ทรัมป์จัดแถลงข่าวใหญ่ในสายวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ว่าได้สังหารผู้นำไอซิสไปแล้วในช่วงดึกวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม ที่จังหวัด Idlib ทางตอนเหนือของซีเรียใกล้ๆ พรมแดนตุรกี ซึ่งเป็นเขตใต้อิทธิพลของรัสเซีย, อิหร่าน และเคิร์ดบางส่วน โดยเขาแถลงยาวนานเกือบ 1 ชม. ซึ่งตอนท้ายได้จัดเป็นช่วงตอบคำถามสดๆ จากผู้สื่อข่าวด้วย และมีคำถามจากข้อสงสัยของผู้สื่อข่าวจำนวนมากเป็นพิเศษ ที่ต้องการรู้รายละเอียดและจับโกหกท่านผู้นำที่ชอบพูดโกหกหรือยกเมฆเกินความจริง จนนักข่าวจับทางได้
เขาได้เล่ารายละเอียด (ตามสไตล์นักแสดงใน Reality Show) การบุกถึงรังที่ซ่อนตัวของหัวหน้าไอซิส:นายบักดาดี (Abu Bakr al-Baghdadi-นามสกุลของเขาสะกดแบบชื่อเมืองหลวงของอิรัก คือ แบกแดด-เพราะเขาเติบโตที่เมืองแบกแดด และเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์ที่ซุ่มต่อสู้กับกองทัพสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ บุกยึดแบกแดด) ว่า วิ่งหนีกองกำลังหน่วยรบพิเศษที่ไล่ล่า โดยมีสุนัขทหารเป็นตัวนำ-วิ่งหนีแบบหัวซุกหัวซุน กรีดร้องด้วยความกลัวตาย-อย่างคนขี้ขลาด-มาจนมุมเมื่อถึงทางตัน (ในอุโมงค์ที่ตัน) พร้อมบังคับลูก 3 คนให้วิ่งตามเขาเข้าไปในอุโมงค์-พอถึงทางตันก็กดระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งร่างกายถูกระเบิดจนแหลกเหลวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และอุโมงค์ก็ถล่มลงมาทับเศษชิ้นส่วนร่างกายด้วย โดยลูก 3 คนก็ถูกแรงระเบิดแหลกเหลวตายหมด-รวมทั้งสุนัขทหารของสหรัฐฯ ก็ได้รับบาดเจ็บ เพราะอยู่ใกล้กับจุดระเบิด-ได้นำมารักษาตัวขณะนี้
เขาย้ำว่า การบุก (น่าจะตั้งใจจับเป็น-แต่นายบักดาดีไม่ยอมมอบตัว และถูกบุกอย่างตั้งตัวไม่ทันจึงวิ่งหนีเข้าไปในอุโมงค์) แบบจับตายในครั้งนี้ เขาบรรยายให้ผู้ฟัง (น่าจะเป็นฐานเสียงของเขา) ได้เกิดอารมณ์ร่วมถึงความสะใจที่ได้รู้ถึงจุดจบของหัวหน้าผู้ก่อการร้ายอำมหิต ที่ทรัมป์บรรยายว่า ตายอย่างสุนัขตัวหนึ่ง อย่างขี้ขลาดวิ่งหนีกลัวตาย และนำลูกน้อย 3 คนไปบังคับให้ตายไปด้วย
ทรัมป์บอกว่า เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และโลกจะปลอดภัยยิ่งขึ้น เมื่อได้เด็ดหัวยอดผู้ก่อการร้ายอำมหิตผู้นี้
เขาพูดว่า สหรัฐฯ ได้ติดตามล่านายคนนี้มานานตั้งแต่ก่อนเขาเข้ามารับตำแหน่ง แต่ก็ไม่สามารถตามจับตัวหรือสังหารได้ นัยคือ รัฐบาลโอบามาทำไม่สำเร็จ จนมาถึงเขาที่เป็น Commander-in-Chief ซึ่งเป็นผู้เฝ้าติดตามเพื่อจะต้องจับตัวหรือสังหารให้ได้
เขาบอกว่า นาทีแรกที่เข้าทำเนียบขาว เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขาได้ตั้งคำถามกับหน่วยงานความมั่นคง, หน่วยข่าวกรองและกองทัพว่า นายบักดาดีซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ทำไมถึงจับหรือสังหารไม่ได้ (เพื่อแสดงว่า เขาไม่ลืมเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลาให้ไล่ล่าหัวหน้าผู้ก่อการร้ายคนสำคัญคนนี้)
แล้วเขาก็ยกตนขย่มโอบามา โดยบอกว่า การไล่ล่าสังหารบินลาเดนนี้ มีความสำคัญน้อยกว่าการสังหารหัวหน้าไอซิส เพราะนายบิน ลาเดนก็แค่เป็นผู้วางแผนถล่มตึกแฝด World Trade Center เท่านั้น แต่นายบักดาดีมีความร้ายกาจ และอันตรายมากกว่าหลายเท่า เพราะเขาจัดตั้งรัฐกาหลิบ (Caliphate) โดยยึดแผ่นดิน (ระหว่างอิรักและซีเรีย) เป็นฐานที่มั่นและอาณาจักรที่ครอบครองเพื่อขยายอิทธิพลความอำมหิตของการก่อการร้ายปลิดชีวิตผู้คน-ซึ่งเป็นศัตรูของไอซิส-อีกนัยหนึ่งคือ เขาเก่งกว่าโอบามา เพราะสามารถปราบศัตรูตัวที่ร้ายกาจกว่าบิน ลาเดน!
การพูดสรรเสริญตัวเองนี้ เขาจำเป็นที่ต้องยกตนข่มท่านตามนิสัยของเขา เพราะขณะนี้การไต่สวนเพื่อถอดถอนเขาในสภาล่างกำลังเข้มข้นขึ้น โดยมีพยานบุคคลที่มาให้การมีหลักฐานที่กำลังมัดเขาแน่นขึ้นทุกวัน
แต่อนิจจา-มีการนำเทปที่ทรัมป์เคยไปออกรายการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ เมื่อปี 2011 หลังจากการบุกสังหารบิน ลาเดน (ก็คงอยากจับเป็นเหมือนกัน แต่บิน ลาเดนคว้าปืนไรเฟิลมายิงต่อสู้; ก็เลยถูกยิงตายคาบ้านพัก) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2011-หลังโอบามาเข้ามารับตำแหน่งในวาระแรกได้ 2 ปี-ทรัมป์บอกว่า การสังหารบิน ลาเดนนี้ ไม่ควรให้เครดิตกับโอบามา! เพราะทางหน่วยข่าวกรองและกองกำลังพิเศษเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดตั้งแต่การสะกดรอยควานหาที่ซ่อน...จนถึงแน่ใจว่าบิน ลาเดนแอบซ่อนอยู่ที่ไหน...แล้วจึงมาเสนอให้โอบามาตัดสินใจจะบุกจับ (เป็นหรือตาย) ไหม-ทรัมป์พูดจาเยาะเย้ยเหยียดหยันปธน.โอบามา ว่า-ในนาทีที่กองทัพมาขอความเห็นชอบจากโอบามา เพื่อจะได้ปฏิบัติการนั้น โอบามาไม่มีทางเลือกใดๆ นอกจากตอบว่า “OK, ตกลงบุกได้” ก็แค่นั้น, ไม่ใช่โอบามาเก่งอะไรเลย ไม่ควรให้เครดิตกับโอบามาที่ไม่ได้ทำอะไรเลย-แต่ไม่มีทางเลือกก็ต้องเออออไปด้วย!!
แต่พอมาถึงการสังหารหัวหน้าไอซิส เขาบอกว่า เขาเป็นจอมทัพและได้ทำงานประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง แม้แต่โอบามาก็ตามล่านายบักดาดีไม่สำเร็จ!
นสพ.New York Times ออกบทบรรณาธิการวันรุ่งขึ้นหลังการแถลงข่าวของทรัมป์ว่า ปฏิบัติการสังหารนายบักดาดีครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จก็เพราะความยอดเยี่ยมของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ แม้ว่า (in spite of) ทรัมป์จะเป็นอุปสรรค; แทนที่จะ (because of) เป็นเพราะทรัมป์ทำให้สำเร็จ!!!
เพราะการปฏิบัติการครั้งนี้ ได้มีการเลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้น ทั้งๆ ที่เสี่ยงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติการในหน่วยรบพิเศษ เพราะเวลาปฏิบัติการจะต้องให้แน่ใจว่า ปัจจัยต่างๆ มีความเสี่ยงน้อยที่สุด (เช่น คืนเดือนมืด, ชาวบ้านอยู่ห่างไกลหน่วย ไม่งั้นถูกลูกหลง ฯลฯ)
ที่ต้องเลื่อนขึ้นมาเร็วอย่างน่าตกใจ ก็เพราะปธน.ทรัมป์ได้ประกาศถอนทหารอเมริกันออกมาจากชายแดนซีเรียติดต่อกับตุรกีแบบกะทันหัน เป็นการปล่อยเกาะทหารเคิร์ดให้เป็นเป้าถูกบดขยี้โดยกองกำลังอันเกรียงไกรของตุรกี จนทำให้ชาวเคิร์ดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก; รถทหารอเมริกันที่รีบร้อนขนย้ายออกมาตามคำสั่งของทรัมป์ ถูกชาวเคิร์ดขว้างปาด้วยผักเน่าและหัวมันฝรั่ง ด้วยความแค้นในทหารอเมริกันที่ทรยศต่อเขา (เขาต่อสู้ตายแทนทหารอเมริกันไปแล้ว 11,000 คนในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นหน่วยข่าวกรองที่สำคัญสามารถหาข่าวที่ซ่อนตัวของหัวหน้าไอซิสด้วย)
ถ้ารอช้ากว่านี้ นายบักดาดีจะสามารถ Regroup กับนักรบไอซิสที่ถูกปล่อยออกมาจากเคิร์ดถึง 1 หมื่นคน และอะไรจะเกิดขึ้นก็ลองนึกดูก็แล้วกัน