xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ชะตา“ธนาธร”ปล่อยกู้พรรค11ธ.ค. “สาวก ปชป.”เชียร์ถอนตัวรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.มีมติตัดพยานหลักฐาน “ธนาธร” ปล่อยเงินกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ หลังเลยเส้นตาย 2 ธ.ค. แต่ยังไม่ยอมส่งให้ กกต. ถือว่าไม่ติดใจ “กกต.ใหญ่” นัดประชุมวินิจฉัย 11 ธ.ค.นี้ “บิ๊กตู่” ยันพรรคร่วมเข้าใจกันดี “สุทิน” ประธานวิปฝ่ายค้าน รับรู้ล่วงหน้ามี “งูเห่า” แต่ไม่ทราบจำนวน เชื่อ “พลภูมิ” มีเหตุผลเรื่องคดี ส่วน “พรพิมล – ขจิตร” เซอร์ไพร์ส ต้องรอคำชี้แจง “ประธานภาค กทม.” มั่นใจ “พลภูมิ-ครอบครัว” มีฐานะ ไร้เรื่องผลประโยชน์ ส่วน “ส.ส.ปชป.โหวตสวน” ยันลงมติตามอุดมการณ์ “แม่ยก” เชียร์ประชาธิปัตย์ถอนร่วม รบ.

วานนี้ (5 ธ.ค.) ที่ท้องสนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปล่อยเงินกู้ให้พรรคอนาคตใหม่เพื่อใช้จ่ายในช่วงการเลือกตั้งเป็นเงิน 191 ล้านบาท ว่าขณะนี้เลยกำหนดเวลาที่ให้พรรคอนาคตใหม่ยื่นเอกสารหลักฐานชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว กกต.จึงถือว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ติดใจ สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงาน กกต.จะทำเรื่องเสนอขึ้นมายังคณะกรรมการ กกต.ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน มีมติตัดพยานหลักฐานที่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ชี้แจงเพิ่มเติมออกไป หลังจากที่กำหนดให้ส่งภายในวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยจะพิจารณาจากพยานหลักฐานเท่าที่มีก่อนเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาวินิจฉัยในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ หรือไม่

นายกฯยันพรรค รบ.เข้าใจกันดี

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ที่ท้องสนามหลวงว่า วันนี้ประเทศชาติก็สงบร่มเย็นแต่ก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ปัญหาก็คือเรื่องของปัญหาที่ต้องแก้กันไป ถ้าทุกคนเอาแต่ปัญหามารุมเร้ากันทุกเรื่อง จนทำให้การบริหารทำงานไม่ได้ เราต้องทำให้การบริหารราชการทำได้ ส่วนปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่นายกฯพูดต้องการจะส่งสัญญาณถึงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เลิกพูดเถอะนะสัญญาณ ทำไมต้องส่งสัญญาณ” และเมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เขาคงเข้าใจกันอยู่ และคงเข้าใจกันมากขึ้น”

เมื่อถามต่อว่า ทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาแล้วใช่หรือไม่ หลังจากมีการนัดสังสรรค์กับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงว่า “พอแล้ว ปัญหาอยู่ที่คนนี่แหละ”

“วิปฝ่ายค้าน” รู้ต้องมี “งูเห่า”

ด้าน นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงกรณีที่มีเสียง ส.ส.ของฝ่ายค้านจำนวน 10 ราย แสดงตนเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฏรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้ศึกษาผลกระทบจากประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ถือว่าไม่ผิดคาด เรารู้ความเคลื่อนไหวมาก่อน แต่ไม่ทราบแน่ว่ามีกี่คน ส่วนเสียงของพรรคเพื่อไทยที่แตกไป 3 เสียง นั้น ก็คาดหมายผิดไป 2 คน กรณีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้มีคดีชี้เป็นตายทางการเมือง จนอาจจะต้องย้ายพรรคอยู่แล้ว ส่วน น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี และนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี นั้นไม่ได้คาดหมาย เพราะอยู่กับพรรคและทำงานดี มีวินัยมาตลอด ก็ต้องให้โอกาสชี้แจง

ส่วนการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านหลังจากนี้นั้น นายสุทิน กล่าวว่า คงมีการประชุมเปิดอกคุยกันว่า ใครจะยังคงจุดยืนและทำงานร่วมกันต่อ หรือใครจะประสงค์ทำงานการเมืองในแนวทางอื่น ซึ่งเราไม่มีการบังคับกัน เหลือ ส.ส.เท่าใดก็ทำงานได้ ถึงอย่างไรจำนวนเสียงของฝ่ายค้านย่อมสู้รัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว แต่คุณภาพและจุดยืนที่แน่วแน่เท่านั้นที่จะเป็นอาวุธของฝ่ายค้าน

“วิชาญ” เชื่อไม่มีเรื่องเงิน

ด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายพลภูมิ แสดงตัวเป็นองค์ประชุมให้กับฝ่ายรัฐบาลว่า ตนรู้จักนายพลภูมิ และครอบครัวมานาน ตั้งแต่นายพลภูมิเริ่มเข้าการเมืองมาเป็นผู้ช่วย ส.ส.ของตน และไปเป็น ส.ก. จนเป็น ส.ส. ซึ่งนายพลภูมิและครอบครัวเป็นคนมีฐานะ มีเหตุผล ไม่เคยสนใจเรื่องผลประโยชน์เงินทอง ดังนั้นการจะบอกว่าที่ช่วยรัฐบาลเพราะผลประโยชน์เงินทางตัดทิ้งไปได้เลย สาเหตุคงมาจากเรื่องอื่นมากกว่า

“พนิต-เทพไท” ระบุยึดอุดมการณ์พรรค

อีกด้าน นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่โหวตสนับสนุนให้มีการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบและหาแนวทางแก้ไขมาตรา 44 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ ว่า ขอยืนยันว่ากฎหมายต้องได้รับการตรวจสอบโดยผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และได้ยืนยันการสนับสนุนการตั้ง กมธ.ตามญัตติที่เพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพราะต้องการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อทบทวนแก้ไขคำสั่งและประกาศของ คสช. ที่มีฐานะเป็นกฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนตามแนวทางประชาธิปไตย

เช่นเดียวกับ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติทิศทางเดียวกับนายพนิต กล่าวว่า ที่ตัดสินใจยืนยันมติเดิม เนื่องจากเป็นญัตติของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมพรรคมาก่อน และตนได้อภิปรายแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในที่ประชุมสภาฯ สนับสนุนให้นำคำสั่งของคณะรัฐประหารทุกชุด และกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติ(สนช.) มาศึกษา ที่สำคัญญัตตินี้ตรงกับอุดมการณ์ของพรรค ข้อ 4 ที่ระบุว่า “พรรคจะไม่สนับสนุนระบบ หรือวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวธีการของรัฐบาลใดๆ” ซึ่งได้ประกาศไว้ 73 ปีผ่านมาแล้ว และยังคงทันสมัยจนถึงปัจจุบัน

“ขอยืนยันว่าในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่งพร้อมที่จะปฏิบัติตามมติพรรค และมติวิปรัฐบาลทุกประการ แต่อุดมการณ์ของพรรคต้องอยู่เหนือมติพรรคและมติวิปรัฐบาล หรือเงื่อนไขใดๆในการเข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน” นายเทพไท ระบุ

สาวก ปชป.แนะถอนตัวจากรัฐบาล

ทางด้าน เฟซบุ๊ก Kanjanee Valyasevi ของ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และ “แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์” โพสต์ข้อความเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวออกจากรัฐบาลว่า

“อย่าไปเกลือกกลั้วกับคนจำพวกนี้เลย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ศักดิ์ศรีเหนือกว่าเขามากมาย เคยทำคุณประโยชน์ให้ชาติบ้านเมืองมาก็เยอะ อย่ายอมให้คนพวกนี้มาลำเลิกบุญคุณ คนเหล่านี้ก้าวขึ้นมาได้ก็เพราะ ปชป.ไปมีส่วนช่วยพวกเขา ลองถอยออกมาแล้วดูซิว่าเขาจะยังจองหองพองขนต่อไปได้ไหม”

ในช่วงท้ายระบุด้วยว่า “ศักดิ์ศรี คำนี้มีความหมายต่อชีวิตคน เราควรอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ดีกว่าปล่อยให้เขาโขกสับ #ยิ่งใหญ่กว่ามติพรรค คือ สัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน”
กำลังโหลดความคิดเห็น