ผู้จัดการรายวัน360-"ยิ่งลักษณ์" โพสต์เฟซบุ๊กระบุหน้าชื่นอกตรม อ้างโดน “บิ๊กตู่” ใช้มาตรา 44 ยึดบ้านและทรัพย์สิน และกรมบังคับคดีนำออกขายทอดตลาดทีละชิ้น ครวญเจ็บปวด สะเทือนใจ เศร้าใจ โหนวาทกรรมกฎหมายเลือกข้าง แต่ลืมดูตัวเอง ปล่อยโกงจำนำข้าวจนรัฐเสียหายยับเยิน "บิ๊กตู่"ปัดตอบ ด้าน "บิ๊กป้อม"ไล่ไปถามเจ้าตัว ทำไมถึงถูกยึดทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหลบหนีคำตัดสินคดีจำนำข้าวเป็นเวลา 5 ปี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra กล่าวถึงกรณีที่ตนเองกำลังถูกกรมบังคับคดียึดบ้านและทรัพย์สิน และถูกนำออกประมูลขายทอดตลาด โดยอ้างว่าเป็นผลจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44
สำหรับรายละเอียดของการโพสต์ทั้งหมดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีดังนี้
“หลายคนคงคิดว่าช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม เพราะนอกจากตัวเองจะต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัวและจากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้วยังต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร รวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนมาเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน
ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึดและขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้ เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่ ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉันโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อนจึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาลนอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้ มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย
วันนี้ดิฉันเองจึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้ ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้น ทีละชิ้น บางครั้งดิฉันก็ต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา
ดังนั้น ดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้นหรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่าดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2561 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ศาลปกครองยกคำขอทุเลาบังคับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดเพื่อชดใช้ความเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางกรมบังคับคดี มีหน้าที่รับไม้ต่อจากกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้เสียหายต่อไป โดยมูลค่าความเสียหายของคดีจำนำข้าวนั้นอยู่ที่ราว 3 แสนล้านบาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบเพียง 35,717 ล้านบาท ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.โหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบอกว่าไม่ได้ยินคำถาม พร้อมทำท่าเอามือป้องหูในทำนองว่าไม่ได้ยินคำถามของสื่อ และให้คณะทำงานมาสอบถามว่า สื่อถามว่า อะไร
ต่อมาภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสร็จสิ้น นายกฯ พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ได้หารือเป็นการภายใน โดยให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกมารอด้านนอก ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 15 นาที จากนั้นทั้งหมดได้เดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "อะไรจ๊ะ" ก่อนจะหันไปชี้คณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจทั้งหมด พร้อมบอกว่า วันนี้ยังนั่งประชุมกันอยู่ทั้งหมด ก่อนจะเดินขึ้นห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งการพูดของนายกฯ เป็นการบ่งบอกว่า ครม.เศรษฐกิจทั้งหมด ยังทำงานร่วมกันปกติ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องไปถาม คุณยิ่งลักษณ์ ทำไมถึงถูกยึดทรัพย์
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่รู้เรื่อง ยังไม่เห็นข่าว เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องชี้แจงในทุกเรื่อง เดี๋ยวคนอื่นคงชี้แจงให้ ส่วนการวิจารณ์ว่า มาตรา 44 เป็นกฎหมายเลือกข้าง เดี๋ยวดูให้รู้เรื่องก่อน เดี๋ยวจะมาแจ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหลบหนีคำตัดสินคดีจำนำข้าวเป็นเวลา 5 ปี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra กล่าวถึงกรณีที่ตนเองกำลังถูกกรมบังคับคดียึดบ้านและทรัพย์สิน และถูกนำออกประมูลขายทอดตลาด โดยอ้างว่าเป็นผลจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44
สำหรับรายละเอียดของการโพสต์ทั้งหมดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีดังนี้
“หลายคนคงคิดว่าช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม เพราะนอกจากตัวเองจะต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัวและจากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้วยังต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร รวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนมาเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน
ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึดและขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้ เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่ ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉันโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อนจึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาลนอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้ มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย
วันนี้ดิฉันเองจึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้ ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้น ทีละชิ้น บางครั้งดิฉันก็ต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา
ดังนั้น ดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้นหรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่าดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2561 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ศาลปกครองยกคำขอทุเลาบังคับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดเพื่อชดใช้ความเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางกรมบังคับคดี มีหน้าที่รับไม้ต่อจากกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้เสียหายต่อไป โดยมูลค่าความเสียหายของคดีจำนำข้าวนั้นอยู่ที่ราว 3 แสนล้านบาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบเพียง 35,717 ล้านบาท ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.โหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบอกว่าไม่ได้ยินคำถาม พร้อมทำท่าเอามือป้องหูในทำนองว่าไม่ได้ยินคำถามของสื่อ และให้คณะทำงานมาสอบถามว่า สื่อถามว่า อะไร
ต่อมาภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสร็จสิ้น นายกฯ พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ได้หารือเป็นการภายใน โดยให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกมารอด้านนอก ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 15 นาที จากนั้นทั้งหมดได้เดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "อะไรจ๊ะ" ก่อนจะหันไปชี้คณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจทั้งหมด พร้อมบอกว่า วันนี้ยังนั่งประชุมกันอยู่ทั้งหมด ก่อนจะเดินขึ้นห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งการพูดของนายกฯ เป็นการบ่งบอกว่า ครม.เศรษฐกิจทั้งหมด ยังทำงานร่วมกันปกติ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องไปถาม คุณยิ่งลักษณ์ ทำไมถึงถูกยึดทรัพย์
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่รู้เรื่อง ยังไม่เห็นข่าว เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องชี้แจงในทุกเรื่อง เดี๋ยวคนอื่นคงชี้แจงให้ ส่วนการวิจารณ์ว่า มาตรา 44 เป็นกฎหมายเลือกข้าง เดี๋ยวดูให้รู้เรื่องก่อน เดี๋ยวจะมาแจ้ง