มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - น้ำมันพุ่งแรงในวันจันทร์ (7 พ.ค.) จากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกรอบ ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่าจะยังอยู่ในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านหรือจะกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานอีกรอบ ในวันอังคาร (8 พ.ค.) ตอน 14.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) เร็วกว่าที่คาดหมายไว้ 4 วัน
พวกนักวิเคราะห์มองว่าหากสหรัฐฯ กลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง มันก็จะส่งผลกระทบต่ออุปทานทางพลังงานจากเตหะราน ท่ามกลางความคาดหมายว่าการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านน่าจะลดลงราวๆ 200,000 ถึง 300,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เชื่อว่าภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านก็จะยังคงพัฒนาต่อไป แม้ว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวจากข้อตกลงก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (7 พ.ค.) ปิดบวก หลังราคาน้ำมันที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 และได้แรงหนุนจากหุ้นของแอปเปิลที่ขยับขึ้น 6 วันติด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 94.81 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,357.32 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.21 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,672.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 55.60 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,265.21 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยาน สืบเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับ PDVSA บริษัทน้ำมันของเวเนซุเอลา และเค้ารางความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกรอบ
นอกจากนี้ วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากหุ้นของแอปเปิล ซึ่งปิดบวก 0.72 ขยับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เผยว่าจะซื้อหุ้นของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีแห่งนี้เพิ่มเติม ขณะที่มหาเศรษฐีรายนี้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีในวันจันทร์ (7 พ.ค.) ว่า “ผมยากเป็นเจ้าของแอปเปิล 100%”
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (7 พ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบหลายเดือน และถูกฉุดจากความเคลื่อนไหวของตลาดทุนและราคาน้ำมัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 60 เซ็นต์ ปิดที่ 1,314.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์