ผู้จัดการรายวัน360-"ปนัดดา"เผยเตรียมรายงาน นบข. 3 ส.ค.นี้ หลังได้ผลสรุปโครงการรับจำนำข้าว "ปู" ทำเสียหาย 2.86 แสนล้าน "บุญทรง" กับพวก 1.8 หมื่นล้าน ก่อนชงเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป "พาณิชย์" แจ้งเสนอ รมว.พาณิชย์ ลงนามหนังสือแจ้งทางปกครองให้นักการเมืองและข้าราชการ 6 รายชดใช้จีทูจีเก๊แล้ว ส่วนการระบายข้าว นบข. เคาะขายข้าวเสื่อมแค่ 4.5 หมื่นตัน เหตุถูกกดราคาหนัก
มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักปลัดสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว เข้ารายงานตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวว่า ได้รับตัวเลขจากนายจีรชัย เพื่อนำเข้ารายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในวันที่ 3 ส.ค.2559 โดยตัวเลขที่ได้รับการยืนยัน พบว่า ความเสียหายจากการบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ 286,639 ล้านบาท ส่วนของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์และพวก อยู่ที่ 18,743 ล้านบาท
ส่วนตัวเลขการระบายข้าวในสต็อกของฝ่ายบริหารในอดีต พบว่า มีการรับมอบข้าวเข้ามาจำนวน 13.3 ล้านตัน แต่ส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ถึง 1 ล้านตัน คงค้างในคลัง 13 ล้านตัน
"ยืนยันเราทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีคำสั่งที่ลำเอียงหรือเลือกปฏิบัติทั้งสิ้น"มล.ปนัดดากล่าว
ด้านนายจิรชัย กล่าวว่า เป็นการรายงานสถานการณ์เรื่องข้าว โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ความเสียหายในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเคยให้การต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว โดยเป็นตัวเลขที่ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน พิจารณาอีกรอบหนึ่ง ในส่วนของนายบุญทรง เป็นค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท แต่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรปรับเพิ่มเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้องเป็น 2 หมื่นล้านบาท และเรื่องการระบายข้าวในสต็อกและข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐบาลในอดีต โดยทั้งหมดจะมีการรายงานต่อที่ประชุม นบข.รับทราบ ในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ที่กรมการค้าต่างประเทศ นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ทำร่างหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองเสนอต่อนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เพื่อลงนามแล้ว หลังจากรมว.พาณิชย์มีการลงนามจะจัดส่งหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองให้กับนักการเมืองและข้าราชการรวม 6 ราย เพื่อชดใช้ค่าเสียหายกรณีการขายข้าวจีทูจี จำนวน 4 สัญญา 6.2 ล้านตันต่อไป และหลังจากที่ทั้ง 6 รายได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองจะต้องชำระค่าเสียหายภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือ หากไม่ชำระตามกำหนดจะมีหนังสือแจ้งเตือนไปอีก 15 วัน หากยังไม่ชดใช้ ก็จะออกหนังสือแจ้งมาตรการบังคับทางปกครอง ในขั้นนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยจะหารือกับตัวแทนกรมบังคดี สำนักงานและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตัวแทนจะสำนักงานคณะกรรมการอัยการ เพื่อจะพิจารณาว่าจะยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์ได้หรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ นักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งทางปกครองได้นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของศาลปกครองที่จะพิจารณา เพราะต้องดูรายละเอียดของการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองของทั้ง 6 รายว่าจะยื่นฟ้องอย่างไร เช่น ฟ้องเพื่อยกเลิกคำสั่งทางปกครอง หรือยื่นฟ้องในเรื่องของรายละเอียดวงเงินชดใช้ ส่วนจะกระทบกับขั้นตอนในการดำเนินเพื่อเรียกค่าเสียหายให้ชดใช้หรือไม่นั้น หากศาลปกครองไม่รับฟ้อง ก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที แต่ถ้าศาลปกครองพิจารณารับฟ้องก็ต้องดูว่ารับฟ้องในประเด็นใดบ้าง
ส่วนการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2559 ปริมาณรวมกว่า 1.6 ล้านตัน ประธาน บบข. ได้อนุมัติการระบายข้าวที่ผ่านเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำ เพียง 4 ราย ใน 9 คลัง ปริมาณเพียง 45,459 ตัน หรือคิดเป็น 2.79% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด คิดเป็นเงินมูลค่า 326 ล้านบาท เพราะถูกกดราคาซื้อ ส่วนการจำหน่ายให้ภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ครั้งที่ 1/2559 ปริมาณรวม 2.1 ล้านตัน ได้เปิดเจรจากับผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 6 ราย เบื้องต้น มีผู้เสนอราคาผ่านเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำ 5 ราย ปริมาณรวมกว่า 3 แสนตัน คิดเป็น 9% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด โดยจะรวบรวมผลการเจรจาต่อรองสุดท้ายเสนอ ประธาน นบข. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักปลัดสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว เข้ารายงานตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวว่า ได้รับตัวเลขจากนายจีรชัย เพื่อนำเข้ารายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในวันที่ 3 ส.ค.2559 โดยตัวเลขที่ได้รับการยืนยัน พบว่า ความเสียหายจากการบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ 286,639 ล้านบาท ส่วนของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์และพวก อยู่ที่ 18,743 ล้านบาท
ส่วนตัวเลขการระบายข้าวในสต็อกของฝ่ายบริหารในอดีต พบว่า มีการรับมอบข้าวเข้ามาจำนวน 13.3 ล้านตัน แต่ส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ถึง 1 ล้านตัน คงค้างในคลัง 13 ล้านตัน
"ยืนยันเราทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีคำสั่งที่ลำเอียงหรือเลือกปฏิบัติทั้งสิ้น"มล.ปนัดดากล่าว
ด้านนายจิรชัย กล่าวว่า เป็นการรายงานสถานการณ์เรื่องข้าว โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ความเสียหายในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเคยให้การต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว โดยเป็นตัวเลขที่ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน พิจารณาอีกรอบหนึ่ง ในส่วนของนายบุญทรง เป็นค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท แต่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรปรับเพิ่มเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้องเป็น 2 หมื่นล้านบาท และเรื่องการระบายข้าวในสต็อกและข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐบาลในอดีต โดยทั้งหมดจะมีการรายงานต่อที่ประชุม นบข.รับทราบ ในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ที่กรมการค้าต่างประเทศ นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ทำร่างหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองเสนอต่อนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เพื่อลงนามแล้ว หลังจากรมว.พาณิชย์มีการลงนามจะจัดส่งหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองให้กับนักการเมืองและข้าราชการรวม 6 ราย เพื่อชดใช้ค่าเสียหายกรณีการขายข้าวจีทูจี จำนวน 4 สัญญา 6.2 ล้านตันต่อไป และหลังจากที่ทั้ง 6 รายได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองจะต้องชำระค่าเสียหายภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือ หากไม่ชำระตามกำหนดจะมีหนังสือแจ้งเตือนไปอีก 15 วัน หากยังไม่ชดใช้ ก็จะออกหนังสือแจ้งมาตรการบังคับทางปกครอง ในขั้นนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยจะหารือกับตัวแทนกรมบังคดี สำนักงานและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตัวแทนจะสำนักงานคณะกรรมการอัยการ เพื่อจะพิจารณาว่าจะยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์ได้หรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ นักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งทางปกครองได้นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของศาลปกครองที่จะพิจารณา เพราะต้องดูรายละเอียดของการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองของทั้ง 6 รายว่าจะยื่นฟ้องอย่างไร เช่น ฟ้องเพื่อยกเลิกคำสั่งทางปกครอง หรือยื่นฟ้องในเรื่องของรายละเอียดวงเงินชดใช้ ส่วนจะกระทบกับขั้นตอนในการดำเนินเพื่อเรียกค่าเสียหายให้ชดใช้หรือไม่นั้น หากศาลปกครองไม่รับฟ้อง ก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที แต่ถ้าศาลปกครองพิจารณารับฟ้องก็ต้องดูว่ารับฟ้องในประเด็นใดบ้าง
ส่วนการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2559 ปริมาณรวมกว่า 1.6 ล้านตัน ประธาน บบข. ได้อนุมัติการระบายข้าวที่ผ่านเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำ เพียง 4 ราย ใน 9 คลัง ปริมาณเพียง 45,459 ตัน หรือคิดเป็น 2.79% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด คิดเป็นเงินมูลค่า 326 ล้านบาท เพราะถูกกดราคาซื้อ ส่วนการจำหน่ายให้ภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ครั้งที่ 1/2559 ปริมาณรวม 2.1 ล้านตัน ได้เปิดเจรจากับผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 6 ราย เบื้องต้น มีผู้เสนอราคาผ่านเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำ 5 ราย ปริมาณรวมกว่า 3 แสนตัน คิดเป็น 9% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด โดยจะรวบรวมผลการเจรจาต่อรองสุดท้ายเสนอ ประธาน นบข. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป