xs
xsm
sm
md
lg

คงไม่ต้องรอปาฏิหาริย์…

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์



เริ่มมีคนพูดดังๆ ปรับทุกข์กับสภาวะการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ความโอบอ้อมอารี คุณสมบัติต่างๆ ที่ดีงามเราได้เคยมีว่า “กำลังเกิดวิบัติอะไรในบ้านเมือง?” จะให้เสื่อมโทรมไปจนสิ้นสภาพเช่นนั้นหรือ

คนฐานะดีมีกินมีใช้ ไร้หนี้สิน ย่อมไม่เดือดร้อน ยิ่งพวกรวยใหม่ ขนทรัพย์สินไปซุกไว้ในต่างประเทศ ก็เชื่อมั่นว่าถ้าเกิดมิคสัญญี กลียุค ก็จะอพยพครอบครัวไปเสวยสุขกับเงินทองจากการฉ้อฉลคดโกงจากอำนาจ เสวยสุขชั่วลูกชั่วหลาน

พร้อมจะไปเป็นพลเมืองในแผ่นดินอื่น ถ้าเมืองไทยอยู่ไม่ได้อีกต่อไป!

ต้องถามคนไทย คนรักแผ่นดินนี้ ไม่มีทรัพย์สินจะอพยพไปไหนว่า จะยอมปล่อยให้ความเสื่อมสภาพเป็นอย่างนี้จนยากที่จะฟื้นฟูแก้ไข หรือต้องใช้เวลานานมากหรือ หรืออยู่ในสภาพต้องขายทรัพย์สินแผ่นดินใช้หนี้คืนต่างประเทศอีกรอบ

อย่านึกว่าสภาพอย่างนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะได้เกิดขึ้นในแผ่นดินละตินอเมริกา 2-3 รอบเพราะเจ็บแล้วไม่จำ ผลัดเปลี่ยนผู้นำแต่ละรุ่นก็ยังคงใช้นโยบายประชานิยมถมไม่เต็ม กู้หนี้จนเกินขีดความสามารถจะใช้ได้ ทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้รัฐบาล

ช่วงนี้เกิดในเอกวาดอร์ ชิลี โบลิเวีย เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา ประชาชนลุกฮือขับไล่ผู้นำประเทศเพราะการทุจริต คอร์รัปชัน ปัญหาค่าครองชีพ คนว่างงาน ธุรกิจไปไม่รอด ทั้งปัจจัยต่างประเทศและสิ่งที่เรียกว่า Disruption ยังไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร

ในตะวันออกกลางสภาพเช่นเดียวกันมีในเลบานอน อิรัก อิหร่าน อียิปต์ ประชาชนทนไม่ได้กับผู้นำคอร์รัปชัน ความยากแค้น รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ในประเทศที่ผู้นำรัฐบาลขาดวินัยด้านการเงินการคลัง โครงสร้างเศรษฐกิจมีวิกฤต

บ้านเราเป็นอย่างนั้นหรือยัง? คำตอบมีทั้ง “เป็นแล้ว” “ยังไม่ถึงขั้น” หรือ “เป็นแล้วอาการยังไม่ออก” และชาวบ้านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ถ้าจะออกมาเรียกร้องก็มีกฎหมายกดหัว ห้ามการชุมนุมเคลื่อนไหว ให้ลำบากเลือดตาแทบกระเด็นก็ต้องทน

คนอยู่ดีมีสุข รวมทั้งคนกุมอำนาจรัฐ และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ มีรายได้ ไม่เดือดร้อน พยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ และสถานภาพของตัวเอง ในใจก็หวาดหวั่นว่าถ้าประชาชนทนต่อไปไม่ไหว พร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมา แล้วจะทำอย่างไร

การลุกฮือชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องมีแกนนำ ต่างคนต่างออกเพราะมีปัญหาร่วมกัน หนักเบาก็มีจิตวิญญาณด้วยกัน เห็นแล้วทั้งในประเทศที่ได้กล่าวมา รวมทั้งพวกเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศส ก็ไม่มีแกนนำประท้วงเช่นกัน

ถ้าชาวบ้านไม่เหลืออดเหลือทนกับความไม่ใส่ใจไยดี ท่าทียโสโอหังลำพองของผู้กุมอำนาจรัฐ คงไม่ออกมาเสี่ยงกับการถูกไล่ทุบตี แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และมาตรการอื่นๆ โดยพวกหวงอำนาจ กลัวว่าถ้าออกไป ความชั่วร้ายจะถูกเปิดโปง

ทุกวันนี้มีชาวบ้านเลิกหวังในผู้กุมอำนาจรัฐแล้ว เพียงแต่อยากรู้ว่าที่อยู่ต่อไปด้วยนโยบายประชานิยม สร้างหนี้สินให้แผ่นดินต่อเนื่องนั้น ต้องการให้บ้านเมืองเข้าสู่ความเสี่ยงกับวิกฤตจนขั้นสุดท้ายต้องเผชิญกับหายนะ หนักกว่าเดิม หรืออย่างไร

ได้เห็นนโยบายต่างๆ นำไปสู่การทำลายแผ่นดิน ลดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยผู้กุมอำนาจรัฐยโสลำพอง ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า “บัดนี้ในแผ่นดินนี้ ประชาชนยังจะหวังพึ่งพิงใครได้อีกหรือไม่?” หรือจะต้อง “หนีเสือปะจระเข้ซ้ำซาก”

จากประกาศของคณะรัฐเผด็จการ เปิดทางให้การลงทุนไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อีอีซีนั้น เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ เพราะเป็นอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ในการผลิตอาหารจากเกษตรแหล่งน้ำ

พื้นที่ระยอง ดินแดนอุตสาหกรรมแทนที่สวนผลไม้ ชลบุรีกำลังเปลี่ยนสภาพจากเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเป็นเมืองสารพิษจากโรงงานแยกขยะ ฉะเชิงเทราอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน จากแผ่นดินสวนผลไม้ ผืนที่นา กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นผืนดินพิษ

ถ้าไม่เรียกว่าเป็นนโยบายสิ้นคิด ทรยศต่อชาติ ทำลายความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อม จะให้เรียกว่าอย่างไร?!

รัฐบาลรัฐประหารได้เปิดทางให้มีการลงทุนตั้งโรงงานแยกขยะพิษ จากต่างประเทศเป็นพันๆ โรงกระจายในพื้นที่อีอีซีและจังหวัดอื่นๆ ทำมาหากินเหมือนซาเล้งค้าขายของเก่า ทั้งๆ ที่แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ ไม่แร้นแค้น แต่บัดนี้มีสารพิษอยู่ทั่ว

ในแผ่นดิน แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีสารพิษตกค้างจากเคมีเกษตร ที่กำลังยื้อกันอยู่เพราะเป็นห่วงพ่อค้าว่าจะต้องขาดทุน จะยัดเยียดให้ชาวนาเอาไปใช้ สารพิษจะยังคงอยู่ในร่างกายของประชาชน จนกว่าสต็อกที่ค้างอยู่จะหมดไป เงินสะพัดคล่อง

จากสารพิษเคมีเกษตรตัวเก่า จะเอาตัวใหม่อ้างการทดแทน ขยะพิษก็ให้นำเข้าทั้งๆ ที่เพื่อนบ้านห้าม ทำให้มีคำถามว่าประเทศไทยมีผู้นำแบบไหน รักห่วงใยประชาชนแค่ปาก ใช่หรือไม่ ทำไมปล่อยให้แผ่นดินมีแต่พิษ คนมีปัญหาสุขภาพ

ผู้นำแบบไหนมุ่งแต่การสร้างหนี้สินให้ประเทศ มุ่งนโยบายประชานิยม ไร้วินัยการเงินการคลัง เศรษฐกิจซบเซาถดถอยมาหลายปี ก็อ้างเหตุสงครามการค้าซึ่งเกิดเพียงปีที่ผ่านมา แต่ความเสื่อมทรุดเรื้อรังเป็นเพราะการไร้ความสามารถ ใช่หรือไม่

แถมเรื่องโกงบ้านกินเมืองคำโต พัฒนาไปสู่รูปแบบใหม่ กินแล้วอยู่ยาว!

นโยบายปิดเหมืองทองเพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ทำท่าว่าจะเป็นปาหี่ นโยบายให้เปิดเหมืองโปแตชในอีสานทำให้แผ่นดินเกษตรเป็นพื้นที่เค็มเพราะเกลือสินเธาว์ใต้ดิน ชาวบ้านถูกผีซ้ำด้ำพลอย ได้แต่รอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ้นจัญไร

ปาฏิหาริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังมีมาช่วยหรือไม่ หรือต้องให้ชาวบ้านออกแรงเอง!?
กำลังโหลดความคิดเห็น