโรงงานเกตเวย์ 30,000 คัน โรงงานสำโรง 240,000 คัน และโรงงานบ้านโพธิ์ 220,000 คัน

...ก็ไม่รู้ค่ายอื่นจะเจริญรอยตามหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยความสำเร็จการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ 2019 หรือ Fiscal Year 2019 ซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยยอดขายรถยนต์ใหม่กว่า 52,000 คัน โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังฮอตสุด ด้วยยอดขายสูงเกือบ 37,000 คัน ครองเบอร์หนึ่งรถเก๋งเล็ก 3 ปีติดต่อกัน ตามติดมาด้วย Mazda3 ยอดขายเกือบ 5,000 คัน และที่กำลังมาแรงมากที่สุดคือ CX-30 และ CX-8

อย่างไรก็ดี นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวยอมรับว่า ตลาดรถยนต์ในช่วงปีที่ผ่านมาจะมีการแข่งขันที่สูงมาก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกรอบทิศทาง โดยมาสด้าทำยอดขายรวมได้ 51,702 คัน ขยายตัวลดลง 27% ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.5% ในขณะที่อุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 11% ด้วยตัวเลข (ประมาณการ) อยู่ที่ 944,000 คัน

ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกของปี 2563 แม้จะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม โดยเฉพาะจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่งผลต่อภาพรวมด้านเศรษฐกิจในปีนี้เกิดการชะลอตัวลง

สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้นั้น มาสด้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยสามารถปิดยอดขายในไตรมาสแรกสูงถึง 10,152 คัน โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยังคงความแรงด้วยยอดขายรวม 7,678 คัน นำโดยมาสด้า2 ด้วยยอดขาย 6,733 คัน และมาสด้า3 จำนวน 945 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร มียอดขายรวม 667 คัน ในส่วนรถอเนกประสงค์มียอดขายรวมที่ 1,805 คัน ซึ่งรถยนต์ CX-8 ครอสโอเวอร์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแบบครอบครัว ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีโดยมียอดขายรวมมาเป็นอันดับหนึ่งในเซ็กต์เมนต์นี้ จำนวน 575 คัน ตามมาติดด้วย CX-5 จำนวน 467 คัน ที่ร้อนแรงสุดเพิ่งเปิดตัวได้เพียงเดือนเดียว คือ CX-30 มียอดขายในเดือนแรกสูงถึง 441 คัน ส่วน CX-3 ครอสโอเวอร์น้องเล็กสุด จำนวน 322 คัน และรถสปอร์ตเปิดประทุน MX-5 จำนวน 2 คัน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ยังได้แสดงวิสัยทัศน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้ว่า แม้ว่าจะยังมองไม่เห็นทิศทางที่สดใส อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศและทั่วโลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งทางด้านอุตสาหกรรม ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะชะลอตัวลงและต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น มากกว่าที่ประเมินไว้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

มาสด้า2 ฮอตสุด ด้วยยอดขายสูงเกือบ 37,000 คัน ครองเบอร์หนึ่งรถเก๋งเล็ก 3 ปีติดต่อกัน

โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า สำโรง จ.สมุทรปราการ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าบ้านโพธิ์ และ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา ปิดเพิ่มเติมไปจนถึง 30 เมษายน 2563
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั้งโลกก็ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเดมเลอร์ เอจี ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลดลง 14.9% ในไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ยอดขายปลีกรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลกในไตรมาส 1/2563 ลดลงแตะ 477,378 คัน เนื่องจากการปิดตัวของศูนย์จำหน่ายชั่วคราวได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก

ส่วนที่จีน สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน (CAAM) เปิดเผยว่า จีนมียอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรก 3.7 ล้านคันหรือลดลง 42% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่ได้เผชิญวิกฤตโรคระบาดเช่นนี้ ยอดขายรถยนต์ในช่วงต้นปีของจีนจะสูงถึงกว่า 6 ล้านคัน โดยยอดขายรถยนต์ในจีนดิ่งลงอย่างหนักในเดือนกุมภาพันธ์ โดยลดฮวบลงไปถึง 79% ด้วยยอดขายเพียง 310,000 คัน ส่วนยอดขายรถยนต์เดือนมีนาคมกระเตื้องขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ มาแตะที่ 1.43 ล้านคัน แต่ก็ยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดขายเดือนมีนาคม ลดลง 43% เมื่อเทียบเป็นรายปี

หรือที่อังกฤษ สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) ของอังกฤษ เปิดเผยว่า ยอดขายรถใหม่ในสหราชอาณาจักร ปรับตัวลดลง 40% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และทำให้ผู้ที่เล็งว่าจะซื้อรถต้องพับแผนการที่จะซื้อรถยนต์ไปก่อน

สมาคมฯ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์อยู่ที่ราว 250,000 คันในเดือนมีนาคมซึ่งโดยปกติแล้วเป็นหนึ่งในสองเดือนที่มียอดขายรถยนต์สูงที่สุดของปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นยอดขายที่อ่อนแอที่สุดของเดือนมีนาคมนับตั้งแต่ปี 2542

…เพราะฉะนั้น งานนี้ต้องบอกว่า ยาวไป ยาวไป อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังที่ เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะปรับตัวลงเกือบ 15% ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

กำลังโหลดความคิดเห็น