xs
xsm
sm
md
lg

ซัดบิ๊กตู่ใช้แม่น้ำ5สาย-ม.44 เบิกทางแผนสืบทอดอำนาจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"นพ.ระวี" พรรคพลังธรรมใหม่ เมินหนุน "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯต่อ ท้าตั้งพรรคทหาร ซัดรัฐบาลผลาญงบเกินดุล 6 แสนล้าน ถลุงทำประชานิยม "นิพิฏฐ์" เชื่อ"สุเทพ" ตั้งพรรคชัวร์ เผย 2 น้องชายยังไม่ยืนยันความเป็นสมาชิก ยอมรับกระทบฐานเสียง ทำส.ส.บัญชีรายชื่อลด "องอาจ" แฉแผนดัน"บิ๊กตู่" สืบทอดอำนาจ ผ่านทางแม่น้ำ 5 สาย- ม.44

นพ.ระวี มาศฉมาดล หน.พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงว่า พรรคมีความเป็นห่วงเรื่องการใช้งบประมาณเกินดุลของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะ ใน 4 ปี รัฐบาลใช้งบเกินดุลไป 1.79 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะปีนี้ รัฐบาลได้เพิ่มงบเกินดุลในช่วงกลางปี รวมทั้งหมด ปี 61 จะใช้งบเกินดุลถึง 6 แสนล้านบาท พรรคจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ทวบทวนการใช้งบให้ละเอียด รอบคอบ รวมถึงการติดตามการใช้งบฯ อย่าให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนใช้งบเกินดุลจำนวนมากขนาดนี้ นอกจากนี้ขอเตือนรัฐบาลอย่าใช้งบไปกับการหาเสียงแบบประชานิยมมากเกินไป เพราะไม่ เป็นผลดีต่อประเทศในระยะยาว

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า พรรคพลังธรรมใหม่ได้รับหนังสือรับแจ้งจาก กกต. ถึงเรื่องชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ และตราสัญลักษณ์ของพรรค ได้รับอนุมัติเป็นทางการแล้ว ดังนั้น พรรคจะนัดประชุมวันที่ 12 พ.ค.นี้ ที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจะมีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดแรก ก็จะได้ทราบว่าใครจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการพรรคทั้งหมด

นพ.ระวี ยังกล่าวถึง ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ประสงค์ที่จะเป็นนายกฯต่อ จะต้องตั้งพรรคทหารขึ้น และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เป็นนายกฯคนนอก เพราะต้องหาเสียงสนับสนุนในรัฐสภา 501 เสียง ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเป็น 1 ใน 3 รายชื่อ ของพรรคทหาร ที่จะเสนอชื่อ

สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ หากเราประสบความสำเร็จ เราจะเสนอชื่อคนของพรรคเราขึ้นชิงตำแหน่งนายกฯ แต่หากไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะเลือกคนดี จากรายชื่อของพรรคอื่นๆ ที่เสนอมา

เมื่อถามถึงบทบาทของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม นพ.ระวี กล่าวว่า พล.ต.จำลอง ได้ลั่นสัจจะวาจามาหลายครั้งว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พล.ต.จำลอง เป็นบุคคลากรของประเทศที่มีคุณธรรม ขอยืนยันว่า พล.ต.จำลอง จะไม่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาพรรคอย่างแน่นอน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ระบุในทำนองว่า จะมีการตั้งพรรคการเมืองแล้ว โดยเชื่อว่า คงจะมีความพยายามที่จัดตั้งพรรค อยู่ที่ว่าจะให้ใครเป็นผู้จัดตั้ง เพราะตัวนายสุเทพคงไม่ได้ไปจัดตั้งเอง ซึ่งยังมั่นใจว่าแม้จะมีการตั้งพรรค กปปส. ก็จะไม่เกิดปัญหาสมองไหลในพรรคประชาธิปัตย์ โดยในขณะนี้อดีต ส.ส. มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเกือบครบทุกคนแล้วยกเว้นแค่ นายธานี และ นายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เท่านั้น ซึ่งยังมีเวลาจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้

"หากมีการตั้งพรรค กปปส. จริง ก็จะแบ่งคะแนนของปชป.ไป ทำให้มีการต่อสู้หนักในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และยังเชื่อว่าปชป. จะเป็นที่หนึ่ง แต่คะแนนที่ได้จะลดลง ซึ่งจะกระทบต่อจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนพรรคกปปส. ที่จะจัดตั้งขึ้น ก็จะเก็บตกคะแนน ในแต่ละเขตไปได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ทั้งนี้ ยังเห็นว่าการมีพรรคการเมืองใหม่ เป็นเรื่องดี เพราะทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น" นายนิพิฎฐ์ กล่าว

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวถึงกรณี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มีการเคลื่อนไหว เพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้งว่า ยินดีต้อนรับ เพราะจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการเลือกตั้ง มากยิ่งขึ้น ท่านจะได้เข้าสู่ถนนการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย และท่านก็จะได้เข้าใจการเมืองมากขึ้น จะได้ไม่ด่ากราดนักการเมือง ว่าไม่ดีไปทั้งหมด เหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวตั้งพรรคการเมือง สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากจัดทำรธน. ทำกม.ประกอบรธน.10 ฉบับ โดยเฉพาะกม. ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ก็มีผลบังคับใช้เพียง 2 ฉบับ คือ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ส่วน ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ก็ยังยื้อเวลา สร้างเงื่อนไขให้ศาลรธน.ตีความ ว่าขัดกับรธน. หรือไม่

ขณะที่กม.พรรคการเมือง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.60 ก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะติดล็อก คำสั่ง คสช. เท่านั้นยังไม่พอ ยังใช้มาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 มาปรับเปลี่ยนกม.พรรคการเมือง ทำให้สร้างปัญหาในทางปฏิบัติ และมีความย้อนแย้งกันอยู่หลายส่วน

"การดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ผ่านกลไกแม่น้ำ 5 สาย และอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผ่าน ม. 44 ออกคำสั่งคสช. มากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ สืบทอดอำนาจ รวมถึงการเคลื่อนไหวจัดตั้งพรรคการเมืองของคนในรัฐบาล เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามยุทธศาสตร์สืบทอดอำนาจเช่นกัน" นายองอาจ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น