“กกต.สมชัย” มองการพิจารณาการออกกฏหมายองค์กรอิสระมี 3 แบบ จนถูกวิจารณ์มิใช่ยึดหลักของกฎหมาย แต่เป็นการส่งสัญญาณองค์กรที่เหลือวางตัวให้เหมาะสม ชี้เสือไม่ร้อง แต่คนได้รับผลกระทบมีอารมณ์ ความรู้สึก มีอุดมการณ์ มีความจริงที่ต้องพิสูจน์
วันนี้ (4 ส.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นเรื่องการเซตซีโร่ กกต. ที่มีการพิจารณาต่างกันของกรรมการในองค์กรอิสระว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระ 3 แห่ง อาจมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของกรรมการแตกต่างกันถึง 3 แบบ กกต.ให้เซตซีโร่ เนื่องจากต้องการกรรมการชุดใหม่ที่มีคุณสมบัติสูงทั้งคณะ โดยไม่สนใจว่าคนเก่าที่มีคุณสมบัติครบจะเสียสิทธิ์หรือไม่ เนื่องจากเกรงสภาวะปลาสองน้ำ คนใหม่คนเก่าต้องมาทำงานร่วมกันจะไม่เป็นผลดี ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สนช.ลงมติในวาระแรกให้เซตซีโร่ แต่ในวาระ 2 และ 3 ชั้นกรรมาธิการกำลังเสนอให้สามารถอยู่ต่อไปอีกครึ่งวาระ และสามารถกลับมาสมัครใหม่ได้
ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน สนช.ลงมติในวาระ 3 ให้ผู้ตรวจการฯ ชุดปัจจุบันสามารถดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไปจนครบวาระ ด้วยเหตุผลว่ามาจากรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงไม่ควรไปรอนสิทธิบุคคลดังกล่าว และมีท่าทีจาก กรธ.ในฐานะผู้ร่างกฎหมายที่เสนอหลักให้ดำรงตำแหน่งต่อเฉพาะผู้มีคุณสมบัติครบว่าอาจจะไม่ทำความเห็นแย้งซึ่งยังเหลืออีก 2 องค์กร คือ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่รู้ว่า กรธ.และ สนช.จะลงมติในอนาคตอย่างไรซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 3 แบบ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองเริ่มวิจารณ์แล้วว่า กระบวนการออกกฎหมายเป็นกระบวนการทางการเมือง มิใช่ยึดหลักของกฎหมาย และเป็นการเริ่มส่งสัญญาณถึงองค์กรอิสระที่เหลือให้วางตัวให้เหมาะสม มิเช่นนั้นอาจมีชะตากรรมเช่นองค์กรแรกๆ
“คนออกกฎหมายที่มีหลักที่แตกต่างย่อมมีเหตุผลนานัปการที่กล่าวอ้างได้ แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องรับฟังและตัดสินเองว่าเหตุผลนั้นรับได้หรือไม่ ผู้ได้รับผลกระทบมีทั้งเสือและคน เสือนั้นไม่ร้องไห้ แต่คนมีอารมณ์ความรู้สึก มีอุดมการณ์ มีหลักการ มีความจริงที่ต้องพิสูจน์ เสือส่วนเสือ คนส่วนคน”