ผู้จัดการรายวัน360- "แรมโบ้อีสาน" เขียนจดหมายเปิดผนึกประจาน "ยิ่งลักษณ์" ดื่มไวน์ ชอปปิ้ง อย่างมีความสุข แต่ยังมาบ่นทุกข์ใจ บอกลูกน้องเก่าลำบากกว่าท่านมากนัก ขอให้หยุดการใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง แตกแยก เสียที เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองเลย ด้าน กรมบังคับคดี แจงยึดทรัพย์”ยิ่งลักษณ์” 199 ล้านบาท ตามคำสั่ง ก.คลัง ขายทอดตลาดแล้ว 3 รายการ เป็นเงิน 49.5 ล้าน
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก "จากอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์) ถึงอดีตนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)" โดยมีเนื้อหาดังนี้
เรียน ท่านอดีตนายกฯ(น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ผมนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ "แรมโบ้อีสาน" ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านในตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผมได้อ่านข้อความที่ท่านโพสต์ Facebook แล้ว ผมกลับมองว่า ไม่ได้เป็นจริงดังที่ท่านระบายความในใจมา เพราะเห็นท่านฉลอง ดื่มไวน์ ช็อปปิ้งกันอย่างมีความสุข แต่คนที่เมืองไทย พี่ๆ น้องๆ ที่เคยร่วมต่อสู้กันมา ส่วนหนึ่งอยู่ในคุก ส่วนหนึ่งกำลังจะเข้าคุก ครอบครัวต้องเดือดร้อน มาจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ท่านและพวกพ้องท่านได้เข้าสู่ตำแหน่ง หลายชีวิตหลายครอบครัวต้องเดือดร้อน ส่วนท่านและครอบครัว อยู่ดีมีสุขในต่างประเทศมากกว่าพี่น้องผมเสียอีก
พวกผมเองต้องต่อสู้คดี ต้องจ่ายค่าทนาย ต้องหาเงินประกันตัว ต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ต่างจากเพื่อนพ้องน้องพี่คนอื่นๆ ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ฯ ช่วยตอบหน่อยว่า พวกผมและเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคน สู้เพื่อตนเองหรือสู้เพื่อใคร ใครทำให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ใครทำให้ระบบเผด็จการรัฐสภาพวกมากลากไป ใครคิดออก พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย ทั้งที่พวกผม นปช. ทั้งคุณจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะพวกเรา ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในบ้านเมือง พวกผมเคยเรียนท่านอดีตนายกฯ แล้ว ท่านก็ไม่ฟัง ท่านฟังแค่พี่สาว คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคนข้างกายท่าน ให้ข้อมูลกับท่านในทางที่ผิด จนเกิดกระแสต่อต้านมากมาย ทำให้ท่านต้องตัดสินใจยุบสภา
" ท่านอย่าไปโทษ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" "ท่านอย่าไปโทษ คสช. หรือมาตรา 44" เลย ท่านอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ลองไตร่ตรองและตั้งสติให้ดีว่า เกิดขึ้นจากปัจจัยอะไร เพราะอะไร ทหารจึงต้องเข้ามาทำการยึดอำนาจ ควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ ใครทำให้เกิดม็อบ ทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านนี้เมืองนี้ ท่านอย่าลืมว่ายังมีคนที่ทุกข์ยาก เจ็บปวดชีวิต และเดือดร้อนมากกว่าท่านอีกหลายคน อาทิ ท่านอดีตรมต.บุญทรง เตริยาภิรมย์ ท่านอดีตรมช.ภูมิ สาระผล เพื่อนพ้องน้องพี่ นปช. คนเสื้อแดง และอีกหลายๆคนที่ต้องรับชะตากรรมในคุก กำลังจะเดินเข้าคุก หรือหนีออกนอกประเทศ ขอให้ทนเสียสละ หยุดเคลื่อนไหวเพื่อประเทศชาติ ประชาชนคนไทยจะได้มีความสุขเสียที่ครับ ด้วยความเคารพและห่วงใยท่านเสมอครับ"
ยึดทรัพย์'ปู'ขายทอดตลาดแล้ว 3 รายการ 49.5 ล.
วานนี้ (17ธ.ค.) กรมบังคับคดี ออกเอกสารข่าวชี้แจงการใช้มาตรการบังคับทางปกครองกรณีจำนำข้าว ภายหลังมีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ถูกกรมบังคับคดียึดไว้ และมีการทยอยขายทอดตลาดไปแล้วนั้น กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่กระทรวงการคลัง มีคำสั่งที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท และตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 56/2559 ทำให้กรมบังคับคดีมีหน้าที่ต้องดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่กระทรวงการคลังได้ร้องขอให้ดำเนินการ
และทางกรมบังคับคดี ได้ดำเนินการบังคับคดีทรัพย์สินของ ยิ่งลักษณ์ ตามคำขอของกระทรวงการคลัง โดยสามารถอายัดมาได้เพียงจำนวน 7,937,174.58 บาท และได้มีการจ่ายเงินให้กระทรวงการคลังไปแล้ว พร้อมมีการยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด อีกหลายรายการ รวมราคาประเมินทรัพย์สินเป็นเงิน 199,230,779.50 บาท ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดได้แล้ว 3 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49,510,00 บาท และทรัพย์รายการที่เหลืออยู่ในขั้นตอนของการประกาศขายทอดตลาด
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก "จากอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์) ถึงอดีตนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)" โดยมีเนื้อหาดังนี้
เรียน ท่านอดีตนายกฯ(น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ผมนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ "แรมโบ้อีสาน" ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านในตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผมได้อ่านข้อความที่ท่านโพสต์ Facebook แล้ว ผมกลับมองว่า ไม่ได้เป็นจริงดังที่ท่านระบายความในใจมา เพราะเห็นท่านฉลอง ดื่มไวน์ ช็อปปิ้งกันอย่างมีความสุข แต่คนที่เมืองไทย พี่ๆ น้องๆ ที่เคยร่วมต่อสู้กันมา ส่วนหนึ่งอยู่ในคุก ส่วนหนึ่งกำลังจะเข้าคุก ครอบครัวต้องเดือดร้อน มาจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ท่านและพวกพ้องท่านได้เข้าสู่ตำแหน่ง หลายชีวิตหลายครอบครัวต้องเดือดร้อน ส่วนท่านและครอบครัว อยู่ดีมีสุขในต่างประเทศมากกว่าพี่น้องผมเสียอีก
พวกผมเองต้องต่อสู้คดี ต้องจ่ายค่าทนาย ต้องหาเงินประกันตัว ต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ต่างจากเพื่อนพ้องน้องพี่คนอื่นๆ ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ฯ ช่วยตอบหน่อยว่า พวกผมและเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคน สู้เพื่อตนเองหรือสู้เพื่อใคร ใครทำให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ใครทำให้ระบบเผด็จการรัฐสภาพวกมากลากไป ใครคิดออก พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย ทั้งที่พวกผม นปช. ทั้งคุณจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะพวกเรา ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในบ้านเมือง พวกผมเคยเรียนท่านอดีตนายกฯ แล้ว ท่านก็ไม่ฟัง ท่านฟังแค่พี่สาว คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคนข้างกายท่าน ให้ข้อมูลกับท่านในทางที่ผิด จนเกิดกระแสต่อต้านมากมาย ทำให้ท่านต้องตัดสินใจยุบสภา
" ท่านอย่าไปโทษ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" "ท่านอย่าไปโทษ คสช. หรือมาตรา 44" เลย ท่านอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ลองไตร่ตรองและตั้งสติให้ดีว่า เกิดขึ้นจากปัจจัยอะไร เพราะอะไร ทหารจึงต้องเข้ามาทำการยึดอำนาจ ควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ ใครทำให้เกิดม็อบ ทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านนี้เมืองนี้ ท่านอย่าลืมว่ายังมีคนที่ทุกข์ยาก เจ็บปวดชีวิต และเดือดร้อนมากกว่าท่านอีกหลายคน อาทิ ท่านอดีตรมต.บุญทรง เตริยาภิรมย์ ท่านอดีตรมช.ภูมิ สาระผล เพื่อนพ้องน้องพี่ นปช. คนเสื้อแดง และอีกหลายๆคนที่ต้องรับชะตากรรมในคุก กำลังจะเดินเข้าคุก หรือหนีออกนอกประเทศ ขอให้ทนเสียสละ หยุดเคลื่อนไหวเพื่อประเทศชาติ ประชาชนคนไทยจะได้มีความสุขเสียที่ครับ ด้วยความเคารพและห่วงใยท่านเสมอครับ"
ยึดทรัพย์'ปู'ขายทอดตลาดแล้ว 3 รายการ 49.5 ล.
วานนี้ (17ธ.ค.) กรมบังคับคดี ออกเอกสารข่าวชี้แจงการใช้มาตรการบังคับทางปกครองกรณีจำนำข้าว ภายหลังมีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ถูกกรมบังคับคดียึดไว้ และมีการทยอยขายทอดตลาดไปแล้วนั้น กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่กระทรวงการคลัง มีคำสั่งที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท และตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 56/2559 ทำให้กรมบังคับคดีมีหน้าที่ต้องดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่กระทรวงการคลังได้ร้องขอให้ดำเนินการ
และทางกรมบังคับคดี ได้ดำเนินการบังคับคดีทรัพย์สินของ ยิ่งลักษณ์ ตามคำขอของกระทรวงการคลัง โดยสามารถอายัดมาได้เพียงจำนวน 7,937,174.58 บาท และได้มีการจ่ายเงินให้กระทรวงการคลังไปแล้ว พร้อมมีการยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด อีกหลายรายการ รวมราคาประเมินทรัพย์สินเป็นเงิน 199,230,779.50 บาท ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดได้แล้ว 3 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49,510,00 บาท และทรัพย์รายการที่เหลืออยู่ในขั้นตอนของการประกาศขายทอดตลาด