xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ผ่าดวงเมือง 2563 วุ่นวายอลหม่าน ขั้วการเมืองห้ำหั่น ระวังม็อบกลางเมือง ราหูล้วงทรัพย์ เศรษฐกิจขาลง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เกณฑ์ชะตาบ้านเมืองปี 2563 ปีชวด ธาตุทอง ยังคงอยู่ในห้วงการเปลี่ยนแปลงปฏิรูป ปฏิวัติ ดวงเมืองพลิกผัน “ต้นร้ายปลายดี” การเมืองส่อแวววุ่นรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ฉาวโฉ่เรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว แถมเกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลอย่างหนัก

เรียกน้ำย่อยเหตุบ้านการเมือง ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี ประเดิม 12 ม.ค. 2563 ประชาชนลุกฮือร่วมอีเวนท์การเมือง “วิ่งไล่ลุง” ขับไล่เผด็จการ แต่ที่น่าจับตาโหราจารย์เตือน “ขั้วตรงข้ามรัฐบาล” ทำอะไรให้ระวังพลาดพลั้งพังไม่เป็นท่า ส่วนเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก เตรียมใจรับสภาวะข้าวยากหมากแพงให้พร้อม เมืองหลวงมีเกณฑ์ขยับขยายย้ายเมือง เทวดาให้โชคเมืองพบขุมทรัพย์ธรรมชาติ ฯลฯ

ภายใต้การบริหาร “รัฐบาลเชียงกง” ที่มี “บิ๊กตู่ - พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เจ้าของฉายาแสบสันต์ “อิเหนาเมาหมัด” ที่นักข่าวประจำทำเนียบฯ ตั้งให้จนเจ้าตัวออกอาการไม่พอใจค้อนควัก ในปี 2563 ประเทศไทยจะดำเนินไปในทิศทางใด “โหราศาสตร์พยากรณ์...มีคำตอบ”

เจาะลึกดวงเมืองปี 2563 ปีชวด ธาตุทอง ผ่านคำพยากรณ์ของ 3 โหราจารย์ชื่อดัง “ฟองสนาน จามรจันทร์”, “โหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ” เจ้าของฉายา “โหร คมช.”, และ “ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล” นักพยากรณ์ศาสตร์จีน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

รัฐบาลทุลักทุเล ตรึงกำลังปะทะ
เริ่มต้นที่ โหรการเมืองคนดัง “ฟองสนาน จามรจันทร์” เผยคำพยากรณ์ดวงเมืองปี 2563 คล้าย “เงาะถอดรูป” ลอกคราบใหม่ประเทศไทยไปสู่เจริญรุ่งเรืองก้าวล้ำนำสมัย อิทธิพลดาวมฤตยูจรยังคงทับลัคนาเมือง ทำให้อยู่ภายใต้อิทธิพลของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ทั้งเมือง

สถานการณ์การเมือง ปี่กลองเริ่มเชิดเริ่มด้วยการเมืองท้องถิ่น คึกคักมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ต่อเนื่องต้นปี 2563 สนามสำคัญ “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” คาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นกลางเดือน มี.ค. 2563 เป็นต้นไป หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ในทางโหรพยากรณ์ว่า จะได้ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ไร้เงาคนเก่า ส่วนสนามเลือกตั้งท้องถิ่นหลายแห่งสร้างความแปลกประหลาดต่อเนื่อง อาจมีล็อกถล่มทลายหลายสนาม

การเมืองระดับประเทศ “รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ส่อวุ่นตั้งแต่เริ่มพุทธศักราชใหม่ตลอดจนปลายปี เริ่มเห็นแววยุบสภาฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ตลอดทั้งปี การเมืองมีเกณฑ์ไม่คาดฝันให้แปลกใจได้ตลอดเวลา

ปี 2563 เกมการเมืองน่าจับตานักการเมือง พรรคการเมือง และองค์ประกอบต่างๆ ทางการเมืองจะถูกเขย่าสู่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไป ชนิดที่ว่าใครไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยนหรือไล่ล่า ถ้าฝืนกระแสการเปลี่ยนแปลงก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด โดยประชาชนเป็นตัวแปรในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากไม่เปลี่ยนแบบก้าวล้ำนำสมัย ก็คงย้อนยุคแบบแปลกประหลาด


ช่วง 3 เดือนแรก เกิดการตรึงกำลังกันเต็มที่ในทางการเมือง 2 ฝ่ายต่างปรับกลยุทธ์สู้รุกไล่กันชนิดไม่มีใครยอมใคร เช่น กรณี แบน 3 สารเคมีสามชนิด หรือกรณีสภาฯ ล่มเพราะขัดแย้งเรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้อำนาจ คสช.

ช่วงครึ่งหลังปี 2563 รัฐบาลรับภาระหนักมาก อิทธิพลจากพระเสาร์จรตัวแทนรัฐบาล เดินอยู่ในราศีมังกร ภพที่สิบ หมายถึงการแบกภาระบ้านเมืองหนักหน่วง ขณะที่ฝ่ายค้านก็มีเคราะห์ อิทธิพลจากพระเสาร์จรที่ราศีมังกร เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิมดวงเมืองที่เป็นตัวแทนฝ่ายค้านที่สถิตอยู่ในราศีกรกฎ

คาดว่าจะมีการปรับ ครม. ประมาณเดือน พ.ค. หลังจากนั้นช่วงเดือน พ.ย. แรงกดดันทางการเมืองจะกลับเพิ่มมากขึ้น เมื่อสถานการณ์สุกงอม ส่อให้เห็นแววยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาล หรืออาจมีกิจกรรมใหญ่ในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นโดดเด่นขึ้นมา

มีเกณฑ์ปฏิวัติใหญ่เกิดขึ้นในแผ่นดิน ชี้ชัดไปที่ “เรื่องแรก” การขยายเมืองหรือย้ายเมืองหลวง ซึ่งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ สั่งการให้สภาพัฒน์ทำการศึกษาไปแล้ว เมื่อช่วง ก.ย. 2562 และ “เรื่องที่ 2” แนวความคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปัตตานี เปิดทางให้จัดตั้ง “เขตปกครองตนเอง” ซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง

ส่อแววขึ้นภาษี คนไทยเป็นหนี้อ่วม
ปลายปี 2563 เกณฑ์ชะตาเมืองแตกเพราะราหูค้นทรัพย์ “ฟองสนาน จามรจันทร์” โหรการเมืองคนดัง เผยคำพยากรณ์ต่อไปว่า ด้านเศรษฐกิจต้องดำเนินไปอย่างไม่ประมาท อย่าคะนองเก็งกำไรก่อหนี้สิน พระราหูเจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา คิดแต่ทางได้ไม่คิดทางเสีย ฯลฯ เป็นศรีจรตามระบบทักษา ทำนายว่าประชาชนจะเริ่มเก็งกำไรกล้าเสี่ยงมากผิดปกติ เพราะมองสถานการณ์ในแง่ดีเกินไป พิษเศรษฐกิจในช่วงแรกคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ตระหนักเพราะเหมือนมีม่านบังตา ซึ่งจะปรากฎชัดและอยู่ต่อยาวเป็นปัญหาให้ต้องแก้ไขกันไปจนถึงต้นปี 2564

เกิดสถานการณ์เสี่ยงหรือการสร้างหนี้ขนาดใหญ่ของประชาชนและรัฐบาลจากปรากฏการณ์ จันทร์ล่าราหู คือพระราหูจรเข้าไปเดินในราศีพฤษภโยคหลังพระจันทร์ดวงเดิมเป็นคู่คะนองหนี้ กล่าวคือ ประชาชนก่อหนี้ส่วนบุคคล และรัฐบาลก่อหนี้ของแผ่นดินซ้อนด้วย เรียกว่าปรากฏการณ์ราหูค้นทรัพย์แผ่นดินเกิดขึ้นซ้อนเข้ามาอีก

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ดังนั้น โปรดระวังการเก็งกำไรเกินขอบเขต อย่าเป็นสิงห์คะนองหนี้ เพราะความอยากได้คิดถึงแต่ทางได้ไม่คิดทางเสีย

ตลอดทั้งปี 2563 จิตใจของผู้คนในบ้านเมือง ยังคงถูกเขย่าจากอิทธิพลมฤตยู ประเด็นนี้ต้องระมัดระวังและจัดการให้เหมาะสมในการต่อสู้กันทางความคิด จิตใจ ความเชื่อ ศรัทธา ระหว่างคนในเมืองที่สะสมพลังความขัดแย้ง กลายเป็นปะทะกันอาจเกิดแบบไม่คาดฝันไม่คาดคิด

เกณฑ์เคราะห์ใหญ่ในเมืองเกิดกับประชาชน อิทธิพลจาก พระเสาร์จร 7 เล็งพระจันทร์ ๒ ดวงเดิม เคราะห์จะเกิดกับประชาชนโดยตรง เช่น รัฐบาลอาจจะหาทางเพิ่มภาษี ฯลฯ และคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของเคราะห์คือ หญิงสาวประเภทดาราหรือนางงาม หรือนักร้องหรือศิลปินคนเด่นดัง หรือสุภาพสตรีระดับนางพญา ข้าราชการหญิงตำแหน่งสูงๆ

ดวงเมืองมีเคราะห์จากคนมุสลิมหรือแขก ผสมโรงกับชาติตะวันตกแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จากเกณฑ์พระเสาร์จร 7 เดินอยู่ในราศีมังกรภพที่สิบดวงเมือง ตามโฉลกให้เกรงไฟ ศัตรูใหญ่จะทำณรงค์ ซึ่งเกณฑ์นี้ในอดีตเคยเกิดสงครามอ่าวฯ ที่รบกันขนาดใหญ่มาแล้ว ซึ่งประเทศไทยได้รับผลกระทบเรื่องน้ำมัน-ก๊าซ

กิจการในประเทศเกณฑ์การลงทุนเพื่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ที่น่าจับตาคือต้องระวังต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงกิจการต่างๆ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อนึ่ง ว่าด้วยเกณฑ์ฟืนไฟอุบัติเหตุใหญ่เกี่ยวกับทางอากาศและก๊าซ เกิดการทะเลาะเบาะแว้งในเมือง ส่อแววรุนแรงแบบไม่มีใครยอมใคร รุนแรงและถี่มาก อย่างไรก็ตาม ในเรื่องอุบัติเหตุไฟไหม้-ระเบิด ควรจะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตั้งแต่เดือน มี.ค. เกณฑ์ร้ายทางโหรโดดเด่นมากกว่าปกติถึงสองเท่า อาจเกิดขึ้นทั้งทางบกทางอากาศและทางน้ำ เป็นปีที่สภากาชาดอาจต้องเตรียมเลือดไว้มากกว่าเป็นพิเศษ อีกทั้ง ภัยพิบัติต่างๆ เป็นเรื่องต้องเฝ้าระวัง อาจมีภัยประหลาดๆ เช่น ไฟในน้ำ ไฟใกล้น้ำ ฯลฯ

นอกจากนี้ มีเกณฑ์เกิดกับคนสำคัญของเมือง คนสำคัญบางคนอาจป่วย บางคนแต่งงาน ระวังศัตรูของเมืองประเภทชายโสดสูงผิวสองสี หรือหญิงกาลีพิการ และเมืองต้องระวังการปล่อยเงินในลักษณะให้กู้หรือสินเชื่อเพราะคนได้ไปอาจจะกลับมาเป็นศัตรูภายหลัง

ในเรื่องผลิตภัณฑ์ผลิตผลต่างๆ ของชาติ ข้าวเกณฑ์ร้ายมากกว่าดี รัฐบาลควรวางแผนช่วยเหลือชาวนาไว้ล่วงหน้า ผลไม้เป็นปีทองของทุเรียน-มังคุด ฯลฯ

ภาพรวมเรื่องที่จะออกมาดีมากกว่าร้าย เช่น บันเทิง-เหล้า-สลาก (หวย)-การเก็งกำไร-การบิน-ปุ๋ยหมัก-อาหารหมักดอง-รายการโทรทัศน์แบบประโลมโลก-เกมออนไลน์-ของปลอม เช่น ทองปลอมหรือผมปลอม ฯลฯ ส่วนเรื่องที่จะออกมาร้ายมากกว่าดี คือ กีฬา เคมี เหล็ก กาแฟ ยาสูบ

เรื่องภัยพิบัติต้องเฝ้าระวังตามปกติ ในช่วงฤดูฝน ระดับน้ำกลางๆ จากร่องฝน พายุปีนี้มีเกณฑ์เข้าแบบแปลกๆ ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 ลูก น้ำท่วมถ้าจะมีก็เป็นพื้นที่ๆ ไปตามการตกของฝน แต่เกณฑ์น้ำท่วมใหญ่จะยังไม่เกิด ทว่า ตลอดทั้งปีมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว

ปี 2563 เกิดปรากฏการณ์โชคเทวฤทธิ์ หรือเทวดาให้โชคเมือง มุมของดาวจรที่ทำกับดวงเดิมดวงเมืองเหมือนในอดีตเมื่อปี 2516 ซึ่งเคยพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยแหล่งเอราวัณ ทั้งนี้ มีกระทบเรื่องเขตแดนอธิปไตยของประเทศด้วย

การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะเป็นไปอย่างหนักหน่วง เพื่อที่จะได้ใช้อีกหลายปีตลอดระยะเวลา 20 ปี ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งบนดิน อากาศ น้ำ เช่น สนามบินแห่งใหม่ กิจการรถไฟราง ฯลฯ อีกทั้งในส่วนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ จะถูกนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่

นับเป็นปีทองของการจัดระเบียบเรื่องที่ดิน-ต้นไม้ของภาครัฐ ประชาชนจะได้เห็นการเริ่มสร้างสวนป่าส่วนบุคคล และปลูกต้นไม้ยืนต้นตามที่รัฐบาลนำร่องแก้กฎหมายป่าไม้ไว้แล้ว ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แผ่นดินโดยอัตโนมัติ

ฟองสนาน จามรจันทร์
เศรษฐกิจประคองพ้นวิกฤต
คู่ขัดแย้งรัฐบาล เข้าเคราะห์
2563 เริ่มต้นนักษัตรใหม่ ปีชวด ธาตุทอง “ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล” นักพยากรณ์ศาสตร์จีน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยตั้งหลักเมืองในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน 2325 ตามหลักโหราศาสตร์จีน ถือว่าเป็นปีนักษัตรขาล ธาตุน้ำ เดือนมะโรง ยามเถาะ “ดวงเมืองไทยฟ้ากำหนดให้ทหารดูแล” แม้รัฐบาลมีมาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ ท้ายที่สุดทหารก็จะเข้ามากำกับดูแลให้ประเทศชาติ เพื่อดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย วนลูปเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

ปีชวด ธาตุทอง ตามตำราถือว่า ทองทำให้เกิดน้ำ น้ำทำให้เกิดไม้ ไม้ทำให้เกิดไฟ สภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาเจอไฟที่เผาน้ำ เศรษฐกิจการเงินจึงย่ำแย่ เข้าสู่ปี 2563 สภาพเศรษฐกิจเรื่องการเงินจะเริ่มเดินหน้า จวบจนปี 2564 ปีฉลู ธาตุทอง การเงินจะเริ่มเดินสะพัด และปี 2565 - 2566 เศรษฐกิจจะดีมาก เนื่องจากเป็นปีที่ดวงสมพงศ์กับบ้านเมือง

ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ปี 2563 แม้ขลุกขลักกบ้างแต่รัฐบาลจะนำพาประเทศชาติผ่านพ้นไปได้ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจมหาภาคกระเตื้องขึ้น เพราะเศรษฐกิจเมืองไทยอาศัยปัจจัยจากเมืองนอก อย่างประเทศสหรัฐฯ และประเทศจีน ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำทั้ง 2 ประเทศดวงเข้าเคราะห์ จึงเกิดเหตุวุ่นวายไม่ได้ดังใจ กระทั่ง ช่วง ก.ย. 2562 อายุผู้นำทั้งคู่พ้นเคราะห์แล้ว จึงส่งผลดีต่อประเทศไทยด้วย

“เศรษฐกิจของไทยจะค่อยๆ ก้าวเดิน เพราะรัฐบาลคอยอัดฉีดทุกระดับ แต่ว่าฝ่ายที่อยากกลับสู่อำนาจพยายามขวาง พวกกวนเมืองกวนไม่ได้หยุด สร้างเรื่องจนรัฐบาลแต่ละคนไม่มีกำลังใจทำงาน อยากให้ทุกคนให้เวลารัฐบาลทำงาน” ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าว

เจาะลึกเหตุการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งรัฐบาลในภาพรวมไม่มีเรื่องใดน่าห่วง สัดส่วนคณะรัฐมนตรีดวงดีมากกว่าดวงตก ทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แม้มีปัญหาจุกจิกบ้างก็จะผ่านพ้น พล.อ.ประยุทธ์ สามารถนำนาวารัฐมนตรีผ่านพ้นวิกฤตไปได้ แต่เลี่ยงไม่ได้เรื่องอุบัติเหตุทางการเมือง การทำงานย่อมมีปัญหาเป็นช่วงๆ เช่นเดียวกับ พายุฝนมาก็ต้องรู้จักหลบเลี่ยง

แม้ปี 2563 เป็นปีชงของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ ปีชงเปรียบดังมรสุม ต้องพบเจออุปสรรคปัญหาต่างๆ สำหรับคนมีอายุต้องระวังเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ โหงวเฮ้งดี คางใหญ่ จะช่วยเสริมดวงทำให้ท่านผ่านพ้นวิกฤตปัญหาต่างๆ ได้ไม่ยาก

เช่นเดียวกัน เป็นปีชงของ “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ช่วงต่อไปนี้ดวงตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็นปีที่ต้องเจอเรื่องราวปัญหาสาหัสมาก อายุเข้าเคราะห์ โหงวเฮ้งไม่ดี จมูกไม่สวย ยิ่งส่งผลให้เผชิญเรื่องหนักๆ อาจถึงขั้นจรลีไปต่างถิ่น

ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล
กล่าวสำหรับ ปี 2563 ปีหนูเป็นปีแห่งข่าวลือวุ่นวายชวนสับสน ช่วงชิงผลประโยชน์ บางคนเป็นคนดีแต่ถูกข่าวลือโจมตีจนเสียคน บางคนเลวบริสุทธิ์แต่ถูกโซเชียลฯ ปั่นแต่งเป็นเทวดาสาธุ ขอให้คนไทยตั้งสติเตรียมรับมือกับข่าวลือต่างๆ ที่จะเป็นกระแสสะพัดตลอดปี

ถามถึงความขัดแย้งทางการเมือง เหตุการณ์ประท้วง หรือม็อบต่างๆ จะเห็นว่าขั้วตรงข้ามรัฐบาลพยายามปลุกกระแสแต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเกิด “ม็อบ” ซึ่งกลุ่มคนที่สร้างกระแสสร้างปัญหาแก่สังคมจะถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรก ใครทำสิ่งใดไม่เหมาะสม กรรมติดจรวดตามสนองอย่างรวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม ใครทำกรรมทำชั่วต้องชดใช้ คนมีอำนาจอย่าลืมตัว เพราะทุกคนหนีไม่พ้นวัฏจักรสนองกรรม รัฐมนตรีติดคุกก็มีมาแล้ว หนีหัวซุกหัวซุนไปต่างประเทศก็มีให้เห็น

“กลับตาลปัตร” ร้ายกลายเป็นดี
ใครหมดหน้าที่ ต้องปล่อยวาง
2563 การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในลักษณะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี“โหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ” หรือ “โหร คมช.” เผยคำทำนายว่าสถานการณ์การเมืองจะมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐบาลภายใน 3 - 6 เดือน กลุ่มต่างๆ จะมีการหันหน้าเข้าหากัน โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยมีปัญหาจะเล็งเห็นความสำคัญของบ้านเมือง หันหน้าพูดคุยจัดหาคนมีความรู้ความสามารถเข้าร่วมรัฐบาล ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ขณะที่กลุ่มที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือหาเหตุตีรวนสร้างความร้าวฉานวุ่นวาย จะอันตรธานหายไป

“จะมีการปรับเปลี่ยนพรรคในรัฐบาล คนที่หมดหน้าที่ไปก็หมดไป จะมีกลุ่มคนดีๆ เข้ามาทำหน้าที่บ้านเมือง คล้ายๆ รัฐบาลแห่งชาติ ...ส่วนเรื่องงูเห่าอาจมีบ้างในช่วงตอนต้น ซึ่งการที่คนเข้ามาอยู่ร่วมกันต้องมีการปรับจูนไปในทางทิศทางเดียวกันนั้นต้องใช้เวลา” โหรวารินทร์ กล่าว

ถามถึงการปลุกระดมการชุมนุมเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ทางการเมือง โหรวารินทร์ ชี้ชัดว่า “ปลุกม็อบไม่ขึ้น” ไม่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล แม้ว่ากลุ่มต่างๆ พยายามสร้างเหตุก่อม็อบก็ตาม เพราะว่าคนไทยมีบทเรียนในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเมืองที่ผ่านมา ทว่า ความเห็นแตกต่างย่อมมีเป็นเรื่องธรรมดา แต่ประเด็นสำคัญจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาในอดีต มาล้มล้างสิ่งดีงามของบ้านเมืองที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้

“เราอยู่ในยุคศิวิไลซ์ ยุคจักรพรรดิ ทุกอย่างจะเป็นระเบียบแบบแผน เกิดความเจริญของชาติบ้านเมือง” เรียกว่า ผู้ที่มีบทบาทหน้าที่ทางการเมืองเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา จากร้ายกลายเป็นดี ทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลาย

ในส่วนเรื่องของภัยธรรมชาติ ที่มีการกล่าวขวัญเรื่องการเกิดเภทภัยธรรมชาติ โหรวารินทร์ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เรื่องของภัยธรรมชาติเป็นเรื่องปกติ ไม่หนักหนาไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้ จะเกิดทั่วโลกแต่ไม่หนักถึงขั้นวิกฤต หรือหาเกิดเหตุใดๆ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ สามารถควบคุมดูแลรับมือได้ แม้ไม่ราบรื่น 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

โหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ
กล่าวสำหรับ ภาพรวมเศรษฐกิจจากนิมิตหลวงปู่ฤาษีเกวาลัน โหรวารินทร์ เผยคำทำนายว่า พิษเศรษฐกิจปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ใช่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย ทั่วโลกประสบเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งแต่ละประเทศพยายามแก้ไขฟื้นวิกฤต เฉกเช่นเดียวกับไทย เมื่อถึงเวลาจะมีคนที่มีหน้าที่สับเปลี่ยนเข้ามาทำหน้าที่ แก้ไขปัญหาบ้านเมือง จะมีกลุ่มต่างๆ เข้ามาร่วมทีมรัฐบาลโดยมีความตั้งใจเข้ามาขับเคลื่อนประเทศชาติ

สอดคล้องกับคำทำนายของ โหรฟองสนาน จะมีข่าวดีเกี่ยวกับทรัพยากรต่างๆ ของชาติบ้านเมืองปรากฎขึ้น เป็นทรัพยากรที่เป็นที่ต้องการและทำให้ชาติบ้านเมืองขับเคลื่อนต่อไป นับเป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจชาติดีขึ้น

“ทุกอย่างจะดำเนินไปตามลำดับขั้นตอน ไม่มีอะไรเป็นประเด็นน่ากังวล ขอให้พี่น้องประชาชนดำเนินชีวิต อย่าแตกตื่นกับข่าวลือมุ่งร้ายสร้างเหตุทำลายบ้านเมือง และอยากเตือนนักการเมืองบางท่านหยุดพูดแล้ว หันหน้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองดีกว่า” โหรวารินทร์ กล่าว

กล่าวสำหรับ บุคคลสำคัญผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ท่านที่หมดหน้าที่แล้วไม่อาจกลับเข้ามามีอำนาจดังเดิม ทั้งนี้ บุคลลที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ในปี 2563 โหรวารินทร์ บอกคำเดียวว่า “จบแล้วครับ!”

ส่วน “3 พี่น้อง บูรพาพยัคฆ์" อันได้แก่ บิ๊กตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, บิ๊กป้อม - พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ, และบิ๊กป๊อก - พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ยังมีหน้าที่เป็นเสาหลักในบ้านเมืองรับใช้ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ต่อไป

โดยสรุปบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นมั่นคง ปัญหาเศรษฐกิจคลี่คลายได้รับการแก้ไข ผู้ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองก็จะพ้นสภาพไป!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น