ผู้จัดการรายวัน 360 - รองนายกฯ แสดงปาฐกถางาน “นิกเกอิ ฟอรัม” ที่กรุงโตเกียว ยก “ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้” เป็น 4 ประเทศทรงพลัง ร่วมสร้างเอเชียเป็นความหวังใหม่ของโลก หลังจากเกิดความไม่แน่นอนในสหรัฐอเมริกา และยุโรป
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาในงาน Nikei Forum ครั้งที่ 23 หัวข้อ “The Future of Asia” ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้หมอกควันแห่งความไม่แน่นอนได้แผ่กระจายออกไปทั่วโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ และการเมือง เริ่มตั้งแต่เมื่อปีก่อนที่การส่งเสริมการค้าเสรี TPP ได้ถูกสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดีจากประเทศผู้ริเริ่ม เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา มากกว่าการดูแลพันธมิตร และเน้นปกป้องมากกว่าการส่งเสริมเสรีการค้าเพื่อตอบโต้ประเทศคู่ค้า ทั้งที่ประเทศส่วนใหญ่เคยได้รับการส่งเสริมจากสหรัฐอเมริกา
ขณะเดียวกันการที่ประเทศอังกฤษออกจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งกำลังเขย่าสถานะของ อียู อย่างรุนแรง หรือการที่ นายมาครง ได้รับเลือกตั้งในฝรั่งเศส ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะหยุดยั้งการมุ่งสลัดตนเองจากอียูได้หรือไม่ ประการสำคญ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ให้ความสำคัญต่อความเป็นปึกแผ่นของ NATO และตอกย้ำกับกลุ่ม G7 ว่าต้องรับผิดชอบมากขึ้น เพราะห้วงเวลาของการพึ่งพาคนนอก หมายถึงสหรัฐอเมริกาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นายสมคอด กล่าวตอนหนึ่ง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง พลังการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ยังไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ว่าโลกในอีก 1 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร อย่างไรก็ตาม ความวิตก มองโลกในแง่ร้ายไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น การก้าวไปข้างหน้าอย่างกลมเกลียวกันจะฝ่าความท้าทายไปได้ ชาติแห่งเอเชียต้องสร้างพลังงานแห่งเอเชียให้เป็นความหวังใหม่ รักษาไว้ซึ่งการค้าเสรีเพื่อประคองเศรษฐกิจโลก
เมื่อ 14-15 พ.ค.ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้ขยับตัวประชุม One Belt One Road เป็นแนวทางความร่วมมือของเอเชียเพื่อเชื่อมโยงยุโรป ยูเรเชีย แอฟริกา เพื่อเป็นแพลตฟอร์มใหม่แห่งการค้าเสรีของโลก และความร่วมมือของชาติต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแนวทางอื่นเพื่อสร้างความหวังแห่งอนาคต เช่น เป้าหมายของญี่ปุ่นกับพันธมิตร 12 ชาติในการผลักดันเขตการค้าเสรี TPP แม้ไม่มีสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมอีกแล้ว แต่การที่ญี่ปุ่นเข้ามาทำหน้าที่แทนสหรัฐอเมริกาถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยประเทศไทยพร้อมสนับสนุนเต็มที่ หรือการตั้งกลุ่ม RCEP ประกอบด้วยอาเซียน และ 6 ประเทศใหญ่คือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีประชากรรวมกันเท่ากับครึ่งหนึ่งของโลก หากผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมก็จะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อชาติในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม 4 ประเทศใหญ่ที่เป็นพลังแห่งเอเชียคือ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ต้องเป็นหัวแรงสำคัญในการขจัดอุปสรรคปัญหาสำคัญต่างๆ 4 ด้านคือ 1.ต้องมีการเชื่อมโยงการขนส่งคมนาคม ระบบซัปพลายเชน ลอจิสติกส์ โดยต้องเชื่อมโยงกันโดยไร้อุปสรรคทางการค้า การลงทุน การร่วมมือพัฒนาแรงงาน 2.ต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาร่วม (Joint Development Stategy) 3.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน และ 4.ต้องมีสันติภาพและความไว้ใจกัน (Peace and Trust)
ในช่วงท้าย นายสมคิดกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่ได้ก้าวพ้นวิกฤตทางการเมืองให้เป็นโอกาสในการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าปีนี้อัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 3.5 การร่วมมือทั้งเอกชนและรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ปรับกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ โดยล่าสุดได้รับจัดอันดับความสามารถการแข่งขันดีขึ้นในอันดับที่ 27 ขณะเดียวกันประเทศไทยยังพร้อมร่วมกับมหามิตรอย่างญี่ปุ่นในการเป็นอีกกำลังหนึ่งและมีส่วนร่วมสร้างอนาคตแห่งเอเชีย เพื่อเป็นเครื่องจักรเครื่องใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นความหวังใหม่ของโลก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาในงาน Nikei Forum ครั้งที่ 23 หัวข้อ “The Future of Asia” ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้หมอกควันแห่งความไม่แน่นอนได้แผ่กระจายออกไปทั่วโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ และการเมือง เริ่มตั้งแต่เมื่อปีก่อนที่การส่งเสริมการค้าเสรี TPP ได้ถูกสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดีจากประเทศผู้ริเริ่ม เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา มากกว่าการดูแลพันธมิตร และเน้นปกป้องมากกว่าการส่งเสริมเสรีการค้าเพื่อตอบโต้ประเทศคู่ค้า ทั้งที่ประเทศส่วนใหญ่เคยได้รับการส่งเสริมจากสหรัฐอเมริกา
ขณะเดียวกันการที่ประเทศอังกฤษออกจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งกำลังเขย่าสถานะของ อียู อย่างรุนแรง หรือการที่ นายมาครง ได้รับเลือกตั้งในฝรั่งเศส ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะหยุดยั้งการมุ่งสลัดตนเองจากอียูได้หรือไม่ ประการสำคญ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ให้ความสำคัญต่อความเป็นปึกแผ่นของ NATO และตอกย้ำกับกลุ่ม G7 ว่าต้องรับผิดชอบมากขึ้น เพราะห้วงเวลาของการพึ่งพาคนนอก หมายถึงสหรัฐอเมริกาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นายสมคอด กล่าวตอนหนึ่ง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง พลังการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ยังไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ว่าโลกในอีก 1 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร อย่างไรก็ตาม ความวิตก มองโลกในแง่ร้ายไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น การก้าวไปข้างหน้าอย่างกลมเกลียวกันจะฝ่าความท้าทายไปได้ ชาติแห่งเอเชียต้องสร้างพลังงานแห่งเอเชียให้เป็นความหวังใหม่ รักษาไว้ซึ่งการค้าเสรีเพื่อประคองเศรษฐกิจโลก
เมื่อ 14-15 พ.ค.ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้ขยับตัวประชุม One Belt One Road เป็นแนวทางความร่วมมือของเอเชียเพื่อเชื่อมโยงยุโรป ยูเรเชีย แอฟริกา เพื่อเป็นแพลตฟอร์มใหม่แห่งการค้าเสรีของโลก และความร่วมมือของชาติต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแนวทางอื่นเพื่อสร้างความหวังแห่งอนาคต เช่น เป้าหมายของญี่ปุ่นกับพันธมิตร 12 ชาติในการผลักดันเขตการค้าเสรี TPP แม้ไม่มีสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมอีกแล้ว แต่การที่ญี่ปุ่นเข้ามาทำหน้าที่แทนสหรัฐอเมริกาถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยประเทศไทยพร้อมสนับสนุนเต็มที่ หรือการตั้งกลุ่ม RCEP ประกอบด้วยอาเซียน และ 6 ประเทศใหญ่คือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีประชากรรวมกันเท่ากับครึ่งหนึ่งของโลก หากผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมก็จะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อชาติในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม 4 ประเทศใหญ่ที่เป็นพลังแห่งเอเชียคือ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ต้องเป็นหัวแรงสำคัญในการขจัดอุปสรรคปัญหาสำคัญต่างๆ 4 ด้านคือ 1.ต้องมีการเชื่อมโยงการขนส่งคมนาคม ระบบซัปพลายเชน ลอจิสติกส์ โดยต้องเชื่อมโยงกันโดยไร้อุปสรรคทางการค้า การลงทุน การร่วมมือพัฒนาแรงงาน 2.ต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาร่วม (Joint Development Stategy) 3.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน และ 4.ต้องมีสันติภาพและความไว้ใจกัน (Peace and Trust)
ในช่วงท้าย นายสมคิดกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่ได้ก้าวพ้นวิกฤตทางการเมืองให้เป็นโอกาสในการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าปีนี้อัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 3.5 การร่วมมือทั้งเอกชนและรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ปรับกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ โดยล่าสุดได้รับจัดอันดับความสามารถการแข่งขันดีขึ้นในอันดับที่ 27 ขณะเดียวกันประเทศไทยยังพร้อมร่วมกับมหามิตรอย่างญี่ปุ่นในการเป็นอีกกำลังหนึ่งและมีส่วนร่วมสร้างอนาคตแห่งเอเชีย เพื่อเป็นเครื่องจักรเครื่องใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นความหวังใหม่ของโลก