xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

11 ปีแห่งความขมขื่น “วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร” บุรุษเหล็กผู้จุดประกายปฏิรูปตำรวจไทย !!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ข้อเขียนวันนี้ถือเป็นบทส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ซึ่งอยากเรียนให้พี่น้องประชาชนและ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้ทราบปัญหาการสอบสวนคดีอุกฉกรรจ์สำคัญคดีหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จนกระทั่งป่านนี้ผู้รับผิดชอบและองค์กรเกี่ยวข้องก็ยังไม่มีคำตอบหรือคำอธิบายต่อผู้เกี่ยวข้องและสังคมแต่อย่างใด

นั่นคือกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดบ้านพักราชการสถานีตำรวจภูธร (สภ.) อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พยายามฆ่า พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้กำกับและในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่หรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ เหตุระเบิดเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวในเช้าตรู่ของวันที่ 10 ต.ค.48 หรือ 11 ปีผ่านมาแล้ว

เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า พ.ต.อ.วิรุตม์ เป็นตำรวจที่รักความถูกต้องยุติธรรมและเคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายอย่างตรงไปตรงมาตลอดมา แต่กลับกลายเป็นที่หนักใจของผู้บังคับบัญชาไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัดหรือกองบัญชาการ เพราะจะขอให้ช่วยใครคดีเรื่องใดโดยมิชอบตามที่เคยกระทำกันตลอดมาก็ไม่ได้

นับแต่ดำรงตำแหน่ง สภ.อ.ลำลูกกา ต้นปี 2547 ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังหลังจากที่ถูกปล่อยให้เละเทะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมานาน โดยเฉพาะรถบรรทุกดินที่บรรทุกตกหล่นน้ำหนักเกินที่สร้างความเสียหายต่อสาธารณสมบัติของแผ่นดินและเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ รวมทั้งการควบคุมอบายมุขแหล่งพักค้ายาเสพติดที่รอลำเลียงเข้า กทม.และเป็นทางผ่านส่งต่อไปภาคตะวันออก เป็นที่ชื่นชมพอใจทั้งของประชาชนในอำเภอลำลูกกาและจังหวัดปทุมธานีอย่างมากในเวลาอันรวดเร็ว

หลังจากปฏิบัติหน้าที่ไปได้ไม่กี่เดือน ก็มีเหตุนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่ประกอบธุรกิจคาราโอเกะเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลยาเสพติดรายใหญ่และมีพฤติกรรมเป็นนักเลงหัวไม้ลอบยิงผู้ใหญ่บ้านตายในงานบวชกลางดึกแล้วอาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าละเมาะไป พ.ต.อ.วิรุตม์ เกาะติดการสืบสวนสอบสวนจนปรากฎพยานหลักฐานมัดตัวคนร้ายเสนอศาลออกหมายจับตัวมาได้ในเวลาต่อมา รอการสืบพยานชั้นศาลแบบต่อเนื่องในเวลาอีกประมาณ 1 ปี ซึ่งระหว่างนั้นนอกจากพ.ต.อ.วิรุตม์ จะควบคุมดูแลพยานปากสำคัญซึ่งมีลักษณะเป็นพยานแวดล้อมอย่างดีแล้ว ยังนำตัวเองเข้าเป็นพยานยืนยันคำให้การของพยานปากคำสำคัญดังกล่าวอีกชั้นหนึ่งด้วยเพื่อป้องกันมิให้มีการกลับคำให้การหรือล้มคดี เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก็จะขึ้นเบิกความต่อศาล

นี่เป็นสาเหตุสำคัญอย่างยิ่งที่นำไปสู่ความพยายามในการลอบสังหาร พ.ต.อ.วิรุตม์ เป็นที่รู้กันในหมู่ชาวลำลูกกาหลังเกิดเหตุ แต่ด้วยบุญบารมีที่ทำไว้กับประชาชนระเบิดดินดำประมาณ 5 ปอนด์ที่อัดแน่นอยู่ในภาชนะวัสดุทางหทารวางอยู่หลังประตูบ้านด้านในไม่สามารถปลิดชีวิตของ พ.ต.อ.วิรุตม์ได้ เพียงบาดเจ็บสาหัสมือขวาแตกละเอียดเลือดโทรมร่างลอยไปติดรั้วโดยมีตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชารีบเข้ามาพยุงนำส่งโรงพยาบาลสายใหม และตรวจพบในเวลาต่อมาว่าเยื่อแก้วหูแตกเนื่องจากแรงอัดอากาศของการระเบิดด้วย

ใครมาเห็นความเสียหายของบ้านซึ่งพังยับทั้งหลังต่างก็เห็นเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ รอดชีวิต ถามกันแต่ว่าแขวนพระอะไร ผู้คนทุกวงการแห่ไปเยี่ยมกันมากมายแน่นโรงพยาบาลแม้แต่พี่น้องชาวมุสลิมทั้งในและนอกพื้นที่

ระหว่างนอนรักษาตัวหลังผ่าตัด พ.ต.อ.วิรุตม์ ได้เฝ้าติดตามการสืบสวนสอบสวนก็ได้ยินแต่การตั้งประเด็นแปลกๆ เช่นแย่งผลประโยชน์กับลูกน้อง มีปัญหาชู้สาว แต่ประเด็นสำคัญไม่ยอมพูดถึง แม้กระทั่ง พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติขณะนั้นก็ช่วยกันถล่มว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว และอีกประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้ทราบว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ขณะนั้น ได้สั่งให้ ผบช.ภ.1 ย้าย พ.ต.อ.วิรุตม์ ไปอยู่จังหวัดทางภาคอีสานเป็นการลงโทษ

พ.ต.อ.วิรุตม์ จึงแน่ใจว่าการรายงานสาเหตุและการสอบสวนคดีนี้ไม่ได้เป็นด้วยความสุจริตอย่างแน่นอน ทั้งมาจากกลุ่มตำรวจขี้อิจฉาตาร้อนและผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบหน้ากลัวว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการทั้งจะทำให้มีชื่อเสียงเจริญก้าวหน้า เนื่องจากขณะนั้นได้ดำรงตำแหน่ง ผกก.มาแล้ว 6 ปี และกำลังจะมีการแต่งตั้งประจำปีปลายเดือนตุลาคมในปีนั้น

พ.ต.อ.วิรุตม์ จึงได้สั่งให้ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาพยายามสืบหาพยานหลักฐานเองนำมาปะติดปะต่อกัน จนได้เบาะแสสำคัญเชื่อมโยงคนร้ายที่เกี่ยวกับเหตุระเบิดมุ่งสังหารตัวเอง จนสามารถไปเสนอศาลออกหมายจับได้

แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นประมาณ 10 วัน พ.ต.อ.วิรุตม์ได้ถูกสั่งย้ายไปเป็นผู้กำกับ สภ.อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่ง ผบช.ภ.1 ที่มี พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ รอง ผบช.ภ.1 ขณะนั้นเป็นหัวหน้า กลับไปขอถอนหมายจับผู้ต้องหาที่ลอบวางระเบิด โดยอ้างว่ามีการใช้พยานเท็จ

หลังจากนั้น พ.ต.อ.มาโนช สุภาพพูล ผกก.สภ.อ.ลำลูกกาก็ส่งสำนวนคดีพยานเท็จเสนอให้อัยการศาลจังหวัดธัญญบุรีสั่งฟ้อง อัยการไม่ทันได้ดูตาม้าเรืออะไรก็หลงกลสั่งฟ้องพยานตามที่ตำรวจเสนอ ให้ตามจับตัวมาฟ้องภายในอายุ อีก 1 เดือนต่อมาคณะพนักงานสอบสวนจึงสรุปสำนวนคดีลอบวางระเบิดเสนอให้อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด

พ.ต.อ.วิรุตม์ แน่ใจว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการสอบสวนที่ทุจริตปฏิบัติหน้าที่มิชอบมีเจตนาช่วยผู้กระทำความผิดอาญาไม่ต้องรับโทษ จึงได้พยายามสืบหาพยานที่ขาดการติดต่อไปอยู่หลายปี จนในที่สุดได้พบตัวเมื่อต้นปี 2552 จึงบันทึกหลักฐานสำคัญต่างๆ ไว้ แต่ สตช.ไม่สนใจ จึงไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในยุคที่ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร เป็นประธาน กล่าวโทษคณะพนักงานสอบสวนที่แจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อตนโดยมิชอบทำให้ถูกจับและควบคุมตัวเสื่อมเสียเสรีภาพ รวมทั้งขอให้คุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้มีหนังสือถึง ผบ.ตร.ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวและดำเนินการให้ความคุ้มครองพยานให้ปลอดภัย แต่ ผบ.ตร.กลับไม่ยอมตอบหนังสือดังกล่าวและไม่มีการให้ความคุ้มครองปลอดภัยพยานแต่อย่างใด

นอกจากนั้น พ.ต.อ.วิรุตม์ ยังได้นำหลักฐานภาพเคลื่อนไหวและคำให้การของพยานปากสำคัญส่งให้อัยการสูงสุดยุค นายชัยเกษม นิติศิริ พิจารณาว่าการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีและการที่อัยการจังหวัดธัญญบุรีสั่งฟ้องพยานข้อหาเป็นพยานเท็จโดยปราศจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอัยการสูงสุดได้พิจารณาเรื่องนี้อยู่เกือบ 2 ปีจนถึงยุคนายจุลสิงห์ วสันต์สิงค์ จึงตอบกลับมาสั้นๆ ว่า ได้กลับคำสั่งของอัยการจังหวัดธัญญบุรีคดีดังกล่าวเป็นสั่งไม่ฟ้องแล้ว แต่ไม่พบว่ามีการทุจริตแต่อย่างใด ส่วนที่ว่าถือเป็นการปฎิบัติราชการสั่งคดีที่สอดคล้องกับพยานหลักฐานในการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ไม่ยอมตอบ

ในปลายปี 2553 พ.ต.อ.วิรุตม์ จึงได้รวมรวบพยานหลักฐานทั้งหมดกล่าวโทษต่อประธาน ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดี พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ กับคณะพนักงานสอบสวนและผู้บังคับการตำรวจจังหวัดปทุมธานีผู้ลงชื่อในสำนวนการสอบสวนรวม 12 คนรวมทั้ง นายชวลิต บรรณเกียรติ อัยการประจำศาลจังหวัดธัญญบุรีผู้สั่งคดีฟ้องนางนันทาฯ และได้ทำหนังสือทวงถามไปยัง ป.ป.ช.เป็นระยะไปแล้วถึง 6 ครั้ง จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะเสร็จสิ้นการแสวงหาข้อเท็จจริงเริ่มไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลได้เมื่อใด

ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินถือว่าเวลาได้ผ่านมาร่วม 9 ปี ผ่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดินมา 3-4 คน ก็ยังไม่มีคำวิจฉัยในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใดเช่นกัน

พ.ต.อ.วิรุตม์ เขียนไว้ในหนังสือ “โรดแมปปฏิรูปตำรวจ” ตอนหนึ่งว่า “การจะเป็นตำรวจที่ดีทำหน้าที่รักษากฎหมายคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมไทยนั้นแสนยาก บุคคลนั้นจะต้องมีจิตใจที่กล้าหาญอย่างมาก โดยสิ่งแรกที่เขาต้องเสียสละก็คือโอกาสความก้าวหน้าในชีวิต รวมไปถึงความสุขในชีวิตส่วนตัวรวมทั้งครอบครัวด้วย นอกจากนั้น ก็ยังต้องพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและความยุ่งยากนานัปประการที่เกิดตามมา สร้างความเจ็บปวดและขมขื่น ยากที่จะอธิบายต่อผู้คน และเมื่อหันไปข้างหลัง ก็จะเห็นผู้บังคับบัญชายืนปะปนอยู่กับผู้กระทำผิดกฎหมายด้วยความสะใจ”

นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับการสอบสวนล้มคดีสำคัญที่คนร้ายลอบวางระเบิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานของรัฐระดับสูงเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายอ่างเคร่งครัดคดีหนึ่ง

และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจข้าราชการน้ำดีที่อาจต้องเผชิญความอยุติธรรมเช่นนายตำรวจท่านนี้ และท่านอื่นๆ จึงขอฝากท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีว่า เมื่อได้รับรู้เรื่องการสอบสวนที่แสนวิปริตเช่นนี้แล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะดำเนินการอย่างไรทั้งต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้รับผิดชอบการสอบสวน รวมทั้ง ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบกันแต่อย่างใด.


กำลังโหลดความคิดเห็น