“พาณิชย์”เซ็นต์เอ็มโอยูให้ “โตโยต้า ทูโซ” ผู้ส่งสินค้าเข้าอาฟริการายใหญ่ เป็นที่ปรึกษาพร้อมช่วยกระจายสินค้าไทยเข้าดินแดนกาฬทวีป เริ่มจากข้าว ตามด้วยสินค้าอื่นๆ คาดเพิ่มมูลค่าการค้าได้อีก 10% จากเดิมที่มีปีละ 8 พันล้านเหรียญ
วันนี้(5 มิ.ย.) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU)ความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และบริษัท โตโยต้า ทูโช (Toyota Tsusho Corporation) ในการสนับสนุนและให้คำปรึกษาการขยายการค้าการลงทุนของไทยในอาฟริกา ว่า ทูโซ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกกับอาฟริกา ต่อมาได้ขยายธุรกิจเข้าควบกิจการของบริษัท CFAO มีสำนักงานครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาฟริการวม 53 ประเทศ เหลือเพียง 2 ประเทศที่ไม่มี จึงมีช่องทางระบายสินค้าที่กว้างขวางมาก เราจะให้เขาช่วยกระจายสินค้าในอาฟริกา เริ่มจากข้าว และสินค้าชนิดอื่นๆ จะตามมา
นางอภิรดีกล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับทุกประเทศในอาฟริกามีรวมกันประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า และเรายังมีศักยภาพที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าได้อีก เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในทวีปนี้เริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจรูปฟื้นตัว แม้บางประเทศ เช่น ไนจีเรีย ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำ แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้น ขณะที่ไทยยังสามารถที่จะนำเข้าวัตถุดิบ สินแร่ อัญมณี สัตว์น้ำแช่แข็ง นำมาแปรรูปเพื่อการส่งออกได้ด้วย และเมื่อการค้าขยายตัว การลงทุนก็จะตามมา การลงนามครั้งนี้จึงเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญมาก
ทั้งนี้ เอ็มโอยูดังกล่าว ไทยได้ให้ทูโซเป็นที่ปรึกษาและเป็นเครื่องมือในการกระจายสินค้าด้วย เนื่องจากทูโซมีระบบลอจิสติกส์ที่พร้อม ในการนำสินค้าเข้าอาฟริกา และจะทำให้ไทยส่งสินค้าชนิดอื่นๆ เข้าอาฟริกาได้อีกมาก นอกเหนือจากข้าวที่ไทยครองตลาด 50 เปอร์เซ็นต์ในอาฟริกา ซึ่งแต่ก่อนเราส่งออกผ่านเทรดเดอร์คนกลาง แต่หลังจากนี้เราจะส่งออกด้วยตัวเราเอง
นางอภิรดีกล่าวอีกว่า อาฟริกาเป็นทวีปใหญ่ มีประชากรประมาณ 1 พันล้านคน และกำลังสร้างประเทศขึ้นมา สินค้าประเภทชิ้นส่วนยานยนต์กำลังขายดีมาก ก่อนหน้านี้อุปสรรคสำคัญในการส่งสินค้าเข้าไปยังอาฟริกาคือระบบลอจิสติกส์ที่ยังไม่พร้อม ขณะเดียวกันสินค้าไทยประเภทอาหาร พลาสติก และเสื้อผ้าคุณภาพระดับกลาง ก็เป็นที่นิยมมาก และคนอาฟริกาก็มีความเชื่อใจในสินค้าไทย คาดว่าหลังจากการลงนามเอ็มโอยูกับทูโซแล้ว ไทยจะส่งสินค้าไปยังอฟาริกาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 10% และเราไม่ได้ส่งสินค้าเข้าไปขายอย่างเดียว เราจะเข้าไปร่วมมือด้านการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ ในอาฟริกายังมีเขตการค้าเสรี Tripatite FTA มีสมาชิก 26 ประเทศที่รวมกันเป็นตลาดเดียวมีประชากร 674 ล้านคน ถ้าส่งสินค้าเข้าไปก็จะเท่ากับว่า เข้าไปได้ทันที 26 ประเทศ และสามารถกระจายสินค้าไปยังตะวันออกกลางและยุโรปได้อีกด้วย
ส่วนคู่แข่งของไทยในตลาดอาฟริกา ก็มีเวียดนาม มาเลเซีย และจีน ที่พยายามรุกตลาดเข้าไป แต่ไทยก็สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารที่เราได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างมาก