“หมอวรงค์” มือปราบจำนำข้าว ตัวจริงเสียงจริง ตอกกลับ “ยิ่งลักษณ์” ทำเป็นลืม “โคตรโกง” จำนำข้าว และต่อสู้ตามขบวนการจนศาลตัดสินทั้งแพ่งและอาญา ระบุ ม.44 เป็นการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พร้อมไล่เรียงความผิดอย่างชัดแจ้ง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(17 ธ.ค.62) เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม CEO พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์หัวข้อ “ความจริงที่คุณยิ่งลักษณ์อาจลืม”
โดยระบุว่า วันนี้เป็นวันที่คุณยิ่งลักษณ์ ออกมาโหนมาตรา 44 ในคดีที่อ้างว่า ทรัพย์สินตนเองถูกขายทอดตลาด แต่คุณยิ่งลักษณ์กลับไม่พูดเลยว่า ตนเองต่อสู้ตามขั้นตอนกฎหมายปกติทุกอย่าง รวมทั้งร้องศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราวเรื่องยึดทรัพย์ และศาลปกครองก็ยกคำร้องถึงสองครั้ง ทำไมคุณไม่พูดถึง
ที่สำคัญมาตรา 44 นั้น เป็นการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความสุจริต ไม่คุ้มครองถ้าทุจริตกลั่นแกล้ง ต้องย้ำด้วยว่า ไม่เกี่ยวกับสาระของคดี เพราะคดีทั้งอาญาและแพ่ง ของคุณยิ่งลักษณ์ผ่านกระบวนการกฎหมายปกติทุกอย่าง จนกระทั่งคุณหนีคำตัดสินของศาล
เพื่อทวนความจำ ในช่วงคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯและ ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
1.มีการแก้ไขสัญญาเพิ่มชนิดและปริมาณข้าวเรื่อยๆ โดยไม่มีการเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ
2.รับมอบข้าวไปโดยผู้รับมอบอำนาจที่เป็นคนไทย แล้วนำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศ โดยไม่มีการส่งข้าวที่ซื้อขายไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
3.หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมอันเป็นการเอาเปรียบแก่กรมการค้าต่างประเทศ
4.หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดือนพฤศจิกายน 2555 กว่าคุณยิ่งลักษณ์จะปรับนายบุญทรงออก ต้องรอถึง 7เดือน คือมิถุนายน 2556 จนเกิดโกงจีทูจีรอบสอง อีก 4 สัญญา ข้าว 14 ล้านตัน
5. ประเทศใช้เงินในโครงการจำนำข้าว 9.4 แสนล้านบาท มีความเสียหายมากกว่าห้าแสนล้านบาท และรัฐบาลปัจจุบันต้องตั้งงบใช้หนี้รวมดอกเบี้ย ปีละห้าหมื่นล้านบาทนานถึง 16 ปี
6.คุณยิ่งลักษณ์พยายามเล่าความเศร้าเรื่องทรัพย์ตนเองถูกขายทอดตลาด แต่คุณยิ่งลักษณ์อาจลืมไปว่า...(ใคร) โกงเงินแผ่นดินไทยไปเท่าไร
7.ยังมีการโกงจีทูจีรอบสองอีกที่รอผ่านกระบวนการยุติธรรม
8.สุดท้ายคุญยิ่งลักษณ์ก็หนีเอาตัวรอดไปสุขสบาย แต่ปล่อยให้คนอื่นรับกรรม คือจำคุกนายภูมิ 36 ปี นายบุญทรง 42ปี(ศาลเพิ่มเป็น 48 ปีหลังขออุทธรณ์) นายมนัส 40ปี นางทิฆัมพร 32 ปี นายอัครพงศ์ 24 ปี นายอภิชาติ 48 ปี
หยุดโหนมาตรา 44 ได้แล้วครับ เพราะไม่เกี่ยวใดๆกับการดำเนินคดียึดทรัพย์ และทุจริตจำนำข้าวของคุณยิ่งลักษณ์และคณะเลย ออกมาคุ้มครองจนท.ที่กระทำด้วยความสุจริต แต่ถ้าทุจริตก็ไม่คุ้มครองเท่านั้น #หยุดโหนมาตรา44
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ (16 ธ.ค.62) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหลบหนีคำตัดสินคดีจำนำข้าวเป็นเวลา 5 ปี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra กล่าวถึงกรณีที่ตนเองกำลังถูกกรมบังคับคดียึดบ้านและทรัพย์สิน และถูกนำออกประมูลขายทอดตลาด โดยอ้างว่า เป็นผลจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44
สำหรับรายละเอียดของการโพสต์ทั้งหมดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีดังนี้
“หลายคนคงคิดว่า ช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม
เพราะนอกจากตัวเองจะต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัวและจากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้ว ยังต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร รวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน
ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึด และขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้ เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่
ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉัน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุด ว่าดิฉันแพ้คดีก่อนจึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์
ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาลนอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้ มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย
วันนี้ดิฉันเอง จึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้ ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้น ทีละชิ้น
บางครั้งดิฉันก็ต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา
ดังนั้น ดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้น หรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่า ดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ศาลปกครองยกคำขอทุเลาบังคับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดเพื่อชดใช้ความเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางกรมบังคับคดี มีหน้าที่รับไม้ต่อจากกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้เสียหายต่อไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ ถือว่าชัดเจนตามที่ “หมอวรงค์” โพสต์ชี้แจงให้เห็น ส่วนโพสต์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากทำให้น่าสงสาร การที่อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ก็ถือเป็นวิสัยที่ทำเช่นนี้ และไม่เคยรับผิดชอบต่อความผิดอยู่แล้ว การโทษ “ม.44” จึงเป็นการโกหกตัวเอง ได้ง่ายที่สุด เพื่อความสบายใจ และไม่รู้สึกผิดบาปมากนัก ที่ทำเอาไว้กับคนไทย???