“หนึ่งความคิด”
โดย “สุรวิชช์ วีรวรรณ”
ความแตกแยกของคนไทยว่าไปแล้วคงยากที่จะหวนกลับมาสู่สังคมที่สงบร่มเย็นเหมือนดังเก่า อย่างน้อยก็คงตลอดทศวรรษนี้เป็นต้นไป เพียงแต่ยังโชคดีที่เราพบหน้ากันแล้วไม่ฆ่ากันแบบที่เคยเกิดขึ้นในรวันดา แต่ก็ไม่แน่หรอกตราบพวกที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินยังคงปลุกปั่น ความเกลียดชังในใจผู้คนให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตลอดหลายปีมานี้ พวกฝ่ายซ้ายที่เคยฝักใฝ่คอมมิวนิสต์หันไปสวามิภักดิ์ต่อระบอบทักษิณ พวกเขาใช้มวลชนของทักษิณเพื่อเป็นกองกำลังในการขับเคลื่อนความเกลียดชังในชาติ เขาบอกว่า ทักษิณถูกขับไล่ออกนอกประเทศและถูกทำลายล้างเพราะทักษิณช่วยให้คนยากจนกินดีอยู่ดีขึ้น เพื่อปลุกความเกลียดชังทาง “ชนชั้น” ขึ้นมา ความน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาและชะตากรรมของ คนยากจนที่สุมอยู่ในใจอยู่แล้วกลายเป็นเชื้อไฟที่จุดติด
จนกระทั่งคนกลุ่มหนึ่งถูกผลักดันให้ตายแทนในโศกนาฏกรรมเมื่อเดือนเมษายน2553
ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่คนไทยใช้ศพของคนไทยเป็นเครื่องมือ หากเราย้อนไปเมื่อ 40 ปีก่อนในเดือนตุลาคม 2519 คนหนุ่มสาวก็ถูกหลอกใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบและค่านิยมสังคมแบบเก่ามาแล้ว วันนั้นมีคนมุ่งหมายเปลี่ยนประเทศเป็นคอมมิวนิสต์ บีบคั้นให้ระบอบเก่าต้องลุกขึ้นสู้จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมกลางเมือง เยาวชนหนุ่มสาวต้องมาพลัดพรากจากไปอย่างนิรันดร์ วันนี้คนที่รอดชีวิตบางคนกลับมาชูธงว่าเราจะต้องพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ซึ่ง ไม่รู้ว่าจะต้องสังเวยด้วยชะตากรรมของใครอีก
ความคิด อุดมการณ์ จุดยืนทางการเมืองของคนเราไม่ใช่เรื่องที่ผิด ในโลกนี้มีระบอบการปกครองที่หลากหลาย แต่เราจะบังคับให้คนที่เขามีความคิดและอุดมการณ์ต่างกับเรามีความเชื่อแบบเรา แล้วคิดว่า อุดมการณ์และความคิดแบบเราต่างหากที่ถูก แม้ว่าอุดมการณ์และความคิดนั้นจะดีงามอย่างไร มันก็ไม่มีวันจะเจริญงอกงามในสังคมได้หรอก เพราะคงไม่มีศรัทธาใดที่เกิดจากการบังคับ ขู่เข็ญ และยอมจำนน
การเกิดของนักการเมืองแบบทักษิณนั้น มันปลุกเร้าให้คนกลุ่มหนึ่งมีความฝันลุกโชนอีกครั้ง พวกเขาเห็นช่องทางว่า สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยได้ก็คือการสร้างพระเจ้าองค์ใหม่ขึ้นมานั่นเอง พวกเขาเปลี่ยนมวลชนที่ศรัทธาทักษิณแบบการเมืองในระบบอุปถัมภ์ดั้งเดิมของสังคมไทย ให้กลายเป็นผู้มาโปรดที่จะฉุดรั้งประชาชนขึ้นมาจากความยากจน
เมื่อทักษิณถูกจับได้ว่าแสวงหาประโยชน์อำนาจ ด้านหนึ่งพวกเขาปลุกปั่นมวลชนว่าทักษิณถูกกลั่นแกล้งเพราะอำมาตย์อิจฉาทักษิณที่ทักษิณทำให้คนยากจนกินดีอยู่ดีขึ้น ด้านหนึ่งก็ปลูกฝังค่านิยมว่า แม้ทักษิณจะทุจริตแต่ก็ยังแบ่งปันให้กับสังคม ทักษิณเป็น “คนโกงที่มีผลงาน” ซึ่งดีกว่า “คนดีที่บริหารประเทศไม่เป็น”
นักวิชาการที่ฝักใฝ่ระบอบทักษิณเพราะชิงชังสังคมแบบเก่าถึงกับสมาทานความเชื่อนี้กระทั่งปลูกฝังลูกของตัวเองว่า อย่าเป็นคนดี เพราะคนดีเป็นคนที่เอาเปรียบผู้อื่น
ในทัศนะของพวกเขาทักษิณมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทักษิณจะเป็นคนโกงเขาก็มีความชอบธรรมนั่นเอง
หลายปีมานี้พวกที่ต่อสู้เพื่อทักษิณ จึงสร้างวาทกรรมใหม่เพื่อปลุกปั่นผู้คนว่า เป็นพวกต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทำให้เชื่อว่าทักษิณถูกมวลชนส่วนหนึ่งขับไล่ไม่ใช่เพราะทักษิณโกง แต่เพราะคนเหล่านั้นเป็นพวกต่อต้านประชาธิปไตย
ทั้งที่ผมก็เชื่อแบบ สมศักดิ์ เจียม เชื่อแหละว่า ทักษิณไม่ได้มีวิสัยทัศน์ทางการเมืองแบบประชาธิปไตยอะไร วิสัยทัศน์ทางการเมืองของทักษิณ (ยิ่งโดยเปรียบเทียบกับเรื่องวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจ-สมศักดิ์บอกว่า ทักษิณมีวิสัยทัศน์ในบริบทของเศรษฐกิจโลกมากกว่าคนอื่นๆ-ผู้เขียน) ต้องนับว่าเป็น “ศูนย์” เลย ทักษิณไม่มีความเข้าใจหรือไม่มีไอเดียว่า ถ้าจะ “สร้างระบอบประชาธิปไตย” ต้องทำอย่างไรบ้าง หรือ “ระบอบประชาธิปไตย” จะต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง (นอกเหนือจากไอเดียประเภทที่เรียกว่า populism คือ เรื่องเลือกมาจากเสียงส่วนใหญ่ - จบ)
ดังนั้นเป้าหมายของคนที่ล้อมรอบทักษิณในการเชิดชูทักษิณเป็นสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตย ก็คือ การหยิบฉวยมวลชนที่หลงเชื่อในนโยบายของทักษิณและเงินของทักษิณนั่นแหละ เพราะหลายคนลืมตาอ้าปากได้เพราะมารับใช้สวามิภักดิ์ต่อทักษิณนั่นเอง
พวกที่แห่แหนทักษิณเชื่อว่า เขาสามารถควบคุมทักษิณได้ด้วยเสียงประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง สุรชัย แซ่ด่าน ถึงกับเคยพูดว่า ใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดระบอบเก่าก่อนและค่อยจัดการทักษิณทีหลัง ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อของพวกเขาก็ได้ เพราะคนอย่างสุรชัยก็มีคนบ้าๆ บอๆไม่กี่คนเท่านั้นที่เดินตาม แต่ไม่ใช่ว่าเราควรจะประมาทคนพวกนี้ เพราะพวกนี้ทำได้แม้กระทั่งให้คนอื่นมาตายแทนเพื่อเป้าหมายและอุดมการณ์ของตัวเอง
เหมือนคนเสื้อแดงที่ตายไปและถูกจ่ายราคาค่าชีวิตด้วยเงินของแผ่นดิน ในขณะที่แกนนำเปลี่ยนฐานะมาเป็นคนอีกระดับชั้นหนึ่งในสังคม
นักวิชาการส่วนหนึ่งที่ชิงชังสถาบันกลายเป็นแนวร่วมของทักษิณ ก็เพราะต้องการมวลชนของทักษิณเช่นกัน ถามว่า พวกนี้รู้ไหมว่าทักษิณเป็นคนอย่างไร พวกเขารู้ดีจึงไม่ชอบเมื่อใครบอกว่าตัวเองเป็นพวกทักษิณ พวกเขาจะตอบโต้ทันทีว่าเป็นการป้ายสี เที่ยวประกาศตัวว่า พวกเขาข้ามก้าวทักษิณไปแล้ว ขณะที่พฤติกรรมของพวกเขาล้วนตอบสนองต่อเป้าหมายของทักษิณตลอดเวลา ไม่ว่าพรรคของทักษิณทำอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ไม่เคยออกมาโต้แย้งเลย
ถามว่าทักษิณรู้เป้าหมายของคนที่แวดล้อมทักษิณไหมว่า ต้องการใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือ ผมว่าทักษิณรู้นะ แต่ทักษิณก็คิดว่าตัวเองก็ฉลาดพอที่จะใช้พวกนี้เป็นเครื่องมือเหมือนกัน และถ้าพวกเขาเดินทางไปถึงฉากสุดท้ายของเป้าหมายอุดมการณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ได้ นั่นต่างหากที่จะพิสูจน์ว่าใครหลอกใช้ใคร
วันนี้ทักษิณยังเร่ร่อนเป็นสัมภเวสี แต่ถ้าเราฟังทักษิณพูดก็จับใจความได้ว่าเขาพร้อมที่จะต่อสู้และหาทางถอยด้วยข้อเสนอต่างๆ นานา
เราคงได้ยินเสียงในคลิปถังเช่าที่มีเสียงคล้ายใครคนหนึ่งว่า บอกอย่างงี้สิ วิธีอยากดองผมง่ายนิดเดียว ตั้งผมไปเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่เป็นองคมนตรี ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าถ้าถูกหนีบเอาไว้ตรงนั้นน่ะ ให้ Active ทางการเมืองยาก ถ้าถูกหนีบไว้ตรงนั้นน่ะ เออ...จะใช้ผม ไม่ใช้ผมไม่เป็นไร แต่หนีบไว้ตรงนั้น ให้ทางการเมืองดิ้นยาก ทำให้ต้องไม่กล้าไปไหน ท่านจะปรึกษาก็ได้ ไม่ปรึกษาก็ได้ แต่ว่าถ้าที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหมือนน้องๆ สายวังเลยนะ มันก็เหมือนทำตัวเป็นคนของเจ้านาย ทำตัวเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันต้องหนีบเลย ล็อกเลย ผมไม่ขอเป็นองคมนตรีอยู่แล้ว เพราะว่าเราชอบเบี้ยว (หัวเราะ)
ล่าสุดทักษิณบอกว่า “ผมนั่งสมาธิ แล้วก็อธิษฐาน ปวารณา ถ้าผมมีกรรมอะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อไหร่ มีโอกาสกลับไปประเทศไทย ผมปวารณาว่า ผมจะจรรโลงพระพุทธศาสนา”
แต่ทันทีที่ได้ยินทักษิณพูดภาพของธรรมกายของผุดขึ้นในใจ
ขณะที่คนที่แวดล้อมทักษิณก็ยังปลุกปั่นให้เกลียดชังกันในสังคมไม่ว่าเรื่อง “ความเป็นคนที่ไม่เท่ากัน” หรือความชั่วร้ายของ “คนดี” คนที่เรียกตัวเองว่าคนเสื้อแดงยังคงเคลื่อนไหวคึกคักในต่างประเทศผ่านทางโซเชียลมีเดียเพื่อเป้าหมายพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
คนพวกนี้ไม่สนใจหรอกว่า ต้องใช้ชีวิตของคนกี่คนเพื่อรับใช้อุดมการณ์อันไร้สติของตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเรื่องที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยง ถ้าคนทั้งสังคมต้องการนำพาประเทศชาติไปสู่ทิศทางไหน มันก็คงจะต้องเป็นความเป็นไปที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงโดยที่สังคมไม่เห็นพ้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ สงครามกลางเมืองและโศกนาฏกรรมจะตามมา