xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นศาลฯตีความงบฯ63 เคลียร์ปมส.ส.เสียบบัตรแทนกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จากกรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวพร้อมแสดงหลักฐานว่า มีการเสียบบัตรแทนกันในการโหวต ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 โดยนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ขณะที่มีการโหวตนั้น
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เลขาธิการสภาฯได้สรุปรายงานการตรวจสอบแล้วว่า มีการเสียบบัตรแทนกันจริง และไม่พบว่ามีการ เสียบบัตรค้างไว้ข้ามคืน ซึ่งเบื้องต้นมีความเห็นร่วมกันกับฝ่ายเลขาธิการสภาฯว่า ถ้าจะนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องไม่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้มีเวลาอีก 3 วัน ที่สมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของทั้งสองสภา จะสามารถเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ภายใน 3 วัน หลังจากวุฒิสภา มีมติเห็นชอบ
ส่วนกรณีเสียบบัตรเเทนกัน จะทำให้ร่างกฎหมายตกไปทั้งฉบับ หรือไม่นั้น เคยเกิดขึ้นกรณีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ปี 2557 ซึ่งนอกจากการเสียบบัตรแทนกันแล้ว ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่เป็นเหตุให้ร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณี ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ต้องพิจารณาที่ข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่า ควรทำเรื่องให้ชัดเจน ดีกว่าปล่อยให้เคลือบแคลงสงสัย
** "วิษณุ"รับกระทบงบประมาณล่าช้า
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้คุยกับนายกฯ เป็นการส่วนตัวถึงเรื่องนี้ แต่เป็นการพูดกันแบบไม่ได้เป็นทางการ
เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงกันว่าจะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 มีความล่าช้าออกไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวยอมรับว่าอาจทำให้ล่าช้า แต่ไม่คิดว่าจะมีผลจะกระทบจนทำให้เกิดความเสียหายอะไร แค่ล่าช้าเท่านั้น ซึ่งหากมีการร้องต่อศาลฯเราก็ต้องรอ ซึ่งความช้านั้นมีแน่ และเราได้คิดเอาไว้แล้วว่า ถ้าช้าเราจะทำอย่างไร แต่ยังบอกไม่ได้ รอให้มีความชัดเจนก่อน ได้อธิบายให้นายกฯฟังแล้ว
เมื่อถามว่าจะต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ควรต้องเป็นอย่างนั้น แต่อยู่ที่ว่าใครจะเป็นคนทำ เพราะคนทำมีเยอะ ส.ส.ก็ทำได้ ส.ว.หรือรัฐบาล ก็ทำได้ แต่ถ้าส.ส.ทำน่าจะเหมาะกว่า ซึ่งอันดับแรก ก่อนจะยื่นศาลฯ ต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้ถือว่าสำคัญ เพราะการตรวจสอบก่อน จะทำให้เกิดความชัดเจนว่า จะต้องแก้ด้วยวิธีไหน
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา เผยว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว.ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ส่งมาจากสภาฯอย่างเป็นทางการ จึงถือว่าเป็นร่างที่ถูกต้อง ส.ว.มีภารกิจที่ต้องพิจารณาให้เเล้วเสร็จภายใน 20 วัน เเม้จะปรากฏเป็นข่าว เเต่ประธาน ส.ว. ก็มีดำริว่ารธน.ไม่เปิดช่องให้ส.ว.ดำเนินการที่เป็นอื่น
นอกจากนี้ ทุกฝ่ายยังเห็นตรงกันว่า ไม่ใช่หน้าที่ของวุฒิสภา หรือเเม้เเต่สภาผู้เเทนฯ ที่จะตัดสินได้ แต่เป็นหน้าที่ขององค์กรตามรธน. คือ ศาลรธน. ที่จะต้องเป็นผู้พิจารณา
** 90 ส.ส.เข้าชื่อส่งศาลรธน.ตีความ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 90 คน ได้เข้าชื่อกันตามเงื่อนไข ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ศาลรธน. วินิจฉัยกระบวนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 เนื่องจากมีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตน และลงมติ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม
ทั้งนี้ ประเด็นที่ขอให้วินิจฉัยมี 3 ประเด็น ได้แก่ 1. กระบวนการ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ขัดหรือแย้งกับหลักการการออกเสียงลงคะแนน ตามรธน.มาตรา 120 หรือไม่ 2. หากมีปัญหาจะมีปัญหาทั้งฉบับ หรือเฉพาะมาตรา ที่มีปัญหา และ 3. จะดำเนินการในแต่ละกรณีต่อไปอย่างไร
ส่วนที่เผยแพร่คลิปเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ด้วยนั้น นายวิรัช กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าคลิปดังกล่าวอยู่ในกระบวนการลงมติเรื่องอะไร แต่ในที่ประชุมพรรคก็ย้ำว่า ส.ส.ต้องอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ส่วนจะต้องแสดงความรับผิดชอบ หากร่างกฎหมายตกทั้งฉบับหรือไม่นั้น นายวิรัช บอกว่า ยังไม่ทราบ แต่ต้องเข้าใจว่าเครื่องลงมติ มีเพียง 350 เครื่อง แต่จำนวนสมาชิกมีถึง 500 คน จึงต้องสลับกันเสียบบัตร ส่วนที่มีคลิปบุคคลคนเดียวกัน เสียบบัตรแทนกันหลายใบ ก็ต้องไปดูตามข้อเท็จจริงโดยวิปรัฐบาล มีหน้าที่ต้องยื่นให้ศาลรธน.วินิจฉัย เมื่อเกิดเหตุอันควรสงสัย ภายใน 3 วัน หลังวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบ วิปรัฐบาลจึงตัดสินใจยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาโดยทันที เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
**ฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นตีความด้วย
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันลงชื่อทั้งหมด 84 คน เพื่อยื่นประธานสภาฯ ส่งเรื่องให้ศาลรธน.วินิจฉัย ตามมาตรา 148 (1)ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ตราขึ้นชอบด้วยรธน. หรือไม่ เพราะมีหลักฐานชัดว่ามีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ซึ่งการยื่นของฝ่ายค้านต่างจากรัฐบาล ที่ยื่นให้พิจารณาใน มาตรา120 โดยรัฐบาล ยื่นในส่วนของการออกเสียงแทนกันในการลงคะแนน แต่ของเราเห็นว่า กระบวนการตรา พ.ร.บ.งบฯ ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรธน. ซึ่งรธน. ให้สิทธิเราเสนอก่อนที่ประธานสภาจะนำ พ.ร.บ.ที่ผ่านการพิจารณาของสองสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ทั้งนี้ หากศาลรธน.วินิจฉัยตามคำร้องของฝ่ายค้านว่า กระบวนการตราพ.ร.บ.งบฯ ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรธน. ถ้าบทบัญญัตินั้นเป็นสาระสำคัญ เป็นอันให้กฎหมายฉบับนั้นตกไป ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลฯ อย่างไรก็ตาม กระบวนการตรา พ.ร.บ.เป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อถามว่า หาก พ.ร.บ.งบฯ เป็นโมฆะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อไป ควรเป็นไปในแนวทางใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ใน่สวนที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบคือ เราจะเทียบเคียงกับกรณีที่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่เห็นชอบ ซึ่งกรณีนั้น เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ไม่สามารถใช้เสียงข้างมากของรัฐบาลได้ แปลว่า บริหารประเทศไม่ได้ ต้องลาออก หรือยุบสภา หากเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นความรับผิดชอบของสภาฯในเรื่องของกระบวนการ ฉะนั้นการที่จะคาดหวังให้รัฐบาลลาออกคงเป็นไปไม่ได้ คนที่รับผิดชอบคือ ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องหามูลเหตุ และหาข้อเท็จจริงให้ได้
**แนะรัฐบาลออก พ.ร.ก.งบฯแทน
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนี้ ถ้าเทียบเคียงกับกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้านบาท ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีการเสียบบัตรแทนกัน และศาลฯ ได้มีคำวินิจฉัยให้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นโมฆะ จึงอาจทำให้ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 สุ่มเสี่ยงที่จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การจะให้สภาฯ กลับมาพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประมาณ 63 ใหม่ทั้งฉบับอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเรื่องยาก และเสียเวลามาก หรือที่มีการเสนอให้ลงมติใหม่ เฉพาะในวาระที่ 3 นั้น ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่า มีการเสียบบัตรแทนในวาระ 2 หลายๆมาตราด้วย และการลงมติ ในวาระ 3 เป็นการพิจารณาทั้งฉบับ เมื่อการพิจารณาในวาระ 3 เป็นโมฆะ ก็ต้องเป็นโมฆะทั้งฉบับด้วย จึงจำเป็นต้องออกเป็นร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ขึ้นมาทดแทน
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาการใช้จ่ายเงินงบประมาณของประเทศอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ตนจึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ออกเป็นพ.ร.ก.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ขึ้นมาทดแทนในทันที เมื่อประกาศใช้บังคับแล้ว ค่อยนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ในภายหลัง
**"อนุทิน"สั่งตั้งกก.สอบ"ฉลอง-นาที"
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตอนนี้พรรคได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว และก่อนหน้านี้ ตนได้กำชับเรื่องการโหวตลงคะแนนในสภาฯ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ และได้ตำหนินายฉลองไปแล้ว ถึงเรื่องการจัดลำดับความสำคัญว่าควรทำหน้าที่โหวตในสภาฯ หรือทำเรื่องส่วนตัว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุมพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน คาดโทษ นายฉลองว่าห้ามเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก และกำชับส.ส. ทุกคนว่า ห้ามลืมบัตรไว้ในสภาฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น