“นิพิฏฐ์” แฉ ส.ส.พัทลุง ภูมิใจไทย ไม่อยู่สภาช่วง 10-11 ม.ค. แต่ให้เพื่อนเสียบบัตรโหวต พ.ร.บ.งบ 63 แทน จี้ยื่นศาล รธน.ตรวจสอบหวั่นซ้ำรอย พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ด้าน “ฉลอง” ยอมรับกลับสงขลาจริง แต่เสียบบัตรคาไว้ไม่ได้ฝากใครกดแทน
วันนี้ (20 ม.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสภาผู้แทนราษฎร พบว่าในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ม.ค. เวลาประมาณ 20.50 น. ที่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท พบว่ามี ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ในเวลาดังกล่าวพบว่านายฉลองได้เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ แต่กลับปรากฏชื่อนายฉลองร่วมเป็นองค์ประชุม และมีชื่อนายฉลองร่วมลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าวมาตลอด ตั้งแต่มาตรา 39 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม ซี่งในวันที่ 10 ม.ค.มีการปิดประชุมในเวลา 01.07 น. ก่อนกลับมาเปิดประชุมสภาฯ อีกครั้ง วันที่ 11 ม.ค. โดยพบว่าในเวลา 11.10 น.ที่มีการลงมติมาตรา 40 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ปรากฏชื่อนายฉลองร่วมลงมติอีกด้วย
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับในเวลา 17.34-17.38 น. มีชื่อนายฉลองลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งๆ ที่ในวันที่ 11 ม.ค.ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาตินั้นได้มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางเฟซบุ๊กของเทศบาลตำบลอ่างทอง จังหวัดพัทลุง พร้อมกับระบุว่านายฉลองได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ในเวลา 09.30 น. จากนั้นในวันเดียวกันยังได้ไปเปิดงานวันเด็กแห่งชาติที่ อบต.ชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงอีกด้วย และที่สำคัญนายฉลองเดินทางกลับ กทม.จากสนามบินนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ในเวลา 11.55 น. แสดงให้เห็นว่านายฉลองไม่ได้อยู่ที่สภาฯ ในวันดังกล่าว
“อาจมีการอ้างว่าเป็นการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน แต่อยากจะอธิบายว่าโดยปกติเมื่อสภาฯ มีการปิดประชุม เจ้าหน้าที่ของสภาจะดึงบัตรออกในวันนั้น หรือไม่ก็ตอนเช้าก่อนประชุมเพื่อเคลียร์ระบบ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเซตระบบไม่ได้ จึงเป็นที่สงสัยว่าเมื่อมีการปิดประชุมไปแล้วและกลับมาประชุมอีกครั้งทำไมถึงมีชื่อนายฉลองมาโหวตในช่วงดังกล่าวได้” นายนิพิฏฐ์กล่าว
อดีต ส.ส.พัทลุง กล่าวอีกว่า การลงมติงบประมาณตั้งแต่มาตรา 39 เป็นต้นไปย่อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการเสียบบัตรแทนกัน แต่จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.และเชื่อว่าการที่ออกมาตรวจสอบในเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด เรื่องนี้สภาต้องตรวจสอบต่อไปและหาทางที่จะไม่ให้กฎหมายฉบับนี้มีปัญหาเหมือนกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 3-4/2557 กรณีการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
“ผมตรวจสอบการทำงานของ ส.ส. กว่าท่านจะได้เข้ามามีการใช้เงินเยอะนะ แล้วเรื่องก็ยังค้างอยู่ที่ กกต.ด้วย ที่ผมไปร้องว่ามีการซื้อเสียงเหลือเรื่องนี้เรื่องเดียว ขอฝากถึง กกต.ด้วยว่าท่านกลั่นกรองคนเข้าสภาอย่างไรให้มาทำหน้าที่อย่างนี้ในสภา แล้วจะกระทบต่อประเทศชาติ” นายนิพิฏฐ์กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าการออกมาพูดเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในการร่วมรัฐบาลหรือ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่าตนตรวจสอบเฉพาะ ส.ส.คนเดียว เพื่อพบว่าทำผิดแล้วไม่พูดเลยก็ไม่ได้ ส่วน ส.ส.คนอื่นเท่าที่รู้ก็มีแต่ไม่ตรวจสอบเพิ่มเติม และหากสภาจะเริ่มต้นดำเนินการตรวจสอบและเรียกตนไปให้ข้อมูลก็ยินดีให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าเอกสารทั้งหมดที่นำมาแถลงเป็นเอกสารเปิดเผยทั้งหมด สื่อสามารถตรวจสอบได้
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นนักกฎหมายมองว่าหากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเป็นโมฆะจะส่งผลอย่างไรบ้าง นายนิพิฏฐ์กล่าวว่าความเห็นของตนอาจจะไม่ตรงกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีก็ได้ ต้องไปถามท่าน แต่ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำให้ไม่เป็นโมฆะ โดยต้องกลับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยว่ากระบวนการร่างกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็นโมฆะ แต่เรื่องงบต้องทำให้ข้อเท็จจริงต่างจากเรื่องเงินกู้ ตนคิดอย่างนี้แต่ไม่อยากจะพูดเพราะอาจจะขัดแย้งกับนักกฎหมายคนอื่นคือต้องทำให้ชอบ ถ้าทำอย่างนี้ก็ต้องมีปัญหา
ต่อข้อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะหยิบกยกเรื่องนี้ไปโจมตีได้ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นแค่ทำหน้าที่เท่านั้น ส่วนใครจะเอาไปเป็นประโยชน์ก็เป็นเรื่องที่ว่ากันต่อไป ซึ่งตนในฐานะนักกฎหมายมองว่าเรื่องนี้มีทางออก 2-3 ทางที่สามารถทำได้ แต่พรรคภูมิใจไทยต้องให้ความร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเสร็จสิ้นการแถลงข่าวของนายนิพิฏฐ์ ปรากฏว่านายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมาพบกับนายนิพิฏฐ์ พร้อมกล่าวชื่นชมว่านายนิพิฏฐ์กัดไม่ปล่อย และยอมรับว่านายฉลองอาจไม่รอบคอบ
ขณะที่นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทางโทรศัพท์ว่า โดยยอมรับว่าออกจากรัฐสภาช่วงค่ำของวันที่ 10 ม.ค.จริง และได้เสียบบัตรทิ้งไว้แต่ไม่ได้มอบหมายให้ใครกดแทน ตนต้องรีบกลับมา เพื่อเตรียมการรับศพญาติภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ 5 ศพที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน
เมื่อถามว่าตามปกติทุกเช้าเจ้าหน้าที่ห้องประชุมจะต้องดึงบัตรที่ค้างไว้ออกทั้งหมดเพื่อเคลียร์ระบบ นายฉลองกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจ แต่เสียบบัตรทิ้งไว้จริงๆ