มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันพุธ (9 พ.ค.) พุ่งแรงแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง กังวลสหรัฐฯ กลับมาคว่ำบาตรอิหร่าน หลังถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำปรับลดในกรอบแคบๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันแกว่งตัวอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ จะตัดสินใจอย่างไรในประเด็นอิหร่าน ก่อนที่เมื่อวันอังคาร (8 พ.ค.) ทรัมป์ เผยว่าอเมริกาจะถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 และจะกลับมาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจระดับสูงสุดต่อเตหะราน
ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มชาติมหาอำนาจ ช่วยปลดมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ ที่กำหนดเล่นงานเตหะราน แลกกับการที่อิหร่านยอมระงับกิจกรรมทางนิวเคลียร์ และการที่อเมริกาจะกลับมาคว่ำบาตรอีกรอบ อาจกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและนำไปสู่ภาวะอุปทานโลกตึงตัว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (9 พ.ค.) ปิดบวกแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนของกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันพุ่งสูง จากการตัดสินใจถอนอเมริกาพ้นจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของประธานาธิบดีทรัมป์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 182.33 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,542.54 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.87 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,697.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 73.00 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,339.91 จุด
ดัชนีพลังงานของเอสแอนด์พี 500 ทะยานขึ้นถึง 2.2% ทำให้ในไตรมาสนี้ปรับขึ้นไปแล้วถึง 12.8% มากกว่าภาคใดๆในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้แรงหนุนจากกรณีสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐฯ หันเหความสนใจไปจากสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำในวันพุธ (9 พ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 70 เซ็นต์ ปิดที่ 1,313.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์