เอพี/เอเจนซีส์/รอยเตอร์-"ทรัมป์"ประกาสลุยสาระอนุรักษ์นิยมเต็มสูบ ทั้งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงที่ว่างอยู่ การประกาศกวาดล้างผู้ลักลอบเข้าเมือง 3 ล้านคนที่มีประวัติอาชญากรรมทันที พร้อมประกาศไม่รับเงินเดือนปีละ 4 แสนเหรียญสหรัฐ บอกผู้ประท้วง ไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกลัว เผยยังได้แต่งตั้งทีมบริหารระดับสูงแล้ว 2 ตำแหน่ง ด้าน "สี จิ้นผิง" ย้ำจีนกับสหรัฐฯ ยังต้องร่วมมือกัน หลังเจอทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีช่วงหาเสียง
สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานการให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายซีบีเอส ที่บันทึกเทปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. และออกอากาศฉบับเต็มเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 13 พ.ย. ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ได้แนะนำตัวเองอีกครั้ง หลังแคมเปญหาเสียง “อัปลักษณ์” และชัยชนะสุดช็อคที่จุดชนวนการประท้วงยืดเยื้อทั่วอเมริกาเป็นวันที่ 5
ทรัมป์ บอกกลางรายการว่า พวกที่ออกมาประท้วงไม่รู้จักตนจริงๆ และฝากถึงคนอเมริกันจำนวนมากที่กลัวการครองตำแหน่งประธานาธิบดีของตนว่า “อย่ากลัวไป เรากำลังจะนำประเทศของเรากลับคืนมา” และยังสำทับว่า เสียใจที่ได้ยินว่า ผู้สนับสนุนตนบางส่วนทำร้ายชาวมุสลิมและฮิสปานิก
อย่างไรก็ดี เคลลีแอน คอนเวย์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ กลับพูดถึงการประท้วงที่ยังคุกรุ่นในหลายเมืองแม้ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสงบผ่านฟ็อกซ์ นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เธอแน่ใจว่า ผู้ประท้วงจำนวนมากเป็นม็อบมืออาชีพที่ถูกว่าจ้างมา
ต่อมา คอนเวย์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “มีท เดอะ เพรสส์” ของเครือข่ายเอ็นบีซีว่า เหตุการณ์นี้เข้าข่ายสองมาตรฐาน เพราะถ้ากลับกันเป็น ฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครต เป็นฝ่ายชนะและผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาประท้วง ก็จะถูกโจมตีว่า คนเหล่านั้นไม่เคารพผลการเลือกตั้ง
คอนเวย์สำทับว่า ถึงเวลาแล้วที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และคลินตัน จะออกมาพูดกับประชาชนว่า ทรัมป์คือประธานาธิบดีของเรา
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ 60 มินิตส์ ทรัมป์บอกชัดเจนว่า จะผลักดันวาระปีกขวาอย่างเต็มที่ เช่น การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงที่ว่างอยู่ โดยเลือกบุคคลที่ต่อต้านการทำแท้งและสนับสนุนสิทธิการครอบครองอาวุธปืน
สำหรับประเด็นการเข้าเมือง ทรัมป์ยืนยันว่า จะทำตามที่หาเสียงไว้ คือ สร้างกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก แต่เสียงอ่อนลงว่า บางช่วงบางตอนอาจสร้างเป็นแนวรั้วก็พอ และยังบอกอีกว่า จะเนรเทศหรือจองจำผู้ลักลอบเข้าเมืองที่มีประวัติอาชญากรรมที่มีอยู่ถึง 3 ล้านคน แต่ก็เปิดช่องว่า อาจมีการพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ทุ่มเททำงานถูกกฎหมาย
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังส่งสัญญาณว่า จะไม่ยกเลิกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกันในอเมริกา รวมทั้งยืนยันว่า จะไม่รับเงินเดือนปีละ 400,000 เหรียญสหรัฐ ในตำแหน่งประธานาธิบดี แต่จะรับแค่ 1 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเมือง ทรัมป์ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งแรก คือ สตีฟ แบนนอน ประธานกรรมการแคมเปญหาเสียง ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้านักยุทธศาสตร์และที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี และเรนซ์ พรีบัส ประธานคณะกรรมการแห่งชาติพรรครีพับลิกัน เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า ทรัมป์ที่ถือเป็นนักการเมืองมือใหม่ ต้องการให้คณะบริหารชุดใหม่สานต่อแนวทางประชานิยมที่ส่งให้ตนฉลุยสู่ทำเนียบขาว
สำหรับพรีบัสเป็นนักปฏิบัติการการเมืองที่ช่ำชอง แถมใกล้ชิดสนิทสนมกับพอล ไรอัน สมาชิกรีพับลิกันที่นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรและไม่กินเส้นกับทรัมป์ขั้นรุนแรงระหว่างการหาเสียง แต่จะมีบทบาทสำคัญในการกรุยทางวาระต่างๆ ของทรัมป์ในรัฐสภา โดยทั้งพรีบัสและไรอันล้วนมาจากรัฐวิสคอนซิน
ส่วนแบนนอนเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “เบรตบาร์ต นิวส์” เว็บไซต์ปีกขวาที่เป็นฟอรัมการรวมตัวอย่างหลวมๆ ของพวกนีโอนาซี ลัทธิคนขาวสุดโต่ง และกลุ่มต่อต้านยิว เว็บไซต์นี้ยังคลั่งไคล้ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด และขึ้นชื่อเรื่องการโจมตีสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกัน การต่อต้านการทำแท้ง การโจมตีผู้อพยพชาวมุสลิม และครั้งหนึ่งเคยแนะนำผู้หญิงที่เป็นเหยื่อการล่วงละเมิดออนไลน์ให้ “ล็อกออฟ” และหยุด “ปั่นหัวผู้ชายทางอินเทอร์เน็ต”
ทางด้านประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทรัมป์เคยระบุช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 45% จนเป็นข่าวพาดหัวใหญ่โต และยังระบุอีกว่าจีนเป็นนักปั่นค่าเงิน ซึ่งได้สร้างความไม่แน่นอนในด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ
สื่อทางการจีนรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ได้บอกทรัมป์ผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์ว่า ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้วในทางเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของโลก มันยังมีพื้นที่อีกมากมายที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ จะสามารถร่วมมือกันได้
"ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความร่วมมือเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวสำหรับจีนและสหรัฐอเมริกา" สถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี รายงานคำพูดของผู้นำจีน
สียังบอกด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องโปรโมตการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองชาติ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลักดันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้ก้าวไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น
ด้านสำนักงานเปลี่ยนผ่านอำนาจประธานาธิบดีของทรัมป์ ระบุในคำแถลงว่า ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ ผู้นำทั้งสองได้เกิดความรู้สึกที่ชัดเจนในเรื่องความเคารพกันและกัน ทรัมป์ยังเชื่อด้วยว่าผู้นำทั้งสองจะสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งเพื่อให้ทั้งสองประเทศก้าวไปข้างหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานการให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายซีบีเอส ที่บันทึกเทปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. และออกอากาศฉบับเต็มเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 13 พ.ย. ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ได้แนะนำตัวเองอีกครั้ง หลังแคมเปญหาเสียง “อัปลักษณ์” และชัยชนะสุดช็อคที่จุดชนวนการประท้วงยืดเยื้อทั่วอเมริกาเป็นวันที่ 5
ทรัมป์ บอกกลางรายการว่า พวกที่ออกมาประท้วงไม่รู้จักตนจริงๆ และฝากถึงคนอเมริกันจำนวนมากที่กลัวการครองตำแหน่งประธานาธิบดีของตนว่า “อย่ากลัวไป เรากำลังจะนำประเทศของเรากลับคืนมา” และยังสำทับว่า เสียใจที่ได้ยินว่า ผู้สนับสนุนตนบางส่วนทำร้ายชาวมุสลิมและฮิสปานิก
อย่างไรก็ดี เคลลีแอน คอนเวย์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ กลับพูดถึงการประท้วงที่ยังคุกรุ่นในหลายเมืองแม้ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสงบผ่านฟ็อกซ์ นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เธอแน่ใจว่า ผู้ประท้วงจำนวนมากเป็นม็อบมืออาชีพที่ถูกว่าจ้างมา
ต่อมา คอนเวย์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “มีท เดอะ เพรสส์” ของเครือข่ายเอ็นบีซีว่า เหตุการณ์นี้เข้าข่ายสองมาตรฐาน เพราะถ้ากลับกันเป็น ฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครต เป็นฝ่ายชนะและผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาประท้วง ก็จะถูกโจมตีว่า คนเหล่านั้นไม่เคารพผลการเลือกตั้ง
คอนเวย์สำทับว่า ถึงเวลาแล้วที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และคลินตัน จะออกมาพูดกับประชาชนว่า ทรัมป์คือประธานาธิบดีของเรา
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ 60 มินิตส์ ทรัมป์บอกชัดเจนว่า จะผลักดันวาระปีกขวาอย่างเต็มที่ เช่น การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงที่ว่างอยู่ โดยเลือกบุคคลที่ต่อต้านการทำแท้งและสนับสนุนสิทธิการครอบครองอาวุธปืน
สำหรับประเด็นการเข้าเมือง ทรัมป์ยืนยันว่า จะทำตามที่หาเสียงไว้ คือ สร้างกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก แต่เสียงอ่อนลงว่า บางช่วงบางตอนอาจสร้างเป็นแนวรั้วก็พอ และยังบอกอีกว่า จะเนรเทศหรือจองจำผู้ลักลอบเข้าเมืองที่มีประวัติอาชญากรรมที่มีอยู่ถึง 3 ล้านคน แต่ก็เปิดช่องว่า อาจมีการพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ทุ่มเททำงานถูกกฎหมาย
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังส่งสัญญาณว่า จะไม่ยกเลิกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกันในอเมริกา รวมทั้งยืนยันว่า จะไม่รับเงินเดือนปีละ 400,000 เหรียญสหรัฐ ในตำแหน่งประธานาธิบดี แต่จะรับแค่ 1 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเมือง ทรัมป์ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งแรก คือ สตีฟ แบนนอน ประธานกรรมการแคมเปญหาเสียง ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้านักยุทธศาสตร์และที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี และเรนซ์ พรีบัส ประธานคณะกรรมการแห่งชาติพรรครีพับลิกัน เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า ทรัมป์ที่ถือเป็นนักการเมืองมือใหม่ ต้องการให้คณะบริหารชุดใหม่สานต่อแนวทางประชานิยมที่ส่งให้ตนฉลุยสู่ทำเนียบขาว
สำหรับพรีบัสเป็นนักปฏิบัติการการเมืองที่ช่ำชอง แถมใกล้ชิดสนิทสนมกับพอล ไรอัน สมาชิกรีพับลิกันที่นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรและไม่กินเส้นกับทรัมป์ขั้นรุนแรงระหว่างการหาเสียง แต่จะมีบทบาทสำคัญในการกรุยทางวาระต่างๆ ของทรัมป์ในรัฐสภา โดยทั้งพรีบัสและไรอันล้วนมาจากรัฐวิสคอนซิน
ส่วนแบนนอนเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “เบรตบาร์ต นิวส์” เว็บไซต์ปีกขวาที่เป็นฟอรัมการรวมตัวอย่างหลวมๆ ของพวกนีโอนาซี ลัทธิคนขาวสุดโต่ง และกลุ่มต่อต้านยิว เว็บไซต์นี้ยังคลั่งไคล้ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด และขึ้นชื่อเรื่องการโจมตีสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกัน การต่อต้านการทำแท้ง การโจมตีผู้อพยพชาวมุสลิม และครั้งหนึ่งเคยแนะนำผู้หญิงที่เป็นเหยื่อการล่วงละเมิดออนไลน์ให้ “ล็อกออฟ” และหยุด “ปั่นหัวผู้ชายทางอินเทอร์เน็ต”
ทางด้านประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทรัมป์เคยระบุช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 45% จนเป็นข่าวพาดหัวใหญ่โต และยังระบุอีกว่าจีนเป็นนักปั่นค่าเงิน ซึ่งได้สร้างความไม่แน่นอนในด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ
สื่อทางการจีนรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ได้บอกทรัมป์ผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์ว่า ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้วในทางเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของโลก มันยังมีพื้นที่อีกมากมายที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ จะสามารถร่วมมือกันได้
"ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความร่วมมือเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวสำหรับจีนและสหรัฐอเมริกา" สถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี รายงานคำพูดของผู้นำจีน
สียังบอกด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องโปรโมตการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองชาติ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลักดันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้ก้าวไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น
ด้านสำนักงานเปลี่ยนผ่านอำนาจประธานาธิบดีของทรัมป์ ระบุในคำแถลงว่า ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ ผู้นำทั้งสองได้เกิดความรู้สึกที่ชัดเจนในเรื่องความเคารพกันและกัน ทรัมป์ยังเชื่อด้วยว่าผู้นำทั้งสองจะสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งเพื่อให้ทั้งสองประเทศก้าวไปข้างหน้า
