ผู้จัดการรายวัน 360 'บิ๊กป้อม'เผยทส.ชงมาตรการสกัด'ฝุ่นพิษ'เข้าครม.สัปดาห์หน้า “ศักดิ์สยาม” สั่ง กรมขนส่งฯตรวจจับปรับตามกฎหมาย รถควันดำ และรายงานผลทุกวัน วอนประชาชนตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน ชี้ปัญหานี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน รัฐทำฝ่ายเดียวไม่สำเร็จ "อัศวิน" เตือนคนกรุง 16 ม.ค.นี้ สวมหน้ากากอนามัย รับมือ PM 2.5 พุ่ง อากาศปิดมากสุดในรอบเดือน กทม. พร้อมรับมือเต็มที่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่า จะต้องออกมาตรการป้องกัน โดยเฉพาะการเผาป่า และไฟป่าที่มากขึ้น แต่ต้นตอของฝุ่นพิษ ส่วนใหญ่มาจากมลพิษ ควันดำ จากรถยนต์ ทั้งนี้ จะเตรียมหารือ เพื่อออกมาตรการห้ามรถบรรทุก เข้ามาวิ่งในเขตเมืองชั้นใน ลักษณะวันเว้นวัน ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ขานรับ และจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า พร้อมเตรียมที่จะออกคำสั่งในเร็วๆ นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้มอบหมายให้อธิบดีกรมขนส่ง เอาจริงในการบังคับใช้กฎหมาย ในการตรวจจับและดำเนินคดีกับผู้ทำผิดกฎหมาย และสร้างให้เกิดมลภาวะฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างจริงจัง ไม่ละเว้นแม้ว่าจะเป็นรถของส่วนราชการ โดยให้รายงานแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินงานทุกวัน
ขณะที่รถโดยสารสาธารณะของรัฐ ทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะตรวจสอบรถ หากมีปัญหาควันดำ ไม่ผ่านมาตรฐานห้ามนำออกมาวิ่งให้บริการเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากประชาชน ในการตรวจสอบรถของตนเอง หากเป็นรถเก่าหรือใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหามลภาวะ จะต้องดูแลตรวจสอบสภาพ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ก่อนนำออกมาวิ่ง ซึ่งเรื่องนี้จะแก้ปัญหาได้สำเร็จ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
สำหรับกรณีที่มีการเสนอให้จำกัดการวิ่งของรถบรรทุก ในเมือง แบ่งเป็นวันคี่ หรือวันคู่ นั้น อาจจะพิจารณากำหนดเป็นโซนนิ่ง และดูภาพรวมประกอบด้วย ส่วนทางกระทรวงคมนาคม ได้มีการพิจารณามาตรการจำกัดเวลารถบรรทุกวิ่งในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพื่อลดปัญหาจราจร โดยจะทำเป็นระบบ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ โดยได้มอบหมายให้กรมทางหลวงศึกษา เพื่อทำจุดพักรถบรรทุก (Rest Area) แนวถนนกาญจนาภิเษก รอบๆ 4 ด้าน โดยเปิดให้เอกชนลงทุน
“เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนว่า ปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นกระทบต่อประชาชนทุกคน ขณะเดียวกัน ผู้สร้างปัญหานี้คือ ประชาชนเช่นกัน ดังนั้น ผู้สร้างก็ต้องช่วยกันลดปัญหา แก้ปัญหา ภาครัฐแก้ฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จ ซึ่งกรมขนส่งฯ ไม่อยากปรับ หากช่วยกันตามกฎหมาย จะไม่มีปัญหา และยังไม่มีการใช้มาตรการ ในเรื่องกำหนดอายุรถยนต์ ในขณะนี้ ”
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์รูปภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ผู้ว่าฯ อัศวิน" กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) ที่ทางกรมควบคุมมลพิษได้แจ้งเตือนไว้ว่าค่าฝุ่นละอองจะพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอากาศปิด โดยระบุข้อความว่า
กรมควบคุมมลพิษ เตือนว่า 16 ม.ค.นี้ ค่าฝุ่นอาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิดมากที่สุดในรอบเดือนนี้ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งจะมีการสะสมของฝุ่นและมลพิษสูงต้องระวังเป็นพิเศษ และจะต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนมกราคม ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หากออกนอกอาคารก็อย่าลืมหน้ากากป้องกันฝุ่น เพราะสำคัญมากๆ และร่วมกันลดสาเหตุการเกิดฝุ่น เช่น ไม่เผา ตรวจสภาพเครื่องยนต์ ฯลฯ
ส่วนกทม. ได้กำชับการปฏิบัติมาตรการป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่่ การจัดทีมแพทย์และสาธารณสุขของกทม.ได้ลงพื้นที่อย่างเข้มข้นเพื่อแนะนำวิธีป้องกันฝุ่นและให้ความรู้การดูแลสุขภาพแก่ประชาชน กำชับโรงเรียนให้แจ้งเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น นำน้ำจากโรงบำบัดน้ำเสียมาใช้ฉีดล้างทำความสะอาดถนนและใบไม้เพื่อลดฝุ่น การกวดขันมาตรการป้องกันฝุ่นในพื้นที่ก่อสร้าง การจัดทีมเทศกิจร่วมตรวจจับรถควันดำ เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่า จะต้องออกมาตรการป้องกัน โดยเฉพาะการเผาป่า และไฟป่าที่มากขึ้น แต่ต้นตอของฝุ่นพิษ ส่วนใหญ่มาจากมลพิษ ควันดำ จากรถยนต์ ทั้งนี้ จะเตรียมหารือ เพื่อออกมาตรการห้ามรถบรรทุก เข้ามาวิ่งในเขตเมืองชั้นใน ลักษณะวันเว้นวัน ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ขานรับ และจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า พร้อมเตรียมที่จะออกคำสั่งในเร็วๆ นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้มอบหมายให้อธิบดีกรมขนส่ง เอาจริงในการบังคับใช้กฎหมาย ในการตรวจจับและดำเนินคดีกับผู้ทำผิดกฎหมาย และสร้างให้เกิดมลภาวะฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างจริงจัง ไม่ละเว้นแม้ว่าจะเป็นรถของส่วนราชการ โดยให้รายงานแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินงานทุกวัน
ขณะที่รถโดยสารสาธารณะของรัฐ ทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะตรวจสอบรถ หากมีปัญหาควันดำ ไม่ผ่านมาตรฐานห้ามนำออกมาวิ่งให้บริการเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากประชาชน ในการตรวจสอบรถของตนเอง หากเป็นรถเก่าหรือใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหามลภาวะ จะต้องดูแลตรวจสอบสภาพ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ก่อนนำออกมาวิ่ง ซึ่งเรื่องนี้จะแก้ปัญหาได้สำเร็จ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
สำหรับกรณีที่มีการเสนอให้จำกัดการวิ่งของรถบรรทุก ในเมือง แบ่งเป็นวันคี่ หรือวันคู่ นั้น อาจจะพิจารณากำหนดเป็นโซนนิ่ง และดูภาพรวมประกอบด้วย ส่วนทางกระทรวงคมนาคม ได้มีการพิจารณามาตรการจำกัดเวลารถบรรทุกวิ่งในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพื่อลดปัญหาจราจร โดยจะทำเป็นระบบ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ โดยได้มอบหมายให้กรมทางหลวงศึกษา เพื่อทำจุดพักรถบรรทุก (Rest Area) แนวถนนกาญจนาภิเษก รอบๆ 4 ด้าน โดยเปิดให้เอกชนลงทุน
“เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนว่า ปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นกระทบต่อประชาชนทุกคน ขณะเดียวกัน ผู้สร้างปัญหานี้คือ ประชาชนเช่นกัน ดังนั้น ผู้สร้างก็ต้องช่วยกันลดปัญหา แก้ปัญหา ภาครัฐแก้ฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จ ซึ่งกรมขนส่งฯ ไม่อยากปรับ หากช่วยกันตามกฎหมาย จะไม่มีปัญหา และยังไม่มีการใช้มาตรการ ในเรื่องกำหนดอายุรถยนต์ ในขณะนี้ ”
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์รูปภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ผู้ว่าฯ อัศวิน" กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) ที่ทางกรมควบคุมมลพิษได้แจ้งเตือนไว้ว่าค่าฝุ่นละอองจะพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอากาศปิด โดยระบุข้อความว่า
กรมควบคุมมลพิษ เตือนว่า 16 ม.ค.นี้ ค่าฝุ่นอาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิดมากที่สุดในรอบเดือนนี้ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งจะมีการสะสมของฝุ่นและมลพิษสูงต้องระวังเป็นพิเศษ และจะต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนมกราคม ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หากออกนอกอาคารก็อย่าลืมหน้ากากป้องกันฝุ่น เพราะสำคัญมากๆ และร่วมกันลดสาเหตุการเกิดฝุ่น เช่น ไม่เผา ตรวจสภาพเครื่องยนต์ ฯลฯ
ส่วนกทม. ได้กำชับการปฏิบัติมาตรการป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่่ การจัดทีมแพทย์และสาธารณสุขของกทม.ได้ลงพื้นที่อย่างเข้มข้นเพื่อแนะนำวิธีป้องกันฝุ่นและให้ความรู้การดูแลสุขภาพแก่ประชาชน กำชับโรงเรียนให้แจ้งเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น นำน้ำจากโรงบำบัดน้ำเสียมาใช้ฉีดล้างทำความสะอาดถนนและใบไม้เพื่อลดฝุ่น การกวดขันมาตรการป้องกันฝุ่นในพื้นที่ก่อสร้าง การจัดทีมเทศกิจร่วมตรวจจับรถควันดำ เป็นต้น