“มาร์ค” รับคนกังวลหาก “สุเทพ” ตั้งพรรค ดัก “บิ๊กตู่” รับนั่งนายกฯ เท่ากับรู้เห็น

หัวหน้า ปชป.เผยลูกพรรคยังไม่มีใครปฏิเสธทำงานต่อ หลัง “เทพเทือก” แย้มตั้งพรรคใหม่ แต่รับคนกังวลฐานเสียงเดียวกัน ไม่รู้ดันชื่อ “ประยุทธ์” นายกฯ หรือไม่ ดักถ้าเอออ่อก็รู้เห็น ย้ำ ปชป.หาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ ให้ ปชช.กลับมาสนใจอนาคตชาติ รับอยากเป็น รบ. แต่ผลักดันแนวทางไม่ได้ยอมเป็นฝ่ายค้าน

วันนี้ (11 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.จะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ทั้งที่ฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่านายสุเทพอยู่ในระดับที่ใช้คำว่าไม่ปฏิเสธทางเลือกที่จะตั้งพรรค แต่ไม่ชัดเจนถึงกับบอกว่าจะตั้งพรรคการเมือง และในขณะนี้ไม่มีใครในพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงความจำนงไม่ทำงานกับพรรคต่อ แม้กระทั่งหลายคนในแกนนำ กปปส.ก็ยังยืนยันว่าจะทำงานกับประชาธิปัตย์ ถ้านายสุเทพตั้งพรรคเราต้องดูว่าแนวทางคืออะไร ยังไม่ทราบว่าพรรคที่นายสุเทพจะตั้งขึ้นเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อยู่ที่เจ้าตัวจะยินยอมหรือไม่ ดังนั้น ตอนนี้ก็ยังมีเพียงคำว่า “ถ้า” เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดถ้าประชาชนเลือกตั้งมามากหรือน้อย ตนถึงบอกว่าวันนี้ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทางเลือกของประเทศจะไปทางไหน คนอื่นจะทำอะไรก็เป็นสิทธิของคนอื่น

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนย้ำในพรรคประชาธิปัตย์ว่าใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ หน้าที่ของพรรคตอนนี้คือหาคำตอบที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับประเทศ และบอกประชาชนเพื่อให้ประชาชนสนับสนุน นี่คือแนวทางที่เราจะทำ อย่าพะวงเรื่องเกมการเมืองว่าเพื่อไทยจะแตกหรือไม่ ประชาธิปัตย์จะแบ่งฐานเสียงการเมือง ดังนั้นวันนี้จะต้องทำอย่างไรให้ประชาชนกลับมาสนใจว่าอนาคตประเทศจะเดินไปอย่างไร

เมื่อถามว่าการที่นายสุเทพจะตั้งพรรคจะทำให้ประชาธิปัตย์ได้หรือเสีย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนกังวลแน่ เพราะมีความรู้สึกว่าฐานเสียงคือฐานเดียวกัน คนที่จะตอบว่าได้หรือเสียคือประชาชนและหาก พล.อ.ประยุทธ์ยินยอมให้เสนอชื่อก็เท่ากับรู้เห็นให้นายสุเทพจัดตั้งพรรค

เมื่อถามต่อว่าการตั้งพรรคของนายสุเทพอาจทำให้พรรคประชาธิปัตย์แตกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า ตนยึดถือแนวทางการแก้ไขปัญหาประเทศ ถ้าพรรคไม่สามารถผลักดันแนวทางที่ต้องการจะทำได้เราก็ไม่สมควรที่จะทำ เราต้องเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ไม่เช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่วันนี้ตั้งใจว่าอยากเป็นรัฐบาล เพราะปัญหาของประเทศต้องการการแก้ไขและประเทศควรจะมีทางเลือกที่ดีกว่าเผด็จการและคอร์รัปชัน