“วิษณุ” ไม่ตอบ คกก.วัตถุอันตรายกลับลำมติยืดแบนสารเคมี แนะเอาความจริงมาชี้แจง ยกเคสมติประกาศในราชกิจจาฯ ยังเปลี่ยนแปลงได้
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติยืดระยะเวลาเริ่มการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดในภาคการเกษตร ออกไปอีก 6 เดือน ว่านายสุริยะไม่เคยมาปรึกษาตนในเรื่องดังกล่าว แต่ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ไปทำความจริงให้ปรากฏแล้วมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม ตนคงจะสอบถามนายสุริยะต่อไป
เมื่อถามถึงการที่กรรมการบางคนอ้างว่าที่ประชุมไม่มีการลงมติ และไม่มีนับคะแนนด้วย นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบรูปแบบและวิธีและการลงมติของคณะกรรมการชุดนี้ ขณะที่การประชุม ครม.ก็ไม่มีการลงมติแบบที่ให้มีการออกเสียง มีเพียงแค่ประธานในที่ประชุมสอบถามว่าทุกฝ่ายเห็นด้วยหรือไม่ แล้วก็ออกเป็นมติ อย่างไรก็ตาม วิธีการควบคุมการประชุมมีหลายวิธีไม่ใช่ต้องให้มีการโหวตทุกครั้ง ทั้งนี้ ตนได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายภักดี โพธิศิริ หนึ่งกรรมการดังกล่าว ที่ระบุว่าหลังการประชุมเสร็จสิ้นได้มีการยกร่างมติแล้วอ่านมตินั้นให้ที่ประชุมรับทราบทันที ตนคิดว่าหากเป็นไปตามนั้นก็ทำให้เห็นว่าเดินหน้าไปมากกว่าที่เรารู้ ในเมื่อเรื่องจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์การประชุมจึงไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมติใดก็ตามที่ไม่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แม้แต่มติที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ที่ว่าจะต้องทำหรือไม่ แต่ตนไม่ทราบว่าเขาลงมติอะไร ก็ไม่ควรจะพูดอะไรอีก ขอให้ไปสอบถามเจ้าของเรื่องดีกว่า เพราะการประชุมวันนั้นมีกรรมการ 20 กว่าคน คนเหล่านั้นต้องรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อข้อถามถึงเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร และเครือข่ายผู้บริโภคจะยื่นฟ้องร้องนายสุริยะ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง และศาลปกครอง นายวิษณุกล่าวว่า ก็แล้วแต่ จะกี่ศาลก็ช่าง
เมื่อถามว่าควรจะต้องให้คณะกรรมการฯตีความข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถนำเรื่องแบบนี้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ไม่จำเป็นต้องส่งไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ