“หนึ่งความคิด”
โดย “สุรวิชช์ วีรวรรณ”
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อชั้นกลางสังคมไทยในที่ในงานประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2559เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งมีการอภิปราย เรื่อง เดินหน้าประชาธิปไตยว่า “วันนี้โจทย์ใหญ่ของเราคือทำไมชนชั้นกลางไม่เอาประชาธิปไตย”
คำถามที่ผมคิดตามมาก็คือ “ชนชั้นกลางไม่เอาประชาธิปไตยจริงหรือ”
สุรชาติ วิจารณ์คนที่คิดว่า ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านนั้นเขาไม่เห็นด้วย เพราะเขาเชื่อว่า รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน รัฐประหารคือรัฐประหาร “แล้วถ้าคิดว่า รัฐประหารคือการสร้างประชาธิปไตย ผมคิดว่าต้องยุบคณะรัฐศาสตร์ผมทิ้ง เพราะรัฐประหารไม่สร้างประชาธิปไตย”
ก่อนจะไปตอบคำถามนั้นของสุรชาติ ด้านหนึ่งเราต้องรู้ว่า สุรชาตินอกจากเป็นนักวิชาการที่ไม่เอารัฐประหาร แต่อีกด้านสุรชาติเป็นนักวิชาการที่เชิดชูระบอบทักษิณและคนเสื้อแดงด้วย สุรชาติได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งทางการเมืองเมื่อรัฐบาลของทักษิณมีอำนาจและเคยเชิดชูการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
นี่เป็นข้อมูลไม่ได้บอกว่าสุรชาติมีความผิด
สุรชาติบอกว่า ขบวนการเสื้อแดงคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มันจริงเหรอ ขบวนการทั้งหมดของคนเสื้อแดงไม่ใช่แน่ถามมวลชนส่วนใหญ่ดูสิเขามาสู้เพื่อทักษิณต่างหาก เพียงแต่มีแนวร่วมเป็นพวกไม่เอารัฐประหาร และไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ต้องการใช้มวลชนของทักษิณเป็นเครื่องมือ
สุรชาติไม่รู้เลยหรือว่า แกนหลักของการชุมนุมนั้นถูกจัดตั้งขึ้นโดยนักการเมืองของทักษิณ แล้ว”ประชาธิปไตย” ถูกใช้เป็นเครื่องมือบังหน้า โดยสร้างนิยายทางชนชั้นขึ้นมาหลอกหลอนคนเสื้อแดงว่า ทักษิณซึ่งเป็นเทพเจ้าของชนชั้นล่างที่เอาประชาธิปไตยที่กินได้มาให้กำลังถูกอิจฉาจากอำมาตย์และพวกอำนาจเก่า เป้าหมายคือ การต่อสู้เพื่อเอาอำนาจของทักษิณกลับคืนมา
ผมจะไม่มองว่าสุรชาติชื่นชมระบอบทักษิณเพราะผลประโยชน์ที่ทักษิณหยิบยื่นให้ แต่มองว่า สุรชาติเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์ที่คิดชั้นเดียวว่า เพราะทักษิณมาจากการเลือกตั้ง ทักษิณจึงมีความชอบธรรม แต่ในฐานะอาจารย์รัฐศาสตร์สุรชาติมองว่า เมื่อชนะการเลือกตั้งแล้วจะใช้อำนาจอย่างไรก็ได้เช่นนั้นหรือ ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งกระทำในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ประชาชนไม่มีสิทธิลุกขึ้นมาขับไล่หรือ แล้วนี่มันประชาธิปไตยแบบไหนกัน
สุรชาติจำได้ไหมว่า ครั้งหนึ่งเคยพูดถึงกลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านทักษิณว่า “พวกเขาสร้างคำอธิบายผ่านวาทกรรมเรื่องทุนนิยมสามานย์ การคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ หรือเผด็จการรัฐสภา เป็นต้น”
พฤติกรรมเหล่านั้นของทักษิณเป็นเพียง “วาทกรรม” ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือ ระหว่างที่ทักษิณมีอำนาจและใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมนั้น สุรชาติไปมืดบอดอยู่ที่ไหนช่วยตอบด้วย
ถ้าคิดได้แค่นี้ผมเห็นด้วยนะครับว่า คณะรัฐศาสตร์มีปัญหา ที่มีอาจารย์อย่างสุรชาติ แต่ผมไม่แนะนำให้ยุบคณะรัฐศาสตร์อย่างที่อาจารย์สุรชาติเสนอหรอก เพราะถ้าโรงครัวนี้ทำอาหารไม่อร่อย ทางที่ถูกคือเปลี่ยนพ่อครัวครับไม่ใช่ยุบโรงครัวทิ้ง แล้วที่สำคัญสุรชาติคิดได้อย่างไรว่า ถ้าใครคิดไม่ตรงกับความคิดของตัวเองต้องยุบคณะรัฐศาสตร์ทิ้ง ลองกลับไปถามเพื่อนอาจารย์ในคณะรัฐศาสตร์ก่อนดีไหม
สุรชาติกล่าวว่า คนในเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางไม่ชอบพวกเสื้อแดง “กลุ่มคนเสื้อแดงมักจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามจากบรรดาคนในเมืองไม่ว่าพวกเขาจะเป็นชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงก็ตาม ในสายตาเช่นนี้พวกเสื้อแดงซึ่งเป็น ชนชั้นล่าง นั้นถูกหลอก”
ถามว่า ถ้าสุรชาติไม่นั่งอยู่บนหอคอย สุรชาติไม่รู้หรือว่าสังคมไม่มีการกีดกันหรือเกลียดกันทางชนชั้น แต่เป็นสังคมที่เอื้ออาทรและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สิ่งที่มีความเห็นต่างกันก็คือ “ทัศนะทางการเมือง” ซึ่งนั่นก็คือ “ประชาธิปไตย” ไม่ใช่หรือ ความแตกต่างทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดงเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตยครับ ไม่ใช่ “การต่อสู้ทางชนชั้น” แน่
การพยายามปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังทางชนชั้นเป็นวิถีทางของพวกที่เรียกตัวเองว่า"ฝ่ายประชาธิปไตย"หรือ
แม้แต่คนที่ไม่เป็นศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ก็รู้ว่า เรื่องชนชั้นนั้นเป็น “ลิเกทางการเมือง” ที่พวกลิ่วล้อทักษิณเอามาเพื่อสะกิดปมด้อยของชนชั้นล่างเพื่อให้เขาออกมาต่อสู้ด้วยการสร้างวาทกรรมไพร่อำมาตย์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเขามาตายแทนเท่านั้นเอง กองกำลังติดอาวุธมาจากไหน ชาวบ้านไม่รู้หรอก แต่แกนนำเสื้อแดงนั้นรู้แน่เพราะประกาศชัดเจนบนเวทีหลายครั้ง ซึ่งแสดงว่าแกนนำรู้แล้วว่า ต้องมีคนเอาชีวิตเข้าแลก แต่ไม่มีแกนนำคนไหนตายเลย มีแต่กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี
หรือศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จะเถียงว่า เรื่องไพร่อำมาตย์ที่หยิบยกขึ้นมาบนเวทีเสื้อแดงเพื่อหลอกชนชั้นล่างนั้นไม่ใช่ “วาทกรรม” หลอกมวลชน ตลกมากสุรชาติกลัวว่า การไม่เป็นประชาธิปไตยจะทำให้ชาติตะวันตกไม่คบ ต้องเปลี่ยนพันธมิตรการเมือง สุรชาติเป็นอาจารย์สอนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่เห็นเหรอว่า โอบามาเพิ่งไปนั่งกินเฝอที่เวียดนาม มีใครบ้างที่ไม่อยากคบจีน แล้วเขาเป็นประชาธิปไตยเหรอ สุรชาติไม่รู้เหรอว่ายุคนี้เขาคบกันที่ผลประโยชน์หรือประชาธิปไตย ผมยกตัวอย่างให้ดูอย่าไปแปลความว่าผมอยากให้เราเป็นจีนและเวียดนามอีกล่ะ
ส่วนที่สุรชาติบอกว่า การรัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตย แต่ถามสุรชาติว่า ในวันที่ประชาชนใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยออกมาขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมใช้เสียงข้างมากทำผิดให้เป็นถูก นิรโทษลักหลับสุดซอย เปลี่ยนแปลงร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมติวาระแรกมาแล้วเป็นอีกฉบับสุรชาติเห็นว่ามันถูกต้องไหม แล้วที่ประชาชนที่ออกมาชุมนุมถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนเอ็ม79 ถูกระเบิดถล่มนี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตยไหม
รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านของประชาธิปไตย แต่มันหยุดยั้งให้ฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตยเอาอาวุธสงครามมาเข่นฆ่าคนที่ออกมาชุมนุม หรือสุรชาติจะให้ประชาชนจับอาวุธมาต่อสู้กัน
รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน แต่มันเป็นเพียงเครื่องมือที่จะหยุดยั้งประชาธิปไตยจอมปลอมที่อ้างหีบเลือกตั้งเพื่อปล้นชาติปล้นแผ่นดินเท่านั้น แต่สุรชาติคงไม่เชื่อหรอก ตราบใดที่ยังคิดว่าเรื่อง ทุนนิยมสามานย์ การคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ หรือเผด็จการรัฐสภาของระบอบทักษิณนั้นเป็นเพียงวาทกรรม
แล้วอำนาจจากรัฐประหารมันจะอยู่กับเราตลอดกาลไหมไม่หรอก ไม่มีใครเขาทำอย่างนั้นหรอก วันหนึ่งก็ต้องคืนอำนาจกลับมาให้ประชาชน ไม่ว่าจะเรียกว่าการเปลี่ยนผ่านหรือไม่ก็ตาม
ข้อกล่าวหาว่าชนชั้นกลางไม่ยอมรับประชาธิปไตยเป็นเรื่องตลก ไม่มีใครไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ตอนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้ง ทุกคนก็ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของยิ่งลักษณ์ ซึ่งสะท้อนว่าทุกคนเข้าใจและมีจิตวิ ญาณในระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมนั่นต่างหากที่ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงในระบอบประชาธิปไตยออกมาขัดขวางขับไล่ แล้วมันจะเป็นการไม่เอาประชาธิปไตยไปได้อย่างไร
สุรชาติแยกไม่ได้เลยหรือว่า แท้ที่จริงชนชั้นกลางเขาไม่เอาระบอบประชาธิปไตยหรือไม่เอาวิธีการที่ฉ้อฉลของนักการเมือง
ผมเปรียบง่ายๆถ้าประชาธิปไตยคือการเดินทาง แล้วนักการเมืองคือพาหนะที่จะขับเคลื่อนไป แต่พาหนะนั่นมันห่วย ประชาชนเขาไม่ยอมรับพาหนะนั้น เขาต้องการเปลี่ยนพาหนะที่ดีกว่า มันแปลว่าเขาเกลียดการเดินทางหรือไม่ใช่เลยใช่ไหม
ประชาธิปไตยก็เหมือนกัน ชนชั้นกลางเขาไม่ได้เกลียดประชาธิปไตย แต่เขาต่อต้านนักการเมืองเลว เข้าใจไหมครับท่านศาสตราจารย์
โดย “สุรวิชช์ วีรวรรณ”
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อชั้นกลางสังคมไทยในที่ในงานประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2559เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งมีการอภิปราย เรื่อง เดินหน้าประชาธิปไตยว่า “วันนี้โจทย์ใหญ่ของเราคือทำไมชนชั้นกลางไม่เอาประชาธิปไตย”
คำถามที่ผมคิดตามมาก็คือ “ชนชั้นกลางไม่เอาประชาธิปไตยจริงหรือ”
สุรชาติ วิจารณ์คนที่คิดว่า ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านนั้นเขาไม่เห็นด้วย เพราะเขาเชื่อว่า รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน รัฐประหารคือรัฐประหาร “แล้วถ้าคิดว่า รัฐประหารคือการสร้างประชาธิปไตย ผมคิดว่าต้องยุบคณะรัฐศาสตร์ผมทิ้ง เพราะรัฐประหารไม่สร้างประชาธิปไตย”
ก่อนจะไปตอบคำถามนั้นของสุรชาติ ด้านหนึ่งเราต้องรู้ว่า สุรชาตินอกจากเป็นนักวิชาการที่ไม่เอารัฐประหาร แต่อีกด้านสุรชาติเป็นนักวิชาการที่เชิดชูระบอบทักษิณและคนเสื้อแดงด้วย สุรชาติได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งทางการเมืองเมื่อรัฐบาลของทักษิณมีอำนาจและเคยเชิดชูการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
นี่เป็นข้อมูลไม่ได้บอกว่าสุรชาติมีความผิด
สุรชาติบอกว่า ขบวนการเสื้อแดงคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มันจริงเหรอ ขบวนการทั้งหมดของคนเสื้อแดงไม่ใช่แน่ถามมวลชนส่วนใหญ่ดูสิเขามาสู้เพื่อทักษิณต่างหาก เพียงแต่มีแนวร่วมเป็นพวกไม่เอารัฐประหาร และไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ต้องการใช้มวลชนของทักษิณเป็นเครื่องมือ
สุรชาติไม่รู้เลยหรือว่า แกนหลักของการชุมนุมนั้นถูกจัดตั้งขึ้นโดยนักการเมืองของทักษิณ แล้ว”ประชาธิปไตย” ถูกใช้เป็นเครื่องมือบังหน้า โดยสร้างนิยายทางชนชั้นขึ้นมาหลอกหลอนคนเสื้อแดงว่า ทักษิณซึ่งเป็นเทพเจ้าของชนชั้นล่างที่เอาประชาธิปไตยที่กินได้มาให้กำลังถูกอิจฉาจากอำมาตย์และพวกอำนาจเก่า เป้าหมายคือ การต่อสู้เพื่อเอาอำนาจของทักษิณกลับคืนมา
ผมจะไม่มองว่าสุรชาติชื่นชมระบอบทักษิณเพราะผลประโยชน์ที่ทักษิณหยิบยื่นให้ แต่มองว่า สุรชาติเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์ที่คิดชั้นเดียวว่า เพราะทักษิณมาจากการเลือกตั้ง ทักษิณจึงมีความชอบธรรม แต่ในฐานะอาจารย์รัฐศาสตร์สุรชาติมองว่า เมื่อชนะการเลือกตั้งแล้วจะใช้อำนาจอย่างไรก็ได้เช่นนั้นหรือ ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งกระทำในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ประชาชนไม่มีสิทธิลุกขึ้นมาขับไล่หรือ แล้วนี่มันประชาธิปไตยแบบไหนกัน
สุรชาติจำได้ไหมว่า ครั้งหนึ่งเคยพูดถึงกลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านทักษิณว่า “พวกเขาสร้างคำอธิบายผ่านวาทกรรมเรื่องทุนนิยมสามานย์ การคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ หรือเผด็จการรัฐสภา เป็นต้น”
พฤติกรรมเหล่านั้นของทักษิณเป็นเพียง “วาทกรรม” ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือ ระหว่างที่ทักษิณมีอำนาจและใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมนั้น สุรชาติไปมืดบอดอยู่ที่ไหนช่วยตอบด้วย
ถ้าคิดได้แค่นี้ผมเห็นด้วยนะครับว่า คณะรัฐศาสตร์มีปัญหา ที่มีอาจารย์อย่างสุรชาติ แต่ผมไม่แนะนำให้ยุบคณะรัฐศาสตร์อย่างที่อาจารย์สุรชาติเสนอหรอก เพราะถ้าโรงครัวนี้ทำอาหารไม่อร่อย ทางที่ถูกคือเปลี่ยนพ่อครัวครับไม่ใช่ยุบโรงครัวทิ้ง แล้วที่สำคัญสุรชาติคิดได้อย่างไรว่า ถ้าใครคิดไม่ตรงกับความคิดของตัวเองต้องยุบคณะรัฐศาสตร์ทิ้ง ลองกลับไปถามเพื่อนอาจารย์ในคณะรัฐศาสตร์ก่อนดีไหม
สุรชาติกล่าวว่า คนในเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางไม่ชอบพวกเสื้อแดง “กลุ่มคนเสื้อแดงมักจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามจากบรรดาคนในเมืองไม่ว่าพวกเขาจะเป็นชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงก็ตาม ในสายตาเช่นนี้พวกเสื้อแดงซึ่งเป็น ชนชั้นล่าง นั้นถูกหลอก”
ถามว่า ถ้าสุรชาติไม่นั่งอยู่บนหอคอย สุรชาติไม่รู้หรือว่าสังคมไม่มีการกีดกันหรือเกลียดกันทางชนชั้น แต่เป็นสังคมที่เอื้ออาทรและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สิ่งที่มีความเห็นต่างกันก็คือ “ทัศนะทางการเมือง” ซึ่งนั่นก็คือ “ประชาธิปไตย” ไม่ใช่หรือ ความแตกต่างทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดงเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตยครับ ไม่ใช่ “การต่อสู้ทางชนชั้น” แน่
การพยายามปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังทางชนชั้นเป็นวิถีทางของพวกที่เรียกตัวเองว่า"ฝ่ายประชาธิปไตย"หรือ
แม้แต่คนที่ไม่เป็นศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ก็รู้ว่า เรื่องชนชั้นนั้นเป็น “ลิเกทางการเมือง” ที่พวกลิ่วล้อทักษิณเอามาเพื่อสะกิดปมด้อยของชนชั้นล่างเพื่อให้เขาออกมาต่อสู้ด้วยการสร้างวาทกรรมไพร่อำมาตย์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเขามาตายแทนเท่านั้นเอง กองกำลังติดอาวุธมาจากไหน ชาวบ้านไม่รู้หรอก แต่แกนนำเสื้อแดงนั้นรู้แน่เพราะประกาศชัดเจนบนเวทีหลายครั้ง ซึ่งแสดงว่าแกนนำรู้แล้วว่า ต้องมีคนเอาชีวิตเข้าแลก แต่ไม่มีแกนนำคนไหนตายเลย มีแต่กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี
หรือศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จะเถียงว่า เรื่องไพร่อำมาตย์ที่หยิบยกขึ้นมาบนเวทีเสื้อแดงเพื่อหลอกชนชั้นล่างนั้นไม่ใช่ “วาทกรรม” หลอกมวลชน ตลกมากสุรชาติกลัวว่า การไม่เป็นประชาธิปไตยจะทำให้ชาติตะวันตกไม่คบ ต้องเปลี่ยนพันธมิตรการเมือง สุรชาติเป็นอาจารย์สอนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่เห็นเหรอว่า โอบามาเพิ่งไปนั่งกินเฝอที่เวียดนาม มีใครบ้างที่ไม่อยากคบจีน แล้วเขาเป็นประชาธิปไตยเหรอ สุรชาติไม่รู้เหรอว่ายุคนี้เขาคบกันที่ผลประโยชน์หรือประชาธิปไตย ผมยกตัวอย่างให้ดูอย่าไปแปลความว่าผมอยากให้เราเป็นจีนและเวียดนามอีกล่ะ
ส่วนที่สุรชาติบอกว่า การรัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตย แต่ถามสุรชาติว่า ในวันที่ประชาชนใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยออกมาขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมใช้เสียงข้างมากทำผิดให้เป็นถูก นิรโทษลักหลับสุดซอย เปลี่ยนแปลงร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมติวาระแรกมาแล้วเป็นอีกฉบับสุรชาติเห็นว่ามันถูกต้องไหม แล้วที่ประชาชนที่ออกมาชุมนุมถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนเอ็ม79 ถูกระเบิดถล่มนี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตยไหม
รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านของประชาธิปไตย แต่มันหยุดยั้งให้ฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตยเอาอาวุธสงครามมาเข่นฆ่าคนที่ออกมาชุมนุม หรือสุรชาติจะให้ประชาชนจับอาวุธมาต่อสู้กัน
รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน แต่มันเป็นเพียงเครื่องมือที่จะหยุดยั้งประชาธิปไตยจอมปลอมที่อ้างหีบเลือกตั้งเพื่อปล้นชาติปล้นแผ่นดินเท่านั้น แต่สุรชาติคงไม่เชื่อหรอก ตราบใดที่ยังคิดว่าเรื่อง ทุนนิยมสามานย์ การคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ การแทรกแซงองค์กรอิสระ หรือเผด็จการรัฐสภาของระบอบทักษิณนั้นเป็นเพียงวาทกรรม
แล้วอำนาจจากรัฐประหารมันจะอยู่กับเราตลอดกาลไหมไม่หรอก ไม่มีใครเขาทำอย่างนั้นหรอก วันหนึ่งก็ต้องคืนอำนาจกลับมาให้ประชาชน ไม่ว่าจะเรียกว่าการเปลี่ยนผ่านหรือไม่ก็ตาม
ข้อกล่าวหาว่าชนชั้นกลางไม่ยอมรับประชาธิปไตยเป็นเรื่องตลก ไม่มีใครไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ตอนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้ง ทุกคนก็ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของยิ่งลักษณ์ ซึ่งสะท้อนว่าทุกคนเข้าใจและมีจิตวิ ญาณในระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมนั่นต่างหากที่ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงในระบอบประชาธิปไตยออกมาขัดขวางขับไล่ แล้วมันจะเป็นการไม่เอาประชาธิปไตยไปได้อย่างไร
สุรชาติแยกไม่ได้เลยหรือว่า แท้ที่จริงชนชั้นกลางเขาไม่เอาระบอบประชาธิปไตยหรือไม่เอาวิธีการที่ฉ้อฉลของนักการเมือง
ผมเปรียบง่ายๆถ้าประชาธิปไตยคือการเดินทาง แล้วนักการเมืองคือพาหนะที่จะขับเคลื่อนไป แต่พาหนะนั่นมันห่วย ประชาชนเขาไม่ยอมรับพาหนะนั้น เขาต้องการเปลี่ยนพาหนะที่ดีกว่า มันแปลว่าเขาเกลียดการเดินทางหรือไม่ใช่เลยใช่ไหม
ประชาธิปไตยก็เหมือนกัน ชนชั้นกลางเขาไม่ได้เกลียดประชาธิปไตย แต่เขาต่อต้านนักการเมืองเลว เข้าใจไหมครับท่านศาสตราจารย์