ผู้จัดการรายวัน360-"หมอวรงค์"หวั่นปาหี่คดีโกงจำนำข้าวและจีทูจีเก๊ ร้อง "บิ๊กตู่"จัดการ หลังพบกรรมการรับผิดทางแพ่ง ลดค่าเสียหายจำนำข้าว "ปู" เหลือ 1.78 แสนล้านบาท แถมลดเฉพาะตัวเหลือแค่ 3.5 หมื่นล้านบาท อีก 80% โยนข้าราชการรับไปเต็มๆ เผยคดีสั่งชดเชยโกงจีทูจีก็ไม่คืบ ทั้งที่สรุปยอดเสียหายได้แล้ว "พาณิชย์"แจงเหตุยังไม่ลงนามหนังสือบังคับทางปกครองนักการเมืองและข้าราชการ 6 คน เหตุมีข้อท้วงติง และต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ชัด แย้มป.ป.ช.จ่อชี้มูลอีก 8 สัญญา คาดมีคนผิดอีกเพียบ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า อยากจะขอสื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่รับผิดชอบโดยตรงในคดีข้าวทั้งโครงการรับจำนำข้าวและการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพราะนับวันจะยิ่งชอบกล แต่ตนยังเชื่อว่า นายกฯ จะแก้ปัญหาตรงจุด รวดเร็ว และตรงไปตรงมา จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาดูแลเรื่องนี้เองให้เกิดความกระจ่าง และละเอียดถี่ถ้วน สมเหตุผลกับที่เป็นความหวังของประชาชน
โดยในคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่า คณะกรรมการรับผิดทางแพ่ง ที่รับช่วงต่อจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปยอดความเสียหายที่ 2.86 แสนล้านบาท แต่คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งเคาะตัวเลขเรียกค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหลือ 1.78 แสนล้านบาท โดยลดเฉพาะกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด เหลือแค่ 20% ของยอดเสียหาย เหลือแค่ 35,717 ล้านบาท ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ยอดค่าเสียหายจาก 2.86 แสนล้านบาท ลดเหลือ 1.78 แสนล้านบาท คิดเพียง 3 โครงการ จาก 5 โครงการ คือ ปี2555 ,2556 และ 2557 แต่ตัดปี 2554 และ 2555 ออกไป โดยอ้างเหตุผลว่า ได้รับหนังสือท้วงติงจาก สตง. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับทราบความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่เวลาดังกล่าวเท่านั้น
"ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านขณะนั้น ได้ทักท้วง เริ่มตั้งแต่อภิปรายท้วงติง ในวันที่มีการแถลงนโยบาย จนถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่สำคัญที่สุด คือ คณะกรรมการรับผิดทางแพ่ง ไม่ได้อ้างอิงถึงหนังสือท้วงติงของ ป.ป.ช. ที่มีหนังสือเตือนถึง 2 ฉบับ ลงวันที่ 7 ต.ค.2554 และวันที่ 30 เม.ย.2555 ดังนั้น จะอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งรับทราบความเสียหายหลังจากผ่าน 2 โครงการแรก จึงยิ่งฟังไม่ขึ้น"นพ.วรงค์กล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่า ความเสียหายที่เหลืออีก 80% กลับถูกโยนให้ข้าราชการที่ต้องทำตามคำสั่งของฝ่ายการเมือง เท่ากับว่าโยนความรับผิดชอบที่เหลือทั้งหมดให้ข้าราชการ คำถาม คือ ในส่วนนี้ท่านทราบหรือยังว่า จะเรียกร้องจากใคร ทั้งที่มีการท้วงติงไปที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และชี้มูลความผิดเพียงคนเดียว และนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นมีอำนาจหน้าที่ที่จะดำเนินการใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ที่สำคัญคือ ความเสียหายนั้นเกิดจากการทุจริต หรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต
สำหรับคดีการขายข้าวจีทูจี ขณะนี้มีการลงนามหนังสือคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหาย 20,000 ล้านบาท ปริมาณข้าว 6.2 ล้านตัน รวม 4 สัญญา จากนักการเมืองและข้าราชการ 6 คน แต่จนขณะนี้ รมว.พาณิชย์ ยังไม่ได้ลงนามในคดีสั่งฟ้องใดๆ ถึงเวลาที่นายกฯ ต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ยังไม่ลงนามในหนังสือบังคับทางปกครอง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกรณีการทุจริตในการขายข้าวจีทูจี ไปยังบุคคลทั้ง 6 คน เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมาย เพื่อให้กระทรวงฯ สามารถดำเนินการอย่างรอบคอบและถูกต้องมากที่สุด ประกอบกับมีข้อท้วงติงในหลายประเด็น เช่น ภายหลังจากส่งหนังสือไปยังบุคคลทั้ง 6 แล้ว จนถึงขั้นตอนการยึดหรืออายัดทรัพย์ ใครจะเป็นผู้ดำเนินการต่อ ซึ่งกระทรวงฯ ระบุว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) แต่ ป.ป.ง. กลับท้วงติงว่า โดยทั่วไปแล้ว เป็นหน้าที่ของป.ป.ง.ในการยึดหรืออายัดทรัพย์ แต่กรณีทุจริตขายข้าวจีทูจีครั้งนี้ ป.ป.ง.ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดข้อท้วงติงเช่นนี้ กระทรวงฯ จึงต้องพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบมากที่สุด โดยขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายจากหลายหน่วยงาน แต่หากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอีก จะนำเรื่องนี้หารือกับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหาทางออกต่อไป
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อกระทรวงฯ ส่งหนังสือบังคับทางปกครองไปยังบุคคลทั้ง 6 แล้ว จะต้องชำระค่าเสียหายภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือ หากไม่ชำระตามกำหนด จะมีหนังสือแจ้งเตือนไปอีกครั้ง และหากยังไม่ชำระภายใน 15 วัน จะออกหนังสือแจ้งมาตรการบังคับทางปกครอง เช่น การยึดทรัพย์ หรืออายัดทรัพย์ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้รับหนังสือแล้ว ทั้ง 6 คนสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งทางปกครองได้
สำหรับนักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ คาดว่าจะต้องจ่ายค่าชดเชยประมาณ 1,770 ล้านบาท, นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ 2,300 ล้านบาท ส่วนพ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์, นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ต้องจ่ายคนละ 4,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การทุจริตขายข้าวจีทูจี ไม่ได้มีเพียงแค่ 4 สัญญา ปริมาณ 6.2 ล้านตันเท่านั้น โดยในสมัยนายบุญทรง เป็นรมว.พาณิชย์ ยังได้อนุมัติขายอีก 8 สัญญา รวมทั้งหมด 12 สัญญา ซึ่งในส่วนของ 8 สัญญาหลัง ขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำแล้ว คาดว่า น่าจะสรุปผลการตรวจสอบในเร็วๆ นี้ และน่าชี้มูลความผิดบุคคลอื่นเพิ่มเติมได้อีก
ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการ อยู่ระหว่างพิจารณา และสรุปความเสียหาย เพื่อเรียกค่าความเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในเดือนก.ย.นี้ และหลังจากนั้น จะทำหนังสือสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังรับทราบ ก่อนเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป