“ศักดิ์สยาม” ดันปรับแผนฟื้นฟู ขสมก. เร่งสรุปเสนอบอร์ดใน ก.พ.ก่อนชง ครม.ทบทวนมติเดิม ยันรูปแบบเช่ารถวิ่ง ค่าโดยสาร 30 บาททั้งวันเหมาะสม ผุดแผนเจรจารถร่วมฯ โอนใบอนุญาตรับจ้าง ขสมก.วิ่งเพื่อใช้โมเดลค่าตั๋ว 30 บาทเหมือนกัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า แผนฟื้นฟูใหม่มีการปรับปรุงเส้นทางเดินรถ ลดการวิ่งทับซ้อน ต่อเชื่อมระบบขนส่งอื่น เป็นรถปรับอากาศใช้พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดค่าโดยสารที่ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน โดยจะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปสรุปรวมกับแผนฯ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทบทวนมติเดิมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 62 โดยให้ ขสมก.จะต้องทำแผนนำไปสู่การปฏิบัติ (Action Plan) เพื่อให้เกิดผลรูปธรรม 100% และกรอบเวลาในการดำเนินการที่ชัดเจนด้วย
แผนปรับปรุงใหม่มีการปรับเรื่องการจัดหารถจากซื้อและเช่าเป็นการเช่าบริการตามระยะทาง ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังยึดตามแผนฟื้นฟูเดิม คือ บุคลากร โครงสร้างองค์กร การพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งโดยรวมแผนฟื้นฟูใหม่จะประหยัดงบจากภาครัฐได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำการทำงานให้มีธรรมาภิบาล ซึ่งในการกำหนด TOR จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายรับรู้และเปิดการแข่งขันเสรี เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด
ส่วนผู้ประกอบการเอกชน จะต้องปรับปรุงการให้บริการตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์จึงจะได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เช่น รถใหม่มีระบบ GPS เป็นต้น ส่วนค่าโดยสาร จัดเก็บตามกรอบที่ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางอนุมัติ คือ 15, 20, 25 บาท ซึ่งอาจจะเป็นคนละโครงสร้างกับ ขสมก.ที่เป็นรูปแบบตั๋วรายวัน (ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) ในราคา 30 บาทต่อวัน ดังนั้น หากเอกชนเข้ามาร่วมเดินรถกับ ขสมก.ภายใต้มาตรฐานบริการและค่าโดยสารเดียวกันจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้น ซึ่งจะเป็นภาคสมัครใจ ไม่บังคับ เพราะถือว่าบริการของเอกชนเป็นทางเลือกของประชาชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เอกชนจะให้ความร่วมมือ เพราะกลไกการตลาดประชาชนจะเป็นผู้เลือกใช้บริการ
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า จะเร่งสรุปความเห็นและการปรับปรุงแผนฟื้นฟู เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ได้ในเดือน ก.พ. ซึ่งแผนฟื้นฟูเดิมจะมีค่าใช้จ่ายจัดหารถใหม่ 14,111.959 ล้านบาท ค่าเช่ารถ 7,098.384 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย Early Retirement 6,004 ล้านบาท แผนปรับปรุง มีค่า Early Retirement 6,004 ล้านบาท ค่าอุดหนุนบริการเชิงสังคม (PSO) ปีละ 10,000 ล้านบาท (5 ปี ปีละ 2,000 ล้านบาท) โดยจะไม่มีค่าใช้จ่ายจัดหารถ ซึ่งลงทุนลดลง 16,004 ล้านบาท
ปัจจุบัน ขสมก.มีต้นทุน 50.25 บาท/กม. หากเปลี่ยนจากซื้อรถเป็นจ่ายค่าเช่าตามระยะทางที่วิ่งให้บริการจริง (บาท/กม.) จะมีความยืดหยุ่นและลดต้นทุนได้ โดยจะเป็นรถไฟฟ้า (EV) รถ NGV และรถไฮบริด และจัดเก็บค่าโดยสารในรูปแบบตั๋วรายวัน (ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) ในราคา 30 บาทต่อวัน ส่วนการใช้ระบบเก็บเงินอัตโนมัติจะทำให้ลดภาระในการบริหารเงินสด ซึ่งแต่ละปีมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 ล้านบาท
“ค่าโดยสารที่ ขสมก.เก็บ 30 บาทตลอดทั้งวัน แต่รถร่วมฯ เก็บ 15, 20, 25 บาทเพื่อให้เป็นโมเดลเดียวกัน ขสมก.พร้อมเจรจากับเอกชนในการจ้างเอกชนวิ่ง โดยต้องหารือกับ ขบ.เพื่อโอนใบอนุญาตให้ ขสมก.บริหาร”
ในส่วนของคนขับรถที่ไม่เพียงพอ ปัจจุบัน ขสมก.มีพนักงานรวม 13,632 คน เป็นคนขับรถ 5,580 คน พนักงานเก็บค่าโดยสาร 5,781 คน พนักงานทั่วไป 2,271 คน แผนปรับปรุง จะมีพนักงาน 8,259 คน เป็นคนขับ 6,300 คน และพนักงานทั่วไป 1,959 คน ซึ่งจะใช้การจ้าง Outsource คนขับ
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ.กล่าวว่า ขบ.ได้ศึกษาปรับปรุงเส้นทางรถเมล์เพื่อให้ครอบคลุมการเดินทาง เกิดการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการทับซ้อน และจากปัจจุบัน 208 เส้นทาง (ขสมก. 107 เส้นทาง, รถร่วมเอกชน 101 เส้นทาง) เป็น 158 เส้นทาง (ขสมก. 104 เส้นทาง, รถร่วมเอกชน 54 เส้นทาง) และอยู่ระหว่างเจรจา 45 เส้นทาง ซึ่งหากได้ข้อสรุปจะเปิดประมูล ซึ่ง ขสมก.และรถร่วมฯ สามารถยื่นขอใบอนุญาตภายใต้เงื่อนไขและมาตรฐานที่ ขบ.กำหนด