เรื่องร้อนฉ่าที่คาบสมุทรเกาหลีเหนือได้เย็นลงอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้นำจีนเล่นบทผู้ใหญ่มาห้ามทัพเด็กอมมือใจร้อนสองคนที่พ่นความร้อนจากปากเหม็นๆ ใส่กัน คนหนึ่งเป็นเด็กโข่งอายุ 71 ชื่อทรัมป์ อีกคนคือ คิมน้อยอายุ 30
แต่เรื่องร้อนฉ่าที่ทำเนียบขาวกลายเป็นการทยอยประกาศลาออกของ CEO ดังๆ ที่ตกหลุมทรัมป์โดยยอมมานั่งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมผลิตของอเมริกัน ที่ทรัมป์ทำเก๋ตั้งขึ้นตั้งแต่ธันวาปีที่แล้ว ก่อนที่ตนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ
ตอนที่บรรดา CEO เหล่านี้ยอม (หลวมตัว) มาเป็นไม้ประดับให้ทรัมป์นั้น ก็ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นที่โวยวายทั้งในและนอกห้องประชุม เพื่อประณามการเข้าร่วมไปนั่งคู่กับทรัมป์ของบรรดา CEO (ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มมหาเศรษฐีในธุรกิจ IT และชื่อก้องโลก) เหล่านี้
พวกเขายังต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงแก่บรรดาลูกค้าที่อาจไม่พอใจและเปลี่ยนใจที่จะหยุดอุดหนุนสินค้าและบริการของพวกเขา เมื่อลูกค้าไม่ชอบทรัมป์เป็นส่วนใหญ่
การประกาศลาออกครั้งนี้ ก็ได้มีการออกมาแถลงด้วยว่า การออกมาเดินขบวนกลางวันแสกๆ ถือป้าย KKK, ธงนาซีแล้วชูคบเพลิง พร้อมตะโกนคำขวัญที่ข่มขู่ด้วยความเกลียดชังว่า แผ่นดินนี้เป็นของพวกผิวขาว (White Anglo-Saxon Protestants หรือ WASP ตลอดจน White Supermacists) เท่านั้น บรรดา CEO แถลงว่า เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับคุณค่าของอเมริกันที่ต้องมีความหลากหลาย ทั้งสีผิว, ศาสนา, เผ่าพันธุ์, เพศ, ความเชื่อ ซึ่งเป็นชาติที่เน้นเรื่องการมีส่วนร่วมจากผู้คนจากหลากหลายผิวพรรณ
CEO เหล่านี้แถลงด้วยว่า เขาผิดหวังในการที่ได้เข้าร่วมใน American Manufacturing Council ที่คาดว่าจะช่วยประธานาธิบดีผลักดันไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมจากผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์
พวกเขาผิดหวังที่นายทรัมป์เทียบพวกนาซีกับกลุ่มคนที่ต้านนาซีในการปะทะกันที่ม.เวอร์จิเนีย
CEO ของ Intel คือนาย Brain Krzanich,บริษัทชุดกีฬาของมหาเศรษฐีหนุ่ม Kevin Plank จากกลุ่มบริษัท Under Armour, และจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ของโลกชื่อ MERCK คือนาย Ken Frazier
ยังมีประธานสหภาพผู้ทรงพลัง AFL-CIO ชื่อ Richard Trumka และรองประธานด้วย ; อีกคนคือ นาย Scott Paul ประธานของพันธมิตรเพื่อผู้ผลิตอเมริกัน (Alliance for American Manufacturing)
นายทรัมป์ถูกชาวนิวยอร์กมาชุมนุมประท้วงเมื่อเขาเดินทางมาที่ตึกทรัมป์ ดึกวันอาทิตย์ (สามทุ่ม) เพื่อหลบผู้ประท้วง ชาวนิวยอร์กไม่พอใจนายทรัมป์ที่ไปสรุปการชุมนุมของนาซีว่า เหมือนกับกลุ่มต้านนาซี ผู้ประท้วงทรัมป์ถือป้ายว่า “ทรัมป์มือเปื้อนเลือด” เพราะมีผู้หญิงชุมนุมที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ ถูกรถยนต์ที่กลุ่มนิยมนาซีขับชนจนตายคาที่ และบาดเจ็บหลายคน
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นมิถุนานี้เอง มี CEO’S 2 คนที่ถอนตัวจากคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจของทรัมป์
คนแรกคือนาย Elon Musk มหาเศรษฐีหนุ่ม (อายุ 45) เจ้าของบริษัท Tesla ที่กำลังผลิตรถยนต์ไม่มีคนขับ เขาบอกว่า “ถ้าคุณ(ทรัมป์) ถอนตัวออกจากข้อตกลงแก้โลกร้อนได้ ผมก็ขอถอนตัวจากคณะที่ปรึกษาของคุณได้เช่นกัน”
อีกคนคือ CEO ของ บ.Disney เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิงยักษ์ ที่สร้างรายได้ให้สหรัฐฯ มหาศาล เขาชื่อ Robert Iger ก็ถอนตัวเมื่อทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงโลกร้อนด้วย
การออกมายืนเผชิญหน้ากับผู้นำของประเทศ ต้องอาศัยความกล้าหาญ และการเข้าใจจุดยืนของลูกค้าส่วนใหญ่ของตน ที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง มากกว่าไปเข้าข้างฝ่ายที่ผิด และไม่มีอนาคต