นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการ่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง กรณี “กลุ่ม 34 สนช.” ได้ลงชื่อ ยื่นหนังสือต่อศาลรธน. เพื่อวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ขัดหรือแย้งต่อรธน. จากกรณีที่ประชุมใหญ่ สนช. มีมติให้ประธาน และผู้ตรวจการแผ่นดิน อยู่ในตำแหน่งต่อ จนครบวาระ ซึ่งอาจจะขัดกับคุณสมบัติใน รธน.ปี 60 ว่า สนช.สามารถยื่นได้เลย เพื่อให้ศาลรธน.วินิจฉัย ไม่ต้องรอดูท่าทีของกรธ. เพราะเราเพียงแต่สงสัยตรงนี้เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็เป็นทางเลือกของเขา ก็เหมือนกับที่เราเซตซีโร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ก็เป็นคนละเหตุผลกับกรณีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับ สนช.
ส่วนที่มีกระแสวิจารณ์ ในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่มีคำถามว่า กรธ. ยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อใคร นายมีชัย ย้อนถามกลับว่า เพื่อใคร เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือ ประชาชน ให้ระบบการเลือกตั้งไม่ง่ายต่อการซื้อเสียง แต่ก็ไม่ใช่จะมาบอกว่า วิธีนี้การซื้อเสียงจะหมดไป และถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ ก็ขอให้บอกมาที่กรธ.
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีคนออกมาท้าว่า ถ้าแก้ปัญหาทุจริตไม่ได้ กรธ.ต้องรับผิดชอบนั้น นายมีชัย กล่าวว่า "คนที่ต้องรับผิดชอบคือ กกต. เพราะกรธ.ไม่ได้จัดการเลือกตั้ง และที่ผ่านมาก็มีการทุจริตกันเยอะ"
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึง กรณีกลุ่ม 34 สนช. เข้าชื่อยื่นศาลรธน.ตีความ ร่าง พ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า เรื่องนี้เป็นช่องทางที่เขียนไว้ในรธน. อยู่แล้วว่า สนช.จำนวน 1 ใน 10 หรือ นายกรัฐมนตรี ทำได้ หากเห็นว่าร่างกฎหมายมีเนื้อหาสาระขัดเจตนารมณ์รธน. เชื่อว่าศาลฯจะรับไว้พิจารณา เพราะถ้าไม่รับศาลน่าจะมีปัญหา ซึ่งก็ต้องชี้แจงเหตุผลที่มีน้ำหนักให้สังคมรับทราบ ส่วนเนื้อหาจะขัดเจตนารมณ์รธน.หรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ สนช. ต้องอธิบายต่อสังคมให้ได้ ว่าเหตุผลคืออะไร เพราะจะเป็นบรรทัดฐานให้กับ สนช. ในการพิจารณาร่างกฎหมาย ว่า ทำไมต้องแตกต่างกัน ทั้งที่เป็นกฎหมายองค์กรอิสระเหมือนกัน แต่ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่ สนช. ยื่นให้ศาลฯพิจารณา แม้จะมองว่า ประเด็นที่ยื่นไม่ได้ขัดต่อรธน. เพราะรธน.เขียนไว้ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำรงตำแหน่งต่อไปได้
"การออกกฎหมายก็ต้องมีเหตุมีผลเท่าเทียมกันทุกองค์กร การมาอ้างว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน มาจาก รธน. ปี50 จึงให้อยู่ต่อ ประโยคนี้ใช้ไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น เพราะ กกต. เองก็มาจากรธน.ปี 50 เหมือนกัน การออกกฎหมายอย่างนี้ จึงใช้ไม่ได้" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวฝากถึง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ต่อกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้งส.ส. ว่า อาจารย์มีชัย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เป็นมือร่างกฎหมายระดับต้นๆ ของประเทศ เป็นผู้รอบรู้ รอบด้าน ไม่ควรเอาความคิดเห็นของตนเองเป็นหลักในการร่างกฎหมาย การพิจารณากฎหมาย ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายว่า เห็นอย่างไร เพื่อทำให้กฎหมายนั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่ร่างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ตนก็เกิดทันในยุคที่การเลือกตั้งใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ไม่ได้หัวโบราณ ที่จะย้อนกลับไปใช้แบบนั้น
ส่วนที่มีกระแสวิจารณ์ ในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่มีคำถามว่า กรธ. ยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อใคร นายมีชัย ย้อนถามกลับว่า เพื่อใคร เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือ ประชาชน ให้ระบบการเลือกตั้งไม่ง่ายต่อการซื้อเสียง แต่ก็ไม่ใช่จะมาบอกว่า วิธีนี้การซื้อเสียงจะหมดไป และถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ ก็ขอให้บอกมาที่กรธ.
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีคนออกมาท้าว่า ถ้าแก้ปัญหาทุจริตไม่ได้ กรธ.ต้องรับผิดชอบนั้น นายมีชัย กล่าวว่า "คนที่ต้องรับผิดชอบคือ กกต. เพราะกรธ.ไม่ได้จัดการเลือกตั้ง และที่ผ่านมาก็มีการทุจริตกันเยอะ"
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึง กรณีกลุ่ม 34 สนช. เข้าชื่อยื่นศาลรธน.ตีความ ร่าง พ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า เรื่องนี้เป็นช่องทางที่เขียนไว้ในรธน. อยู่แล้วว่า สนช.จำนวน 1 ใน 10 หรือ นายกรัฐมนตรี ทำได้ หากเห็นว่าร่างกฎหมายมีเนื้อหาสาระขัดเจตนารมณ์รธน. เชื่อว่าศาลฯจะรับไว้พิจารณา เพราะถ้าไม่รับศาลน่าจะมีปัญหา ซึ่งก็ต้องชี้แจงเหตุผลที่มีน้ำหนักให้สังคมรับทราบ ส่วนเนื้อหาจะขัดเจตนารมณ์รธน.หรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ สนช. ต้องอธิบายต่อสังคมให้ได้ ว่าเหตุผลคืออะไร เพราะจะเป็นบรรทัดฐานให้กับ สนช. ในการพิจารณาร่างกฎหมาย ว่า ทำไมต้องแตกต่างกัน ทั้งที่เป็นกฎหมายองค์กรอิสระเหมือนกัน แต่ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่ สนช. ยื่นให้ศาลฯพิจารณา แม้จะมองว่า ประเด็นที่ยื่นไม่ได้ขัดต่อรธน. เพราะรธน.เขียนไว้ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำรงตำแหน่งต่อไปได้
"การออกกฎหมายก็ต้องมีเหตุมีผลเท่าเทียมกันทุกองค์กร การมาอ้างว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน มาจาก รธน. ปี50 จึงให้อยู่ต่อ ประโยคนี้ใช้ไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น เพราะ กกต. เองก็มาจากรธน.ปี 50 เหมือนกัน การออกกฎหมายอย่างนี้ จึงใช้ไม่ได้" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวฝากถึง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ต่อกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้งส.ส. ว่า อาจารย์มีชัย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เป็นมือร่างกฎหมายระดับต้นๆ ของประเทศ เป็นผู้รอบรู้ รอบด้าน ไม่ควรเอาความคิดเห็นของตนเองเป็นหลักในการร่างกฎหมาย การพิจารณากฎหมาย ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายว่า เห็นอย่างไร เพื่อทำให้กฎหมายนั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่ร่างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ตนก็เกิดทันในยุคที่การเลือกตั้งใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ไม่ได้หัวโบราณ ที่จะย้อนกลับไปใช้แบบนั้น