xs
xsm
sm
md
lg

ระหว่าง “สงคราม” และ “สันติภาพ” (1)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท

อิสราเอลถล่มโจมตีในซีเรีย
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงยังต้องคลุกไป-คลุกมา คลุกดิน-คลุกทรายอยู่แถวๆ ตะวันออกกลางกันอีกนั่นแหละทั่น เพราะ ณ ขณะนี้ฉากเหตุการณ์มันบานปลาย ปลายบานถึงขั้นต้องงัดเอา “บ้องข้าวหลามยักษ์” มาถล่มใส่กันและกัน ชนิดพังพินาศกันไปเป็นแถบๆ ด้วยเหตุเพราะ “บ่างช่างยุ” อย่างอิสราเอล ได้ตัดสินใจสวมบทเป็น “ดาวร้ายหนังไทย” ประเภทนั่งขวางใครต่อใครอยู่บนคอสะพาน แล้วส่งเสียงครวญครางเป็นเนื้อร้อง บทเพลง ประมาณว่า... “อยากจะชิมส้นตีนนัก...อยากจะชิมส้นตีนนัก”อะไรทำนองนั้น โดยถ้าหากพระเอก พระรอง หรือตัวประกอบใดๆ ก็แล้วแต่ ดันน็อตหลุด น็อตหลวม สะบัดมือ สะบัดเท้า ไปโดนเนื้อโดนตัว ดาวร้ายรายนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเกิดรายการ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ตามมาหลังการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของสหรัฐฯ ย่อมเป็นไปได้เสมอๆ...

อย่างที่ทราบๆ กันไปแล้วนั่นแหละว่า...เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลัง “ทรัมป์บ้า” ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ด้วยการอาศัย “ข้ออ้าง” ที่ว่า...กองกำลังทหารบ้าน (Quds Force) ของอิหร่านที่ประจำการอยู่ในซีเรีย ยิงจรวดถล่มใส่บริเวณที่ราบสูงโกลานซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอลก่อน เครื่องบิน F-15 และ F-16 ของอิสราเอลไม่ต่ำกว่า 28 ลำ จึงถูกส่งทะยานขึ้นฟ้า ลัดน่านฟ้าเลบานอนประเคนจรวดภาคพื้นอากาศสู่พื้นดิน เข้าใส่พื้นที่ที่ถูกอ้างว่า เป็นที่ตั้งทางทหารและโครงสร้างทางทหารของอิหร่านในซีเรียไม่ต่ำกว่า 60 ลูกขึ้นไป ตามด้วยกองกำลังภาคพื้นดิน ระดมยิงบ้องข้าวหลามยักษ์ไม่รู้กี่สิบต่อกี่สิบลูก ไปยังพื้นที่อธิปไตยในซีเรีย ชนิดดังสนั่นลั่นโลก น่าหวาดหวั่นขวัญสยองกว่ากรณีประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง อย่างมาเลเซีย เกิดมี “นายกรัฐมนตรีที่แก่ที่สุดในโลก” อุบัติขึ้นมาเป็นไหนๆ...

แถมหลังจากถล่มพื้นที่ที่อ้างว่าเป็นฐานและโครงสร้างทางทหารของอิหร่านในซีเรีย ละเมิดอธิปไตยระหว่างประเทศกันเห็นๆ บรรดาผู้นำอิสราเอล ไม่ว่าตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ต่างออกมาเยาะเย้ย เสียดสี ดูหมิ่น ดูแคลน หรือแสดงออกถึงการ “ยั่วยุ” อิหร่านอย่างเป็นระบบและกิจการ ออกมาคุยโม้โอ้อวดถึงการทำลายโครงสร้างพื้นฐานทหารของอิหร่านในซีเรียได้แบบชนิดราพณาสูรไปเป็นแถบๆ คุยว่าสามารถทำให้ทหารซีเรียและพวกนักรบ Quds Force ตายไปไม่ต่ำกว่า 40 ราย ระดับถือเป็น “ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่สุดของอิสราเอล ที่มีต่อเป้าหมายทางทหารของอิหร่านโดยตรง”...

ส่วนอิหร่านนั้น...แม้จะเคยถูกอิสราเอล “ตีหัวเข้าบ้าน” ฉวยโอกาสรุมถล่มฐานทัพอากาศ T-4 ในซีเรีย ช่วงที่ “ทรัมป์บ้า” และพันธมิตรอังกฤษ ฝรั่งเศส รุมถล่มซีเรียด้วยข้อหาใช้อาวุธเคมี จนที่ปรึกษาทางทหารของอิหร่านในซีเรียตายไปเป็นโหล และยังไม่ได้ชำระแค้นจนตราบเท่าทุกวันนี้ แถมยังอาจไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับการยิงจรวดใส่ที่ราบสูงโกลาน ตามที่รัฐบาลอิสราเอลกล่าวอ้าง ดังที่อดีตผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง GRU ของรัสเซีย และประธานสถาบัน “Academy for Geopolitical Problems” ได้ให้ความเห็นไว้กับสำนักข่าว “รัสเซีย ทูเดย์” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นแหละ... “แทบไม่มีเหตุผลใดๆ เลย ที่อิหร่านจะต้องยิงจรวดใส่ที่ราบสูงโกลานภายใต้การยึดครองอิสราเอล” แต่แม้จะถูก “ตีหัวเข้าบ้าน” หรือ “ตีหัวแล้วยังออกมายืนท้าอยู่หน้าปากซอย” ผู้นำอิหร่าน อย่างประธานาธิบดี “ฮัสซัน โรฮานี” (Hassan Rouhani) กลับยอมหันมา “กลืนเลือด” เล่นบทผู้หลัก-ผู้ใหญ่ อย่างชนิดน่าทึ่งเอามากๆ ดังที่ได้ปรากฏเป็นรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายต่อหลายสำนัก ถึงการพูดคุยต่อสายสนทนาระหว่างตัวประธานาธิบดีอิหร่านกับผู้นำเยอรมนี “นางอังเกลา แมร์เคิล” (Angela Merkel) หลังการถล่มซีเรียของอิสราเอลแค่ไม่กี่ชั่วโมง ว่าอิหร่านไม่ต้องการที่จะเห็น “ความตึงเครียดครั้งใหม่” เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง หรือ “อิหร่านพร้อมที่จะแสดงให้เห็นว่า เราพยายามมาโดยตลอดที่จะลดความตึงเครียด และสร้างเสถียรภาพให้กับภูมิภาคนี้...”

ทำไม...??? อิหร่านที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกอิสลามแบบรุนแรง หรือสุดโต่ง กลับยอมเอา “มือซุกหีบ” ไม่คิดสะบัดมือ สะบัดตีนตอบโต้อิสราเอล ที่กำลังเล่นบทเป็นดาวร้ายหนังไทย นั่งยั่วๆ ยุๆ อยู่ตามคอสะพาน ยอมจับแข้ง จับขา สะกดอาการ “เปรี้ยวตีน” กันได้ถึงขั้นนี้ อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสนใจเอามากๆ เพราะโดย “คำตอบ” มันอาจไม่เพียงนำมาใช้เป็นตัวอธิบายสถานการณ์ในตะวันออกกลางได้เท่านั้น เผลอๆ...อาจนำไปใช้เป็นคำอธิบายต่อ “สถานการณ์โลก” เอาเลยก็ยังได้ ซึ่งมันจะเป็นอะไรบ้างนั้น หรือจะมีตื้น-ลึก-หนา-บางกันในแบบไหน อย่างไร อันนี้...คงต้องขออนุญาตให้ไปติดตามกันในวันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะกว่า เพราะมันคงต้องใช้เวลา และใช้เนื้อที่อยู่บ้างตามสมควร โดยเฉพาะการอธิบายถึงความเคลื่อนไหวของบรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรป ไม่ว่าฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ภายหลังจากการตัดสินใจถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของ “ทรัมป์บ้า” ที่ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวในระดับที่บรรดานักสังเกตการณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจำนวนไม่น้อย สรุปเอาไว้ประมาณว่า ถือเป็น “จุดเปลี่ยน” ของยุโรปทั้งยุโรปเอาเลยก็ว่าได้...


กำลังโหลดความคิดเห็น