ผู้จัดการรายวัน360- "วิษณุ"ปัดตอบ คกก.วัตถุอันตรายกลับมติยืดแบนสารพิษ แนะกรรมการเอาความจริงมาชี้แจง ด้าน"ปริญญา"ชี้ชัด มติกก.วัตถุอันตรายชุด"สุริยะ" ใช้ระบบสันนิฐานไม่มีผลตามกฎหมาย เหตุไม่มีการนับองค์ประชุม-ไม่มีการลงมติ อ้างคำตัดสินจาก 2 ศาล เคยสร้างบรรทัดฐานไว้แล้ว “สุริยะ” ให้นักกฎหมายเตรียมฟ้องกลับเครือข่าย 686 องค์กรต้านสารพิษแถลงข่าวทำเสียหาย โต้ “ปริญญา” ยันที่ประชุม คกก.วัตถุอันตราย 27 พ.ย.มีการลงมติ มีเทปเสียงเป็นหลักฐาน ได้สอบถามความเห็นทุกคนแล้ว ไม่จำเป็นต้องยกมือ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติยืดระยะเวลาเริ่มการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดในภาคการเกษตรออกไปอีก 6 เดือน ว่า นายสุริยะ ไม่เคยมาปรึกษาตน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ไปทำความจริงให้ปรากฏแล้วมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม ตนคงจะสอบถามนายสุริยะต่อไป
เมื่อถามว่าควรจะต้องให้คณะกรรมการฯ ตีความข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถนำเรื่องแบบนี้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ไม่จำเป็นต้องส่งไปสอบถามศาลรธน.
ชี้ระบบสันนิฐานไม่มีผลทางกม.
ด้านผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก ในหัวข้อว่า " มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? " โดยมีข้อความระบุว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้แถลงว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 ให้เลื่อนการแบน 3 สารพิษทางการเกษตรออกไป 6 เดือน แต่ รศ.ภ.จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ ที่เป็นหนึ่งในคณธกรรมการฯ ได้ออกมาแย้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ไม่มีการลงมติอย่างชัดเจนว่ากรรมการแต่ละท่านเห็นด้วยหรือไม่ ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอม
คำถามคือ เมื่อไม่มีการให้กรรมการฯ ลงมติ จะถือว่าเป็นมติของคณะกรรมการฯ ที่ชอบด้วยกฎหมายได้หรือไม่
คราวนี้มาพิจารณาที่ข้อเท็จจริง ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่ รศ.ภ.จิราภรณ์ ระบุ การประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการให้กรรมการแต่ละคนได้ลงมติหนึ่งคน หนึ่งเสียง ซึ่งสอดคล้องกับที่นายสุริยะได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองสันนิษฐานเอา ทั้งไม่ปรากฏว่ามีการตรวจสอบองค์ประชุมว่า มีสมาชิกมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่ง แล้วหรือไม่ มตินี้จึงมิใช่มติที่ดำเนินการถูกต้องตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย
เมื่อเทียบเคียงกับบรรทัดฐานของศาล กรณีแม้จะมีหลักฐานการเซ็นชื่อเข้าประชุมว่ามีกรรมการมาประชุมตอนเริ่มประชุมครบองค์ประชุม แต่เรื่องนี้ทั้งศาลรธน. (คำวินิจฉัยศาลรธน. ที่ 3/2551) และ ศาลฎีกา (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 3623/2527) ได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า องค์ประชุมต้องครบตลอดเวลาไปถึงตอนลงมติ จึงต้องนับองค์ประชุมตอนลงมติ ว่าครบหรือไม่ โดยนับจากคะแนนเสียงทั้งหมดที่ออก แต่เมื่อไม่มีการให้กรรมการลงมติ จึงไม่อาจทราบได้เลยว่า องค์ประชุมตอนลงมติครบองค์ประชุม หรือไม่
ดังนั้น เมื่อไม่มีการนับองค์ประชุมตอนลงมติ และไม่มีการให้กรรมการแต่ละคนออกเสียงในเรื่องที่ขอมติ จึงสรุปได้ว่า มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ # จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย เท่ากับยังไม่มีมติใหม่
"สุริยะ"ขู่ฟ้อง 686 องค์กรต้านสารพิษ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล โพสต์เฟซบุ๊กระบุมติการแบนสารพิษของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ไม่มีการลงมติ ถือว่าผิดมาตรา 12 พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ว่า ยืนยันว่าการแบนสารพิษมีการลงมติอย่างถูกต้อง ซึ่งตนไม่ทราบว่านายปริญญา ไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่าไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ถอดเทปเสียงเพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการลงมติอย่างชัดเจน ซึ่งในกรณีที่ให้แบนไปก่อน 6 เดือน ก็ได้มีการสอบถามในที่ประชุม ว่าภายใน 6 เดือนนี้จะให้แบนเป็นวันไหน พร้อมทั้งให้กรมวิชาการเกษตรไปหามาตรการทดแทนอย่างเร็วที่สุด โดยกำหนดระยะเวลาไว้ภายใน 4 เดือน เมื่อร่างมติดังกล่าวเป็นที่พอใจ ก็ได้ถามในที่ประชุม ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่าเห็นด้วยกับมติดังกล่าว ส่วนที่ไม่เห็นด้วยคืออยากให้เลื่อนการแบนสารพิษไปมากกว่า 6 เดือน แต่ไม่มีใครเสนอบอกให้แบนสารพิษในทันที ตนถือว่ามตินี้มีความเป็นเอกฉันท์คือไม่ให้แบนสารพิษในทันที
เมื่อถามถึง กรณีเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร เตรียมฟ้องศาลปกครองและศาลอาญา เอาผิดกรณีการทุจริตประพฤติมิชอบ ต่อการเลื่อนแบน 3 สารพิษ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าในองค์กรที่ระบุว่ามี 686 องค์กร มีจำนวนกี่คน แต่การที่มีการแถลงข่าวออกไปและทำให้ตนได้รับความเสียหายนั้น จะให้นักกฎหมายไปดูเพื่อเตรียมที่จะฟ้องกลับ
รายงาน"นายกฯ"รับทราบ เหตุเลื่อนแบนสารพิษ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงปัญหาเรื่อง มติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่เลื่อนการยกเลิกสารพิษทางเกษตร 3 ชนิด ว่า ได้รายงานให้นายกฯรับทราบถึงความจำเป็นต้องการมีเลื่อนการยกเลิกสารพิษดังกล่าวไปอีก 6 เดือน เนื่องจากยังมีอยู่ในมือเกษตรกร และสต็อกของร้านค้านับหมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ เห็นด้วยที่จะต้องมีการเลื่อนไป เพราะถ้าไม่เลื่อน จะนำเงินที่ไหนไปจ่ายให้เกษตรกร รัฐไม่มีเงินจ่ายให้อยู่แล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ติดป้ายไม่เห็นด้วยกับการชะลอแบนสารพิษในแต่ละโรงพยาบาลนั้น เป็นการแสดงความเห็นของเขาเอง เชื่อว่าไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร และไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณใดๆไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนคงเบื่อกับการรักษาคนไข้ที่ป่วยที่มีสาเหตุมาจากสารพิษ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติยืดระยะเวลาเริ่มการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดในภาคการเกษตรออกไปอีก 6 เดือน ว่า นายสุริยะ ไม่เคยมาปรึกษาตน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ไปทำความจริงให้ปรากฏแล้วมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม ตนคงจะสอบถามนายสุริยะต่อไป
เมื่อถามว่าควรจะต้องให้คณะกรรมการฯ ตีความข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถนำเรื่องแบบนี้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ไม่จำเป็นต้องส่งไปสอบถามศาลรธน.
ชี้ระบบสันนิฐานไม่มีผลทางกม.
ด้านผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก ในหัวข้อว่า " มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? " โดยมีข้อความระบุว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้แถลงว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 ให้เลื่อนการแบน 3 สารพิษทางการเกษตรออกไป 6 เดือน แต่ รศ.ภ.จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ ที่เป็นหนึ่งในคณธกรรมการฯ ได้ออกมาแย้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ไม่มีการลงมติอย่างชัดเจนว่ากรรมการแต่ละท่านเห็นด้วยหรือไม่ ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอม
คำถามคือ เมื่อไม่มีการให้กรรมการฯ ลงมติ จะถือว่าเป็นมติของคณะกรรมการฯ ที่ชอบด้วยกฎหมายได้หรือไม่
คราวนี้มาพิจารณาที่ข้อเท็จจริง ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่ รศ.ภ.จิราภรณ์ ระบุ การประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการให้กรรมการแต่ละคนได้ลงมติหนึ่งคน หนึ่งเสียง ซึ่งสอดคล้องกับที่นายสุริยะได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองสันนิษฐานเอา ทั้งไม่ปรากฏว่ามีการตรวจสอบองค์ประชุมว่า มีสมาชิกมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่ง แล้วหรือไม่ มตินี้จึงมิใช่มติที่ดำเนินการถูกต้องตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย
เมื่อเทียบเคียงกับบรรทัดฐานของศาล กรณีแม้จะมีหลักฐานการเซ็นชื่อเข้าประชุมว่ามีกรรมการมาประชุมตอนเริ่มประชุมครบองค์ประชุม แต่เรื่องนี้ทั้งศาลรธน. (คำวินิจฉัยศาลรธน. ที่ 3/2551) และ ศาลฎีกา (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 3623/2527) ได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า องค์ประชุมต้องครบตลอดเวลาไปถึงตอนลงมติ จึงต้องนับองค์ประชุมตอนลงมติ ว่าครบหรือไม่ โดยนับจากคะแนนเสียงทั้งหมดที่ออก แต่เมื่อไม่มีการให้กรรมการลงมติ จึงไม่อาจทราบได้เลยว่า องค์ประชุมตอนลงมติครบองค์ประชุม หรือไม่
ดังนั้น เมื่อไม่มีการนับองค์ประชุมตอนลงมติ และไม่มีการให้กรรมการแต่ละคนออกเสียงในเรื่องที่ขอมติ จึงสรุปได้ว่า มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ # จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย เท่ากับยังไม่มีมติใหม่
"สุริยะ"ขู่ฟ้อง 686 องค์กรต้านสารพิษ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล โพสต์เฟซบุ๊กระบุมติการแบนสารพิษของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ไม่มีการลงมติ ถือว่าผิดมาตรา 12 พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ว่า ยืนยันว่าการแบนสารพิษมีการลงมติอย่างถูกต้อง ซึ่งตนไม่ทราบว่านายปริญญา ไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่าไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ถอดเทปเสียงเพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการลงมติอย่างชัดเจน ซึ่งในกรณีที่ให้แบนไปก่อน 6 เดือน ก็ได้มีการสอบถามในที่ประชุม ว่าภายใน 6 เดือนนี้จะให้แบนเป็นวันไหน พร้อมทั้งให้กรมวิชาการเกษตรไปหามาตรการทดแทนอย่างเร็วที่สุด โดยกำหนดระยะเวลาไว้ภายใน 4 เดือน เมื่อร่างมติดังกล่าวเป็นที่พอใจ ก็ได้ถามในที่ประชุม ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่าเห็นด้วยกับมติดังกล่าว ส่วนที่ไม่เห็นด้วยคืออยากให้เลื่อนการแบนสารพิษไปมากกว่า 6 เดือน แต่ไม่มีใครเสนอบอกให้แบนสารพิษในทันที ตนถือว่ามตินี้มีความเป็นเอกฉันท์คือไม่ให้แบนสารพิษในทันที
เมื่อถามถึง กรณีเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร เตรียมฟ้องศาลปกครองและศาลอาญา เอาผิดกรณีการทุจริตประพฤติมิชอบ ต่อการเลื่อนแบน 3 สารพิษ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าในองค์กรที่ระบุว่ามี 686 องค์กร มีจำนวนกี่คน แต่การที่มีการแถลงข่าวออกไปและทำให้ตนได้รับความเสียหายนั้น จะให้นักกฎหมายไปดูเพื่อเตรียมที่จะฟ้องกลับ
รายงาน"นายกฯ"รับทราบ เหตุเลื่อนแบนสารพิษ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงปัญหาเรื่อง มติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่เลื่อนการยกเลิกสารพิษทางเกษตร 3 ชนิด ว่า ได้รายงานให้นายกฯรับทราบถึงความจำเป็นต้องการมีเลื่อนการยกเลิกสารพิษดังกล่าวไปอีก 6 เดือน เนื่องจากยังมีอยู่ในมือเกษตรกร และสต็อกของร้านค้านับหมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ เห็นด้วยที่จะต้องมีการเลื่อนไป เพราะถ้าไม่เลื่อน จะนำเงินที่ไหนไปจ่ายให้เกษตรกร รัฐไม่มีเงินจ่ายให้อยู่แล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ติดป้ายไม่เห็นด้วยกับการชะลอแบนสารพิษในแต่ละโรงพยาบาลนั้น เป็นการแสดงความเห็นของเขาเอง เชื่อว่าไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร และไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณใดๆไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนคงเบื่อกับการรักษาคนไข้ที่ป่วยที่มีสาเหตุมาจากสารพิษ
