xs
xsm
sm
md
lg

จะเชื่อใครดีระหว่าง CDC กับทรัมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



คำเตือนจากคุณหมออเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อและการระบาดของเชื้อโรค แก่สาธารณชนอเมริกันเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และมาหนักข้อเอาเมื่อค่ำวันอังคารนี้เอง เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อได้ขยายไปถึงยุโรป และเริ่มเพิ่มมากขึ้นเกินครึ่งร้อยในสหรัฐฯ

คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการในระดับผอ.ของหน่วยงานที่อยู่ใต้สังกัดของ CDC หรือ Centers for Disease Control and Prevention ของสหรัฐฯ เช่น

คุณหมอ Nancy Messonnier ซึ่งเป็นผอ.ศูนย์แห่งชาติการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ “National Center for Immunization and Respiratory Diseases” (ซึ่งสังกัด CDC) ได้เดินสายให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางทีวีช่องสำคัญๆ เช่น CNN, CBS, ABC รวมทั้งสถานีข่าวเศรษฐกิจ CNBC โดยเธอเตือนด้วยความหวังดีว่า การลุกลามของเชื้อไวรัส COVID-19 ตัวใหม่ที่ได้ฆ่าคนไปเกือบ 3 พันคนทั่วโลกนี้ กำลังจะระบาดทั่วสหรัฐฯ ซึ่งสถานการณ์ที่จะระบาดใหญ่ในสหรัฐฯ (ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อราว 60 คน แต่ตัวเลขยังไม่หยุด)...ไม่ใช่ว่า จะระบาดใหญ่หรือไม่ (... “IF”) แต่...คำถามคือ มันจะระบาดใหญ่ในสหรัฐฯ เมื่อใด (...When?) ต่างหาก...

คือ จะเกิดขึ้นแน่ๆ เพียงแต่ในวันใดยังกำหนดเป๊ะลงไปไม่ได้ เพราะด้วยโลกาภิวัตน์และการเดินทางติดต่อกันทั่วโลก ย่อมปิดพรมแดนสนิทไม่ได้อยู่ดี (ถึงจะพยายามก็เถอะ)

เธอเตือนว่า ในไม่ช้า สังคมอเมริกันจะต้องเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดมฤตยูนี้...เช่น.. .การปิดโรงเรียนโดยทั่วไป (หันมาเรียนทางอินเทอร์เน็ต) รวมทั้งบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็จะต้องปิดทำการ บางส่วนอาจต้องทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต, วิดีโอ Conferencing โรงพยาบาลต่างๆ อาจต้องเลื่อนการผ่าตัดสำหรับกรณีคนไข้ที่ยังพอรอได้ รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคไวรัสใหม่นี้ยังไม่เกิดขึ้น-ต้องรออย่างน้อย 1 ปี

ยังมีคุณหมอ Anthony Fauci ผอ.ของสถาบันแห่งชาติ เรื่องโรคติดต่อ (National Institute of Allergy and Infection Discases) ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (Department of Health and Human Services) ซึ่งออกมาแสดงความห่วงใยต่อการขยายลุกลามของเชื้อโรคนี้ ในสหรัฐฯ เพราะขณะนี้อากาศยังหนาวเย็น และผู้ติดเชื้อน่าจะลดลงเมื่ออากาศอุ่นขึ้น แต่โรคระบาดน่าจะกลับมาอีกในฤดูหนาวถัดๆ ไป

แน่นอน ตลาดหุ้นที่สหรัฐฯ ได้ตอบรับต่อการลุกลามของเชื้อไวรัสนี้ที่ขยายตัวเร็วมากนอกเขตจีนไปแทบทุกทวีปแล้ว นอกจากเขตอเมริกากลาง, แอฟริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ (ซึ่งอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตร และมีฤดูกาลเป็นฤดูร้อนในช่วงธันวาคมถึงมีนาคม จึงยังไม่มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสร้ายตัวนี้ แต่ต่อจากนี้ โซนที่อยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรจะเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วง และเข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนกรกฎาคม สิงหาคมนี้แหละ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ที่บราซิลเริ่มมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย-ที่ติดมาจากอิตาลี)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่ง 2 วัน (จันทร์-อังคาร) ถึง 5% ที่ยุโรปก็ดิ่งเกือบ 10% ใน 2 วันเช่นกัน

สำหรับตลาดหุ้นนับเป็นหัวใจที่ปธน.ทรัมป์คุยนักคุยหนาว่า เขาคนเดียวทำให้ดัชนีตลาดหุ้นอเมริกามีแต่ปรับขึ้นทำลายสถิติ ดังนั้น เมื่อดัชนีดาวโจนส์ตกไปเกือบ 2 พันจุด ก็จะกระทบต่อความน่าเชื่อถือทางการเมืองของทรัมป์

ขณะที่ทรัมป์อยู่ระหว่างไปเยือนอินเดีย และกำลังชื่นมื่นอยู่กับนายกฯ โมดี ก็เจอคำถามผู้สื่อข่าวถึงความตื่นตระหนกต่อการลุกลามของเชื้อไวรัส COVID-19 ไปทั่วโลก รวมทั้งที่กำลังจะลามเข้าสู่สหรัฐฯ...ทรัมป์ตอบทันควันว่า สหรัฐฯ เตรียมตัวพร้อมที่สุดกว่าทุกๆ ประเทศ โรคนี้ไม่น่ากลัว มันผ่านมาแล้วก็จะผ่านไปโดยรวดเร็ว...ไม่มีอะไรน่าห่วง... หน่วยงานของเราเตรียมพร้อมดีที่สุด (ในโลก) เราจะมีวัคซีนออกมาอย่างรวดเร็ว (กว่าคนอื่น)...สหรัฐฯ “เอาอยู่” (โอ้ย! ช่างคลับคล้ายกับเจ้าแม่สาวสวยใส่ขนตาปลอมอดีตผู้นำของไทยที่ชอบ... “Thank You Three Times”...ได้เอ่ยวลีนี้เพื่อปลอบเหล่ามวลผู้ชื่นชมในตัวนาง รวมทั้งประชาชนชาวไทยให้หลงเชื่อ...แล้วนอนหลับสบาย-ว่า น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ)

ปรากฏคำพูดของ “เด็กเลี้ยงแกะ” อย่างทรัมป์ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นนิวยอร์กให้หยุดเทขายแบบ panic ได้

ระหว่างบินบน Air Force-1 กลับจากเยือนอินเดียมายังทำเนียบขาว-เขาได้เขียนทวิตเตอร์ถี่ยิบ เพื่อให้ความมั่นใจแก่สังคมอเมริกันว่า โรคร้ายนี้จะไม่สามารถลุกลามในอเมริกา เพราะเขามั่นใจในสมรรถนะของทางการอเมริกันว่า จะจำกัดการลุกลามได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และนัดแถลงเรื่องนี้อย่างด่วนในค่ำวันพุธทันที

ฝ่ายเดโมแครตโดยผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ชัค ชูเมอร์-ส.ว.อาวุโสแห่งรัฐนิวยอร์ก-ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณที่ทำเนียบขาวได้ตั้งไว้สู้กับโรคร้ายนี้ มันน้อยนิดแค่ 1,250 ล้านเหรียญ ไม่มีทางไปสู้กับการป้องกันการลุกลามของโรคได้-และยังสำทับด้วยว่า 3 ปีภายใต้การบริหารของทรัมป์ ทำเนียบขาวได้ตัดงบด้านสาธารณสุขอย่างมากมายจนขณะนี้ทางการไม่มีบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงพอที่จะรับมือกับการระบาดใหญ่ของโรคร้ายนี้

ประธานสภาล่างแนนซี เพโลซี ก็ออกมาแสดงความห่วงใยที่ทรัมป์ทำงานแบบตั้งรับต่อโรคร้ายนี้ แทนการ “รุก” อย่างทันท่วงที และงบที่ทรัมป์ได้ตัดมากมายด้านสาธารณสุข (ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐที่ทีมเดโมแครตมักจะตั้งงบเอาเผื่อไว้สูงหน่อย แต่รีพับลิกันจะตัดออกมาก โดยกล่าวหาว่าเป็นงบที่เดโมแครตไว้ใช้รักษาคนจนที่เป็นฐานเสียงของเดโมแครต) เพราะทรัมป์จะเพิ่มก็แต่งบที่จะไปสร้างกำแพงกั้นชาวละตินไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ

หลายคนกำลังใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่า ผอ.ของ CDC และ N11 จะถูกปลดออกหรือเปล่า เพราะกำลังให้ข้อมูลเตือนประชาชนจนทำให้หุ้นตก และพูดไม่เหมือนที่ทรัมป์พูด...อาจถูกข้อหา-สร้างความตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุแก่เศรษฐกิจและสังคม-ยังดี-ไม่ถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายชาติ!!

ทรัมป์ออกมาแถลงเรียกความเชื่อมั่นต่อประชาชนในค่ำวันพุธ พร้อมตั้งรองปธน.Mike Pence เป็นผู้ดูแลป้องกันโรคระบาดครั้งนี้ (ซึ่งบางคนมองว่า ทรัมป์ตีตัวออกจากความรับผิดชอบ เผื่อเกิดสถานการณ์ “เอาไม่อยู่” เขาจะได้ไม่โดนเต็มๆ)

หุ้นวันพุธก็ยังไม่ดีขึ้น และคาดว่า แม้ทรัมป์จะเพิ่มงบสู้โรคระบาดนี้ 1 เท่าตัวเป็น 2,500 ล้านเหรียญ ก็อาจจะยังไม่พอรับมือกับการลุกลามของโรคครั้งนี้

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา
กำลังโหลดความคิดเห็น