เอเอฟพี – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านจะออกเดินทางในวันนี้ (12) เพื่อทำการเยี่ยมเยือนทางการทูตในขณะที่เหล่าผู้นำโลกกำลังพยายามรักษาส่วนที่เหลือของข้อตกลงนิวเคลียร์ภายหลังวอชิงตันถอนตัว
การเดินทางของ โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ เริ่มต้นสองหลังจากการโจมตีของอิสราเอลในซีเรียซึ่งกลุ่มสังเกตการณ์ระบุว่าทำให้มีนักรบชาวอิหร่านเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งบานปลายระหว่างสองศัตรูเก่าแก่
เขาจะไปเยือนกรุงปักกิ่ง มอสโก และบรัสเซลส์ โฆษกระบุ และจัดการประชุมกับคู่สัญญาทั้งหมดที่เหลืออยู่ในข้อตกลง
ก่อนการเดินทาง ซาริฟเผยแพร่ถ้อยแถลงของรัฐบาลในหน้าทวิตเตอร์ ต่อว่า “คณะบริหารสุดโต่ง” ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯที่ละทิ้ง “ข้อตกลงที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นชัยชนะทางการทูตของประชาคมโลก”
ถ้อยแถลงเน้นย้ำว่า อิหร่านกำลังเตรียมการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมระดับอุตสาหกรรมโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ หากยุโรปไม่ให้การรับประกันอย่างเป็นรูปธรรมว่า พวกเขาสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตถึงแม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯรอบใหม่ก็ตาม
ภารกิจทางการทูตอันละเอียดอ่อนของซาริฟถูกทำให้ยากมากขึ้นจากรายงานการปะทะกันระหว่างกองกำลังอิหร่านและอิสราเอลในซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดี (10)
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory of Human Rights) ระบุในวันนี้ (12) ว่า ชาวอิหร่าน 11 คนอยู่ในหมู่นักรบโปรรัฐบาล 27 คนที่ถูกสังหารในการโจมตีของอิสราเอลซึ่งประกาศว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านตั้งฐานที่มั่นทางทหารในซีเรีย
เตหะรานซึ่งพยายามเลี่ยงการเพิ่มความรุนแรงในความขัดแย้งภูมิภาคที่อาจทำให้บาดหมางกับหุ้นส่วนยุโรปไม่ได้แสดงความคิดเห็นว่ากองกำลังของพวกเขาถูกโจมตีหรือไม่
อิสราเอลและพันธมิตรกล่าวโทษหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (Iranian Revolutionary Guard) ว่าทำให้เกิดการปะทะเมื่อวันพฤหัสบดี (10) ด้วยการยิงขีปนาวุธใส่ที่ราบสูงโกลาน
ทำเนียบขาวสนับสนุนคำอ้างของอิสราเอล และกล่าวหาอิหร่านว่า “กระทำการโดยไม่ยั้งคิด” ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
“ในสัปดาห์นี้ ไออาร์จีซี (Iranian Revolutionary Guard) ยิงขีปนาวุธใส่พลเมืองอิสราเอล และตัวแทนของอิหร่านในเยเมนยิงขีปนาวุธใส่ริยาด” ทำเนียบขาว ระบุ
ซาอุดีอาระเบียก็เป็นอีกหนึ่งศัตรูสำคัญในภูมิภาคของอิหร่าน
เมื่อวานนี้ (11) ทรัมป์คุยกับนายกรัฐมนตรี เทเรสซา เมย์ ของอังกฤษ และ “ผู้นำทั้งสองประณามการใช้ขีปนาวุธโจมตีจากซีเรียของอิหร่าน” ทำเนียบขาว ระบุ
อิหร่านปฏิเสธคำอ้างเหล่านั้นและระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลใช้เรื่องแต่งเป็นข้ออ้างรองรับ