อดีต ส.ส.ปชป.มองคดีจำนำข้าวยิ่งชอบกล ชี้ รมว.พาณิชย์ยังไม่ได้ลงนามสั่งฟ้อง โวย กก.ผิดทางแพ่งลดยอดความเสียหายให้ “ยิ่งลักษณ์” เหลือ 20% จาก 1.78 แสนล้าน ที่คิดมาจากแค่ 3 จาก 5 โครงการ และไม่ได้อ้างอิงหนังสือท้วงติง ป.ป.ช. จะอ้างเพิ่งทราบความเสียหายฟังไม่ขึ้น โยนที่เหลือให้ ขรก.รับผิดชอบทั้งที่ทำตามสั่งการเมือง ขอ “ประยุทธ์” เข้ามาดูเรื่องนี้เอง
วันนี้ (29 ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่านับวันจะยิ่งชอบกล ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะแก้ปัญหาตรงจุด รวดเร็วและตรงไปตรงมา โดยมีประเด็น คือ 1. การลงนามหนังสือคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหาย 20,000 ล้านบาท ปริมาณข้าว 6.2 ล้านตัน รวม 4 สัญญา คดีระบายข้าวแบบจีทูจีของนักการเมืองและข้าราชการ 6 คน จนขณะนี้ รมว.พาณิชย์ยังไม่ได้ลงนามในคดีสั่งฟ้องใดๆ ถึงเวลาที่นายกฯ ต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้แล้ว 2. การเรียกค่าเสียหายจากคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งรับช่วงต่อจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปยอดความเสียหายที่ 2.86 แสนล้านบาท แต่คณะกรรมการรับผิดทางแพ่ง เคาะตัวเลขเรียกค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เหลือ 1.78 แสนล้านบาท โดยลดเฉพาะกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด เหลือแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของยอดเสียหาย เหลือแค่ 35,717 ล้านบาทที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบ
นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า 3. ยอดค่าเสียหายจาก 2.86 แสนล้านบาท ลดเหลือ 1.78 แสนล้านบาท โดยคิดเพียง 3 โครงการจาก 5 โครงการ คือปีการผลิต 2555/2556 และ 2556/2557 ตัดลดออกไป 2 โครงการของปีการผลิต 2554/2555 โดยอ้างเหตุผลว่าได้รับหนังสือท้วงติงจาก สตง. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และ ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับทราบความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่เวลาดังกล่าวนั้น ฟังไม่ขึ้น 4. ที่ผ่านมาฝ่ายค้านขณะนั้น ได้ทักท้วง เริ่มตั้งแต่อภิปรายท้วงติงในวันที่มีการแถลงนโยบาย จนถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจฯที่สำคัญที่สุดคือ คณะกรรมการรับผิดทางแพ่ง ไม่ได้อ้างอิงถึงหนังสือท้วงติงของ ป.ป.ช.ที่มีหนังสือเตือนถึง 2 ฉบับ ลงวันที่ 7 ต.ค. 2554 และวันที่ 30 เม.ย. 2555 ดังนั้นจะอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งรับทราบความเสียหายหลังจากผ่าน 2 โครงการแรก จึงยิ่งฟังไม่ขึ้น
5. กรณีลดค่าเสียหายเหลือ 3 โครงการ เงิน 1.78 แสนล้านบาท และยังลดค่าเสียหายเหลือเพียง 20% เป็นเงิน 35,717 ล้านบาทนั้น ความเสียหายที่เหลืออีก 80% กลับโยนให้ข้าราชการที่ต้องทำตามคำสั่งของฝ่ายการเมือง เท่ากับว่าโยนความรับผิดชอบที่เหลือทั้งหมดให้ข้าราชการ คำถามคือ ในส่วนนี้ท่านทราบหรือยังว่าจะเรียกร้องจากใคร ทั้งที่มีการท้วงติงไปที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และชี้มูลความผิดเพียงคนเดียว และนายกรัฐมนตีขณะนั้นมีอำนาจหน้าที่ที่จะดำเนินการใดๆเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ที่สำคัญคือความเสียหายนั้นเกิดจากการทุจริต หรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตจึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาดูแลเรื่องนี้เองให้เกิดความกระจ่าง และละเอียดถี่ถ้วน สมเหตุผลกับที่เป็นความหวังของประชาชน