วานนี้ (20 ม.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าจากการตรวจสอบเกี่ยวกับการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ของสภาฯ พบว่ามี ส.ส.กดบัตรแทนกันในที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 10 ม.ค. เวลาประมาณ 20.50 น. ที่มีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 พบว่ามี ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน คือนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ซึ่งใน วัน เวลาดังกล่าว พบว่านายฉลอง เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ แต่กลับปรากฏชื่อร่วมเป็นองค์ประชุม และมีชื่อนายฉลอง ร่วมลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าวมาตลอด ตั้งแต่ มาตรา 39 มาตรา 40 และในเวลา 17.34 น.-17.38 น. วันที่ 11 ม.ค. มีชื่อนายฉลอง ลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 ทั้งๆ ที่ในวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาตินั้น ได้มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางเฟซบุ๊ก ของเทศบาลตำบลอ่างทอง จ.พัทลุง ระบุ นายฉลอง ไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานในเวลา 09.30 น. และในวันเดียวกัน ยังได้ไปเปิดงานวันเด็ก ที่ อบต.ชะมวง อ.ควนขนุน อีกด้วย และที่สำคัญนายฉลอง เดินทางกลับกทม. จากสนามบินนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลา 11.55 น. แสดงให้เห็นว่า นายฉลองไม่ได้อยู่ที่สภาฯในวันดังกล่าว
"อาจอ้างว่าเป็นการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน แต่อยากจะอธิบายว่า โดยปกติเมื่อสภาฯมีการปิดประชุม เจ้าหน้าที่ของสภาฯจะดึงบัตรออกในวันนั้น หรือไม่ก็ตอนเช้าก่อนประชุมเพื่อเคลียร์ระบบ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเซ็ตระบบไม่ได้ จึงเป็นที่สงสัยว่า เมื่อมีการปิดประชุมไปแล้วและกลับมาประชุมอีกครั้ง ทำไมถึงมีชื่อนายฉลอง มาโหวตในช่วงดังกล่าวได้" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ดังนั้นการลงมติพ.ร.บ.งบฯ ตั้งแต่ มาตรา 39 เป็นต้นไป ย่อมไม่ชอบด้วยรธน. เนื่องจากมีการเสียบบัตรแทนกัน แต่เรื่องนี้จะมีการยื่นให้ศาลรธน.พิจารณาความชอบด้วยรธน. ของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ เป็นหน้าที่ของส.ส. และเชื่อว่าการที่ตนออกมาตรวจสอบในเรื่องนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้สภาฯ ต้องตรวจสอบต่อไป และหาทางที่จะไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ มีปัญหาเหมือนกับคำวินิจฉัยของศาลรธน. ที่ 3-4/2557 กรณีการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
เมื่อถามว่าหาก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นโมฆะจะส่งผลอย่างไรบ้าง นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ความเห็นของตน อาจจะไม่ตรงกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำให้ไม่เป็นโมฆะ โดยต้องกลับคำวินิจฉัยของศาลรธน. ที่เคยวินิจฉัยว่า กระบวนการร่างกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นโมฆะ แต่เรื่องงบฯต้องทำให้ข้อเท็จจริง ต่างจากเรื่องเงินกู้ ตนคิดอย่างนี้ แต่ไม่อยากจะพูด เพราะอาจจะขัดแย้งกับนักกฎหมายคนอื่น คือต้องทำให้ชอบ ถ้าทำอย่างนี้ ก็ต้องมีปัญหา
ขณะที่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง ให้สัมภาษณ์สื่อ ทางโทรศัพท์โดยยอมรับว่า ได้ออกจากรัฐสภา ช่วงค่ำของวันที่ 10 ม.ค.จริง และได้เสียบบัตรทิ้งไว้ แต่ไม่ได้มอบหมายให้ใครกดแทน ตนต้องรีบกลับมาเพื่อเตรียมการรับศพญาติ ภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ 5 ศพ ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน
เมื่อถามว่า ตามปกติทุกเช้า เจ้าหน้าที่ห้องประชุมจะต้องดึงบัตรที่ค้างไว้ออกทั้งหมด เพื่อเคลียร์ระบบ นายฉลอง กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจ แต่เสียบบัตรทิ้งไว้จริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าว นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้เรียก นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ เข้าพบเพื่อสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เรื่องนี้ จะมีผลทำให้ร่างกฎหมายเป็นโมฆะ และอาจส่งผลให้เกิดการทูลเกล้าฯโดยมิชอบ หรือไม่นั้น ยังไม่มีความกังวลเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง และยังมีเวลาตรวจสอบอยู่
"อาจอ้างว่าเป็นการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน แต่อยากจะอธิบายว่า โดยปกติเมื่อสภาฯมีการปิดประชุม เจ้าหน้าที่ของสภาฯจะดึงบัตรออกในวันนั้น หรือไม่ก็ตอนเช้าก่อนประชุมเพื่อเคลียร์ระบบ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเซ็ตระบบไม่ได้ จึงเป็นที่สงสัยว่า เมื่อมีการปิดประชุมไปแล้วและกลับมาประชุมอีกครั้ง ทำไมถึงมีชื่อนายฉลอง มาโหวตในช่วงดังกล่าวได้" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ดังนั้นการลงมติพ.ร.บ.งบฯ ตั้งแต่ มาตรา 39 เป็นต้นไป ย่อมไม่ชอบด้วยรธน. เนื่องจากมีการเสียบบัตรแทนกัน แต่เรื่องนี้จะมีการยื่นให้ศาลรธน.พิจารณาความชอบด้วยรธน. ของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ เป็นหน้าที่ของส.ส. และเชื่อว่าการที่ตนออกมาตรวจสอบในเรื่องนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้สภาฯ ต้องตรวจสอบต่อไป และหาทางที่จะไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ มีปัญหาเหมือนกับคำวินิจฉัยของศาลรธน. ที่ 3-4/2557 กรณีการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
เมื่อถามว่าหาก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นโมฆะจะส่งผลอย่างไรบ้าง นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ความเห็นของตน อาจจะไม่ตรงกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำให้ไม่เป็นโมฆะ โดยต้องกลับคำวินิจฉัยของศาลรธน. ที่เคยวินิจฉัยว่า กระบวนการร่างกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นโมฆะ แต่เรื่องงบฯต้องทำให้ข้อเท็จจริง ต่างจากเรื่องเงินกู้ ตนคิดอย่างนี้ แต่ไม่อยากจะพูด เพราะอาจจะขัดแย้งกับนักกฎหมายคนอื่น คือต้องทำให้ชอบ ถ้าทำอย่างนี้ ก็ต้องมีปัญหา
ขณะที่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง ให้สัมภาษณ์สื่อ ทางโทรศัพท์โดยยอมรับว่า ได้ออกจากรัฐสภา ช่วงค่ำของวันที่ 10 ม.ค.จริง และได้เสียบบัตรทิ้งไว้ แต่ไม่ได้มอบหมายให้ใครกดแทน ตนต้องรีบกลับมาเพื่อเตรียมการรับศพญาติ ภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ 5 ศพ ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน
เมื่อถามว่า ตามปกติทุกเช้า เจ้าหน้าที่ห้องประชุมจะต้องดึงบัตรที่ค้างไว้ออกทั้งหมด เพื่อเคลียร์ระบบ นายฉลอง กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจ แต่เสียบบัตรทิ้งไว้จริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าว นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้เรียก นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ เข้าพบเพื่อสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เรื่องนี้ จะมีผลทำให้ร่างกฎหมายเป็นโมฆะ และอาจส่งผลให้เกิดการทูลเกล้าฯโดยมิชอบ หรือไม่นั้น ยังไม่มีความกังวลเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง และยังมีเวลาตรวจสอบอยู่