รอยเตอร์ - ซีอีโอยักษ์ใหญ่ 3 บริษัทชื่อดังของสหรัฐฯ ยื่นหนังสือลาออกจากสภาที่ปรึกษาอุตสาหกรรมอเมริกาให้กับผู้นำสหรัฐฯ วันนี้ (15 ส.ค.) เหตุไม่พอใจปฏิกิริยาของประธานาธิบดีทรัมป์ ถึงเหตุรุนแรงการประท้วงของกลุ่มชาตินิยมผิวขาว ไวท์ สุพรีมาซิสต์ ซึ่งมีการรวมตัวของกลุ่มนีโอนาซี และกลุ่มคูคลักซ์แคลน หรือเคเคเค ในเมืองชาร์ล็อตต์สวิล รัฐเวอร์จิเนีย สุดสัปดาห์
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ว่า ซีอีโอบริษัท อินเทล คอร์ป ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ไบรอัน คราซานิช (Brian Krzanich) เป็น 1 ใน 3 ผู้บริหารยักษ์ใหญ่ประกาศลาออกจากสภาที่ปรึกษาอุตสาหกรรมอเมริกา หลังจากการออกมาให้ความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ในตอนแรกไม่ออกมาประณามกลุ่มนีโอนาซี และกลุ่มคลูคลักซ์แคลน หรือ KKK ในเหตุรุนแรงการประท้วงในเมืองชาร์ล็อตต์สวิล รัฐเวอร์จิเนีย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ (11 ส.ค.)
โดยคราซานิชได้ประกาศลาออกผ่านบล็อก intel.ly/2fFOjAd ว่า “ผมได้ลาออกจากสภาที่ปรึกษา เพื่อแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศการแบ่งขั้วทางการเมืองที่อันตรายในเวลานี้ ที่นำมาสู่ปัญหาที่วิกฤต...”
ทั้งนี้ นอกจากซีอีโอบริษัท อินเทล ที่ได้ยื่นใบลาออกแล้ว พบว่า ซีอีโอบริษัทยายักษ์ใหญ่อเมริกา เมิร์ก แอนด์ โค อิงก์ (Merck & Co Inc) เคนเนธ เฟรเซอร์ (Kenneth Fraizer) ซึ่งเป็นแอฟริกันอเมริกัน ได้ประกาศเช่นกันว่า ได้ลาออกจากสภาที่ปรึกษาให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว
โดยชี้ว่า เนื่องมาจากปฏิกิริยาของทรัมป์หลังเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการปะทะระหว่างกลุ่มไวท์สุพรีมาซิส หรืออีกชื่อหนึ่งคือ กลุ่มไวท์ เนชันแนลลิสต์ ที่มีต่อกลุ่มประท้วงต่อต้านเมืองชาร์ล็อตต์สวิลในช่วงสุดสัปดาห์
เฟรเซอร์ระบุว่า มีความจำเป็นต้องแสดงจุดยืนต่อต้านต่อ “ความไม่อดทนและความรุนแรงสุดโต่ง”
และในแถลงการณ์ของซีอีโอบริษยายังชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯสมควรที่ต้องสนับสนุนต่อความคิดรากฐานของประเทศ โดยการแสดงการปฏิเสธ และไม่เห็นด้วยต่อการแสดงออกถึงความเกลียดชัง ความไม่ยอมรับต่อความเห็นต่าง และกลุ่มที่เห็นว่าตัวเองดีที่สุดโดยกีดกันและเหยียดหยามคนอื่น ซึ่งถือเป็นปฏิปักษ์ต่อค่านิยมรากฐานอเมริกาที่เชื่อว่า “ทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน”
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (11 ส.ค.) กลุ่มขวาจัดผิวขาวนิยมความรุนแรงได้รวมตัวในมหาวิทยาลัยรัฐเวอร์จิเนีย เพื่อประท้วงคำสั่งย้ายอนุสาวรีย์สัญลักษณ์กองทัพคอนเฟเดอเรชันแห่งรัฐทางใต้ช่วงยุคสงครามเลิกทาสอเมริกา และนำมาสู่ความรุนแรงในเวลาต่อมา
รอยเตอร์รายงานว่า ซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่เสื้อผ้าอเมริกา อันเดอร์ อาร์มอร์ (Under Armour) สัญลักษณ์ยูกลับหัวบนและล่างที่โด่งดัง ได้ประกาศการลาออกเช่นกัน
ทั้งนี้ พบว่า เควิน แพลงค์ (Kevin Plank) ประธานบริหารของอันเดอร์ อาร์มอร์ได้แถลงการณ์ลาออกผ่านทางทวิตเตอร์ มีข้อความว่า “เรายังคงมีมุ่งมั่นในความสามารถและศักยภาพของเราในความก้าวหน้าอุตสาหกรรมอเมริกา” แพลงค์แถลง และกล่าวต่อว่า “แต่อย่างไรก็ตาม ทางอันเดอร์ อาร์มอร์นั้นให้ความสนใจเฉพาะในนวัตกรรมและการกีฬาเท่านั้น ไม่ใช่การเมือง”