xs
xsm
sm
md
lg

หน้าชื่นอกตรม! “ยิ่งลักษณ์” ครวญโดน ม.44 ยึดบ้าน-ทรัพย์สิน โหนกระแสอ้าง #กฎหมายเลือกข้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online - ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กระบุหน้าชื่นอกตรม อ้างโดน “บิ๊กตู่” ใช้มาตรา 44 ยึดบ้านและทรัพย์สิน และกรมบังคับคดีนำออกขายทอดตลาดทีละชิ้น ครวญเจ็บปวด สะเทือนใจ เศร้าใจ โหนวาทกรรมกฎหมายเลือกข้าง

วันนี้ (16 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหลบหนีคำตัดสินคดีจำนำข้าวเป็นเวลา 5 ปีได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra กล่าวถึงกรณีที่ตนเองกำลังถูกกรมบังคับคดียึดบ้านและทรัพย์สิน และถูกนำออกประมูลขายทอดตลาด โดยอ้างว่าเป็นผลจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44

สำหรับรายละเอียดของการโพสต์ทั้งหมดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีดังนี้

“หลายคนคงคิดว่าช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม เพราะนอกจากตัวเองจะต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัวและจากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้วยังต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร รวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนมาเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน

ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึดและขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้ เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่ ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉันโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อนจึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาลนอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้ มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย

วันนี้ดิฉันเองจึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้ ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้น ทีละชิ้น บางครั้งดิฉันก็ต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา

ดังนั้น ดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้นหรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่าดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ศาลปกครองยกคำขอทุเลาบังคับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดเพื่อชดใช้ความเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางกรมบังคับคดี มีหน้าที่รับไม้ต่อจากกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้เสียหายต่อไป (อ่านข่าว : กรมบังคับคดีสั่งลุยยึดทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์” 3.5 หมื่นล้าน โกงข้าว) ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายของคดีจำนำข้าวนั้นอยู่ที่ราว 3 แสนล้านบาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบเพียง 35,717 ล้านบาท ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด (อ่านข่าว : ลดหนี้ยิ่งลักษณ์ จ่ายจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ขรก.อ่วมรับเต็มๆ 80%)





กำลังโหลดความคิดเห็น