ผู้จัดการรายวัน360- สภาฯไม่ล่มส.ส.อยู่ครบองค์ประชุม 259 เสียง รัฐบาลเดินหน้าโหวตล้ม กมธ.ศึกษาผลกระทบการใช้ ม.44 ชนะด้วยคะแนนเสียง 244 ต่อ 5 เสียง แม้ฝ่ายค้านป่วนวอล์กเอาต์ แต่มี 10 งูเห่าโผลสนับสนุน ขณะที่ 4 ส.ส.ประชาธิปัตย์โหวตสวน เปิดเบื้องหลังวงมีตติ้งพรรคร่วมรัฐบาล "บิ๊กตู่"เป็นกาวใจ เดินชนแก้วทุกโต๊ะ ตัดพ้อ"ปัญหาเยอะทุกพรรค" เผย ประชาธิปัตย์ ไม่พอใจหลังถูก "บิ๊กป๊อก" ตำหนิกลางที่ประชุมครม. "พิเชษฐ-มงคลกิตติ์" เลิกเป็นฝ่ายค้านอิสระ หลัง"บิ๊กตู่" ขอในงานเลี้ยง "สุทิน"แฉแจกกล้วย 20 ส.ส.ฝ่ายค้าน ตัวเลข 8 หลัก แลกโหวต เตือนสภาฯล่มซ้ำซาก เข้าทางรัฐประหาร
วานนี้ (4 ธ.ค.) ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาญัตติด่วน เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ซึ่งมีปัญหาค้างคามาจากการประชุมครั้งก่อนหน้านี้ เนื่องจากฝ่ายค้านไม่พอใจที่รัฐบาลขอให้นับคะแนนใหม่ จึงพากันวอล์กเอาต์ ส่งผลให้องค์ประชุมไม่ครบ และทำให้สภาฯ ล่มไป 2 ครั้งติด ดังนั้น การประชุมสภาฯวานนี้ จึงได้รับการจับตามองว่าจะเกิดเหตุสภาฯล่มเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่
ทั้งนี้ ภายหลังเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือเรื่องต่างๆ และกระทู้ถามสดด้วยวาจาเสร็จแล้ว กระทั่งเวลา 17.30 น.จึงได้เข้าสู่วาระพิจารณาญัตติด่วน ตั้งกมธ.เพื่อศึกษาผลกระทบ ม.44 โดยมี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งจะให้นับคะแนนใหม่ โดยวิธีการขานชื่อ โดยที่ประชุมมีการถกเถียงในประเด็นการนับคะแนนใหม่ หรือการลงคะแนนใหม่ เนื่องจากฝ่ายค้าน ไม่ต้องการให้มีการลงมติใหม่ และขอให้รัฐบาลถอนญัตติดังกล่าวออกไป แต่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยัน ไม่ถอนญัตติ ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจพากันวอล์กเอาต์ อีกครั้ง
ขณะที่นายสุชาติ ก็ยังเดินหน้าประชุมต่อ โดยให้ ส.ส.แสดงตน ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงปรบมือประท้วงของฝ่ายค้าน ปรากฏว่ามี ส.ส.อยู่ในห้องประชุมและแสดงคน 259 คน ซึ่งครบองค์ประชุม ฝ่ายรัฐบาลจึงเดินหน้าลงมติใหม่ โดยการขานชื่อเป็นรายบุคคล เพื่อโหวตล้มญัตติตั้งกมธ.ชุดดังกล่าว โดยมีฝ่ายค้าน ยืนออกันหน้าห้องประชุมเพื่อสังเกตการณ์
เปิดตัว10 ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมนับองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน ได้แสดงตนเพื่อนับเป็นองค์ประชุม จำนวน 10 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี ,น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี , นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม., พรรคอนาคตใหม่ 2 คน ได้แก่ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ได้แก่ นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคประชาชาติ 1 คนได้แก่ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี
มติ 244 ต่อ 5 ล้มตั้งกมธ.ศึกษา ม. 44
หลังจากลงคะแนนด้วยการขานชื่อ โดยไม่มีฝ่ายค้านเข้าร่วม ผลปรากฏว่า เห็นด้วยกับการตั้งกมธ.ชุดนี้ 5 เสียง ไม่เห็นด้วย 244 เสียง ส.ส. 244 เสียง งดออกเสียง 6 เป็นอันว่าญัตติตั้งกมธ.ศึกษาผลกระทบจากการใช้ ม.44 เป็นอันตกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ที่แสดงตน แต่ไม่ร่วมลงคะแนน คือ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และ นางกันตวัน ตันเถียร ส.ส.พังงา ส่วน 5 คน ที่โหวตสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการฯ โดย 4 คน จากพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่อีก 1 เสียงจากฝ่ายค้านคือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่
ส่วนที่งดออกเสียง 6 คนได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ และ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ
นอกจากนี้ยังมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่กดบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ไม่ร่วมโหวต
จากนั้น นายวิรัชได้ลุกขึ้นหารือขอเลื่อนญัตติ ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปในสัปดาห์หน้า จากนั้น นายสุชาติ ได้สั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 19.15 น.
เบื้องหลังวงมีตติ้ง "บิ๊กตู่"เป็นกาวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อค่ำวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ในช่วงแรกเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางมาถึง หลังได้ทักทายบรรดาแกนนำแล้วก็ได้มีการพูดในทำนองตัดพ้อว่า "บ้านเมืองไม่ใช่ของผมคนเดียว ทำไมไม่ช่วยกัน ทำไมมีปัญหาเยอะ พรรคเล็กก็ต้องช่วยดูแลประเทศ ไม่ใช่ผมดูแลคนเดียว"
ขณะเดียวกัน นายกฯได้พูดคุยกับกลุ่มพรรคเล็กโดยกล่าวว่า "ขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศ อย่าให้มีช่องว่างให้พรรคที่ไม่หวังดีมาแทรกได้และขอให้ช่วยกัน"
ทั้งนี้ นายกฯได้เดินพูดคุยและทักท้ายบรรดาแกนนำหัวหน้าพรรคทุกโต๊ะ พร้อมชนแก้วอย่างเป็นกันเองเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และในช่วงตอนท้ายก่อนที่งานเลี้ยงจะจบลง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกครั้งว่า "ผมไม่ค่อยมีเวลามาเจอกับพวกเรา ต้องขอโทษ บางครั้งจึงทำให้การสื่อสารไม่เข้าใจกันหรือเข้าใจไม่ตรงกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้างานเลี้ยงระหว่างการประชุมครม.ในช่วงเช้า วันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) และกรรมการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) รายงานภาพรวมสถานการณ์การประชุมสภาฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้พูดพูดเชิงตำหนิในเรื่องการโหวตสวนมติวิปรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก
"พิเชษฐ-เต้"เลิกเป็นฝ่ายค้านอิสระ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะฝ่ายรัฐบาลมี 249 เสียง บวกฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียง เป็น 251 เสียง และหากส.ส.รัฐบาลโดนจับ 1 คน จะทำเสียงรัฐบาลรวมฝ่ายค้านอิสระมี 250 เสียง ซึ่งองค์ประชมจะต้องมี 249 เสียง เมื่อตัวเลขของรัฐบาลอยู่ที่ 250 เสียง ถือว่าอันตรายมาก เพราะหากองค์ประชุมไม่ครบอีกรอบหนึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ และความมั่นใจที่ประชาชนมีต่อสภาน้อยลง ส่วนของตนหากจะเลิกเป็นฝ่านค้านอิสระ ก็ต้องไปประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ได้มาพูดคุยกับตนตัวด้วยตัวเอง ท่านบอกว่าอย่าเป็นเลยฝ่านค้านอิสระ และชวนให้มาร่วมรัฐบาล ซึ่งตนก็บอกไปว่าถ้านายกฯ ชวน ตนก็จะคุยกับ กก.บห. พรรค และหากกลับมาร่วมรัฐบาลอีก ก็ต้องดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ และรัฐบาล สามารถบริหารงานไปได้ราบรื่นก็จะดีขึ้น
ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวถึงงานมีตติ้งพรรคร่วมรัฐบาลว่า บรรยากาศดีมากๆ เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี มาพบกันพรรคการเมืองต่างๆ ที่ไม่ใช่ภาพของทหาร โดยท่านได้มาคุยกับพรรคขนาดเล็ก ที่มีจำนวนส.ส.15 เสียง นานมาก ท่านบอกว่า 1 เสียงก็ถือว่าสำคัญมากๆต่อรัฐบาลชุดนี้ ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ถ้าท่านอยู่ไม่ได้ พวกเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องมาทำงานช่วยกัน
ทั้งนี้ นายกฯได้คุยกับ 2 พรรคฝ่ายค้านอิสระ คือ ตนและนายมงคลกิตติ์ ว่า พรรคฝ่ายค้านพูดอะไร นายกฯก็ต้องฟัง ยิ่งฝ่ายค้านอิสระพูด ยิ่งต้องฟังให้มาก และขอให้ทำงานร่วมกันต่อไป โดยขอให้กลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม ซึ่งตนทั้งสองคน ก็รับปาก โดยจะต้องมีการไปขอมติกรรมการบริหารพรรคก่อน เนื่องจากการออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระเรา 2 พรรคได้ขอมติกรรมการบริหารพรรค ดังนั้นจะต้องไปทำตรงนี้ให้เรียบร้อย เรียกประชุมพรรค ภายใน 7 วัน ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้ ก็เสร็จเรียบร้อย ไม่มีฝ่ายค้านอิสระแล้ว
แฉแจกกล้วย20 ส.ส.ฝ่ายค้านตัวเลข 8 หลัก
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า มีการเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาล ในการพยายามล็อบบี้ให้ส.ส.ฝ่ายค้าน มาร่วมเป็นองค์ประชุมของสภาฯ ทั้งๆ ที่องค์ประชุมสภาฯ เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาลโดยตรง โดยเวลานี้ มีการพยายามยื่นข้อเสนอด้วยการแจกกล้วยให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน 20 คน ด้วยเงินจำนวนแปดหลักต่อคน ซึ่งในพรรคฝ่ายค้านจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
"สถานการณ์ขณะนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจ เพราะมีการทำลายวัฒนธรรมทางการเมือง และประชาธิปไตย หากมีการตีความข้อบังคับ เพื่อให้มีการลงคะแนนใหม่ทุกครั้ง จะทำให้เสียเวลาของสภาฯ เพราะต้องนับองค์ประชุมทุกครั้ง รัฐบาลก็จะเสียวทุกครั้ง ทำให้สภาฯเดินหน้าไม่ได้ หากเป็นแบบนี้ต่อๆไปจะไปเข้าทาง ฝ่ายที่ต้องทำลายประชาธิปไตย" นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่บอกว่าฝ่ายที่จ้องทำลายประชาธิปไตย หมายถึงการนำไปสู่การรัฐประหาร ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะหากสภาฯ เดินไปไม่ได้ ก็จะเป็นข้ออ้างที่จะมีการกล่าวหาว่า นักการเมืองชั่ว สภาฯเดินหน้าไม่ได้ จนทำให้เกิดการรัฐประหารในที่สุด
เมื่อถามว่า หากในอนาคตฝ่ายค้านแพ้โหวตบ้าง จะมีการเสนอให้นับ หรือลงคะแนนใหม่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า โดยหลักแล้วฝ่ายค้านไม่อยากทำเช่นนั้น เพราะจะทำให้สภาทำงานด้วยความยากลำบาก แต่หากมีความจำเป็น ก็อาจจะต้องมีการใช้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 85 เพื่อให้นับคะแนนใหม่
วานนี้ (4 ธ.ค.) ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาญัตติด่วน เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ซึ่งมีปัญหาค้างคามาจากการประชุมครั้งก่อนหน้านี้ เนื่องจากฝ่ายค้านไม่พอใจที่รัฐบาลขอให้นับคะแนนใหม่ จึงพากันวอล์กเอาต์ ส่งผลให้องค์ประชุมไม่ครบ และทำให้สภาฯ ล่มไป 2 ครั้งติด ดังนั้น การประชุมสภาฯวานนี้ จึงได้รับการจับตามองว่าจะเกิดเหตุสภาฯล่มเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่
ทั้งนี้ ภายหลังเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือเรื่องต่างๆ และกระทู้ถามสดด้วยวาจาเสร็จแล้ว กระทั่งเวลา 17.30 น.จึงได้เข้าสู่วาระพิจารณาญัตติด่วน ตั้งกมธ.เพื่อศึกษาผลกระทบ ม.44 โดยมี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งจะให้นับคะแนนใหม่ โดยวิธีการขานชื่อ โดยที่ประชุมมีการถกเถียงในประเด็นการนับคะแนนใหม่ หรือการลงคะแนนใหม่ เนื่องจากฝ่ายค้าน ไม่ต้องการให้มีการลงมติใหม่ และขอให้รัฐบาลถอนญัตติดังกล่าวออกไป แต่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยัน ไม่ถอนญัตติ ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจพากันวอล์กเอาต์ อีกครั้ง
ขณะที่นายสุชาติ ก็ยังเดินหน้าประชุมต่อ โดยให้ ส.ส.แสดงตน ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงปรบมือประท้วงของฝ่ายค้าน ปรากฏว่ามี ส.ส.อยู่ในห้องประชุมและแสดงคน 259 คน ซึ่งครบองค์ประชุม ฝ่ายรัฐบาลจึงเดินหน้าลงมติใหม่ โดยการขานชื่อเป็นรายบุคคล เพื่อโหวตล้มญัตติตั้งกมธ.ชุดดังกล่าว โดยมีฝ่ายค้าน ยืนออกันหน้าห้องประชุมเพื่อสังเกตการณ์
เปิดตัว10 ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมนับองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน ได้แสดงตนเพื่อนับเป็นองค์ประชุม จำนวน 10 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี ,น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี , นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม., พรรคอนาคตใหม่ 2 คน ได้แก่ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ได้แก่ นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคประชาชาติ 1 คนได้แก่ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี
มติ 244 ต่อ 5 ล้มตั้งกมธ.ศึกษา ม. 44
หลังจากลงคะแนนด้วยการขานชื่อ โดยไม่มีฝ่ายค้านเข้าร่วม ผลปรากฏว่า เห็นด้วยกับการตั้งกมธ.ชุดนี้ 5 เสียง ไม่เห็นด้วย 244 เสียง ส.ส. 244 เสียง งดออกเสียง 6 เป็นอันว่าญัตติตั้งกมธ.ศึกษาผลกระทบจากการใช้ ม.44 เป็นอันตกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ที่แสดงตน แต่ไม่ร่วมลงคะแนน คือ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และ นางกันตวัน ตันเถียร ส.ส.พังงา ส่วน 5 คน ที่โหวตสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการฯ โดย 4 คน จากพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่อีก 1 เสียงจากฝ่ายค้านคือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่
ส่วนที่งดออกเสียง 6 คนได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ และ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ
นอกจากนี้ยังมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่กดบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ไม่ร่วมโหวต
จากนั้น นายวิรัชได้ลุกขึ้นหารือขอเลื่อนญัตติ ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปในสัปดาห์หน้า จากนั้น นายสุชาติ ได้สั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 19.15 น.
เบื้องหลังวงมีตติ้ง "บิ๊กตู่"เป็นกาวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อค่ำวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ในช่วงแรกเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางมาถึง หลังได้ทักทายบรรดาแกนนำแล้วก็ได้มีการพูดในทำนองตัดพ้อว่า "บ้านเมืองไม่ใช่ของผมคนเดียว ทำไมไม่ช่วยกัน ทำไมมีปัญหาเยอะ พรรคเล็กก็ต้องช่วยดูแลประเทศ ไม่ใช่ผมดูแลคนเดียว"
ขณะเดียวกัน นายกฯได้พูดคุยกับกลุ่มพรรคเล็กโดยกล่าวว่า "ขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศ อย่าให้มีช่องว่างให้พรรคที่ไม่หวังดีมาแทรกได้และขอให้ช่วยกัน"
ทั้งนี้ นายกฯได้เดินพูดคุยและทักท้ายบรรดาแกนนำหัวหน้าพรรคทุกโต๊ะ พร้อมชนแก้วอย่างเป็นกันเองเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และในช่วงตอนท้ายก่อนที่งานเลี้ยงจะจบลง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกครั้งว่า "ผมไม่ค่อยมีเวลามาเจอกับพวกเรา ต้องขอโทษ บางครั้งจึงทำให้การสื่อสารไม่เข้าใจกันหรือเข้าใจไม่ตรงกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้างานเลี้ยงระหว่างการประชุมครม.ในช่วงเช้า วันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) และกรรมการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) รายงานภาพรวมสถานการณ์การประชุมสภาฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้พูดพูดเชิงตำหนิในเรื่องการโหวตสวนมติวิปรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก
"พิเชษฐ-เต้"เลิกเป็นฝ่ายค้านอิสระ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะฝ่ายรัฐบาลมี 249 เสียง บวกฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียง เป็น 251 เสียง และหากส.ส.รัฐบาลโดนจับ 1 คน จะทำเสียงรัฐบาลรวมฝ่ายค้านอิสระมี 250 เสียง ซึ่งองค์ประชมจะต้องมี 249 เสียง เมื่อตัวเลขของรัฐบาลอยู่ที่ 250 เสียง ถือว่าอันตรายมาก เพราะหากองค์ประชุมไม่ครบอีกรอบหนึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ และความมั่นใจที่ประชาชนมีต่อสภาน้อยลง ส่วนของตนหากจะเลิกเป็นฝ่านค้านอิสระ ก็ต้องไปประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ได้มาพูดคุยกับตนตัวด้วยตัวเอง ท่านบอกว่าอย่าเป็นเลยฝ่านค้านอิสระ และชวนให้มาร่วมรัฐบาล ซึ่งตนก็บอกไปว่าถ้านายกฯ ชวน ตนก็จะคุยกับ กก.บห. พรรค และหากกลับมาร่วมรัฐบาลอีก ก็ต้องดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ และรัฐบาล สามารถบริหารงานไปได้ราบรื่นก็จะดีขึ้น
ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวถึงงานมีตติ้งพรรคร่วมรัฐบาลว่า บรรยากาศดีมากๆ เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี มาพบกันพรรคการเมืองต่างๆ ที่ไม่ใช่ภาพของทหาร โดยท่านได้มาคุยกับพรรคขนาดเล็ก ที่มีจำนวนส.ส.15 เสียง นานมาก ท่านบอกว่า 1 เสียงก็ถือว่าสำคัญมากๆต่อรัฐบาลชุดนี้ ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ถ้าท่านอยู่ไม่ได้ พวกเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องมาทำงานช่วยกัน
ทั้งนี้ นายกฯได้คุยกับ 2 พรรคฝ่ายค้านอิสระ คือ ตนและนายมงคลกิตติ์ ว่า พรรคฝ่ายค้านพูดอะไร นายกฯก็ต้องฟัง ยิ่งฝ่ายค้านอิสระพูด ยิ่งต้องฟังให้มาก และขอให้ทำงานร่วมกันต่อไป โดยขอให้กลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม ซึ่งตนทั้งสองคน ก็รับปาก โดยจะต้องมีการไปขอมติกรรมการบริหารพรรคก่อน เนื่องจากการออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระเรา 2 พรรคได้ขอมติกรรมการบริหารพรรค ดังนั้นจะต้องไปทำตรงนี้ให้เรียบร้อย เรียกประชุมพรรค ภายใน 7 วัน ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้ ก็เสร็จเรียบร้อย ไม่มีฝ่ายค้านอิสระแล้ว
แฉแจกกล้วย20 ส.ส.ฝ่ายค้านตัวเลข 8 หลัก
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า มีการเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาล ในการพยายามล็อบบี้ให้ส.ส.ฝ่ายค้าน มาร่วมเป็นองค์ประชุมของสภาฯ ทั้งๆ ที่องค์ประชุมสภาฯ เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาลโดยตรง โดยเวลานี้ มีการพยายามยื่นข้อเสนอด้วยการแจกกล้วยให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน 20 คน ด้วยเงินจำนวนแปดหลักต่อคน ซึ่งในพรรคฝ่ายค้านจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
"สถานการณ์ขณะนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจ เพราะมีการทำลายวัฒนธรรมทางการเมือง และประชาธิปไตย หากมีการตีความข้อบังคับ เพื่อให้มีการลงคะแนนใหม่ทุกครั้ง จะทำให้เสียเวลาของสภาฯ เพราะต้องนับองค์ประชุมทุกครั้ง รัฐบาลก็จะเสียวทุกครั้ง ทำให้สภาฯเดินหน้าไม่ได้ หากเป็นแบบนี้ต่อๆไปจะไปเข้าทาง ฝ่ายที่ต้องทำลายประชาธิปไตย" นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่บอกว่าฝ่ายที่จ้องทำลายประชาธิปไตย หมายถึงการนำไปสู่การรัฐประหาร ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะหากสภาฯ เดินไปไม่ได้ ก็จะเป็นข้ออ้างที่จะมีการกล่าวหาว่า นักการเมืองชั่ว สภาฯเดินหน้าไม่ได้ จนทำให้เกิดการรัฐประหารในที่สุด
เมื่อถามว่า หากในอนาคตฝ่ายค้านแพ้โหวตบ้าง จะมีการเสนอให้นับ หรือลงคะแนนใหม่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า โดยหลักแล้วฝ่ายค้านไม่อยากทำเช่นนั้น เพราะจะทำให้สภาทำงานด้วยความยากลำบาก แต่หากมีความจำเป็น ก็อาจจะต้องมีการใช้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 85 เพื่อให้นับคะแนนใหม่
