ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศเรื่อง “ให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารพ้นจากตำแหน่ง ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา” ความว่า
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารพ้นจากตำแหน่ง ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา เนื่องจากกระทำความผิดราชสวัสดิ์ และไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
“เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ประพฤติตนต่อต้านงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในการสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี หลังจากที่ได้ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยได้แสดงตนต่อต้านและกดดันทุกวิถีทาง เพื่อจะไม่ให้มีการสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ขึ้นทรงดำรงตำแหน่ง แต่จะให้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตนเองขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ตามที่ได้ตั้งความหวังไว้ แต่การณ์ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวัง หลังจากพระราชพิธีผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง จึงได้พยายามหาหนทางในการดำเนินการด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการสถาปนาตำแหน่งของตนเอง นอกจากนี้เจ้าคุณพระสินีนาฏ ฯ ยังได้ล่วงละเมิดพระราชอำนาจ สั่งการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
“ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการลดปัญหา หรือการกระทำใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม อันมีผลกระทบต่อสถาบันและส่วนรวมของประเทศชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาให้ขึ้นเป็นเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ด้วยทรงหวังพระราชหฤทัยว่า จะลดแรงกดดัน และปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบต่อสถาบัน หลังจากนั้น ได้ทรงเฝ้าติดตามความประพฤติและการปฏิบัติของเจ้าคุณพระสินีนาฏ ฯ มาอย่างต่อเนื่องจึงได้ทรงทราบว่า เจ้าคุณพระสินีนาฏ ฯ มิได้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และประพฤติตนให้เหมาะสมกับตำแหน่ง อีกทั้งยังไม่พอใจในตำแหน่งที่ได้รับพระราชทาน ยังกระทำการทุกประการที่จะเทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไม่มีความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของราชสำนัก แสดงความกระด้างกระเดื่อง ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ตลอดจนใช้ประโยชน์จากตำแหน่งในการดำเนินการสั่งการ แอบอ้างพระราชกระแสไปกระทำการ หรือสั่งการให้บุคคลต่าง ๆ ปฏิบัติตามคำสั่งของตนเองโดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบ อ้างว่าได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินการแทนพระองค์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในฐานะตำแหน่งของตนเอง ถือได้ว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตนโดยตรงให้เกิดความนิยมชมชอบ อันนำไปสู่สิ่งที่ตนคาดหวังไว้ มิใช่เพื่อส่วนรวมโดยแท้จริง เพราะมุ่งหวังที่จะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสถาปนาตนเองให้สูงขึ้น เทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
“การกระทำของเจ้าคุณพระสินีนาฏ ฯ ดังกล่าวถือได้ว่าไม่ถวายพระเกียรติ ขาดความกตัญญู ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสร้างความแตกแยกในหมู่ข้าราชบริพาร ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติและสถาบัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี พ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา
“อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ มาตรา ๑๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ประกอบมาตรา ๔ และมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๑๒ ของพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี พ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา
“ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน”