“หนึ่งความคิด”
โดย “สุรวิชช์ วีรวรรณ”
นับเนื่องมาจนถึงวันนี้เป็น1 ทศวรรษ จากวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะทหารนำโดย พล.อ.สนธิ บุณยรัตตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ
ก่อนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งชุมนุมเปิดโปงระบอบทักษิณมาอย่างต่อเนื่องนัดชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลทักษิณในวันที่ 20 กันยายนเพียง 1 วัน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลทักษิณได้มีการเกณฑ์ประชาชนในภาคเหนือและอีสานหลายหมื่นคนเพื่อจุดหมายให้ เผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการก่อเกิดของมวลชนเสื้อแดงในเวลาต่อมา
เหตุผลที่พันธมิตรฯ และประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่ทักษิณก็เพราะรัฐบาลทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อนทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งพิสูจน์ต่อมาด้วยคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองทั้งการตัดสินให้จำคุกและยึดทรัพย์ในเวลาต่อมา ดังนั้นการออกมาชุมนุมขับไล่ของพันธมิตรฯจึงมีความชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย
แต่ฝ่ายทักษิณปลุกปั่นประชาชนว่า การขับไล่ทักษิณเพราะมีอำมาตย์หนุนหลัง เพราะอำมาตย์อิจฉาทักษิณที่ทำให้คนจนอยู่ดีกินดีขึ้นซึ่งปลุกปั่นให้คนในชนบทหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และกล่าวหาว่า ฝ่ายพันธมิตรฯเป็นฝ่ายที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตย ทัศนะของปัญญาชนฝ่ายทักษิณเห็นว่า ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นถึงเวลาเลือกตั้งใหม่ก็ไม่ต้องเลือกไม่ใช่ออกมาชุมนุมขับไล่ ซึ่งเป็นความเห็นทำนองว่า ทุจริตไม่เป็นไรถ้ามาจากการเลือกตั้ง
แต่การรัฐประหารก็ประสบความล้มเหลว เพราะคณะรัฐประหารและรัฐบาลขิงแก่ที่ได้รับการแต่งตั้งหลังจากนั้น ไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาอะไรเลย แถมยังเร่งให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว และพล.อ.สนธิก็หันไปตั้งพรรคการเมือง พร้อมกับจุดยืนที่เปลี่ยนไป
เกิดคำถามว่า ถ้าวันนั้น พล.อ.สนธิไม่เข้ามายึดอำนาจโดยอ้างเหตุว่าประชาชนสองฝ่ายจะปะทะกัน ทักษิณก็อาจจะถูกประชาชนขับไล่ไปแล้วไม่ต้องยืดเยื่อมาจนถึงวันนี้ แต่การรัฐประหารครั้งนั้นก็ทำให้ทักษิณเอาไปอ้างในเวทีสากลจนถึงวันนี้ว่า เขาถูกทหารไล่ลงจากอำนาจ
เมื่อรัฐบาลสมัครซึ่งเป็นนอมินีของทักษิณชนะการเลือกตั้งแล้วเข้ามามีอำนาจ พันธมิตรฯก็ยุติบทบาทจนกระทั่งรัฐบาลสมัครใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมมีการเล่นพรรคเล่นพวกและกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามคนดีๆถูกรังแก ทำให้พันธมิตรฯต้องออกมาชุมนุมอีกครั้ง จนกระทั่งสมัครถูกถอดถอนจากตำแหน่งเพราะรับผลประโยชน์จากการเป็นลูกจ้างบริษัทในการเป็นพิธีกรทีวีในรายการทำอาหาร ทักษิณก็ตัดสินใจเอานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พันธมิตรฯก็ยังชุมนุมยึดเยื้อขับไล่เพราะฝ่ายทักษิณแค่เปลี่ยนตัวผู้นำนอมินีเท่านั้นเอง
จนนำมาสู่เหตุการณ์ใช้ความรุนแรงในวันที่7ตุลา 2551 มีคนตายและบาดเจ็บจำนวนมากซึ่งขณะนี้คดีกำลังอยู่ในการพิจารณาของศาล และในระหว่างการชุมนุมพันธมิตรฯก็ถูกยิงถล่มด้วยเอ็ม 79 และขว้างระเบิดหลายครั้งจนมีคนตายหลายคน จนต้องหนีตายไปชุมนุมที่หน้าสนามบิน ในที่สุดศาลก็มีมติให้ยุบพรรคของทักษิณทำให้นายสมชายพ้นจากตำแหน่ง ต่อมา ส.ส.ที่เหลืออยู่ในสภาก็หันไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคของทักษิณหันไปสนับสนุนพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แต่แพ้โหวต
หลังแพ้โหวตพวกของทักษิณได้ปลุกระดมมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์มีการชุมนุมยึดเยื้อเรียกร้องให้ยุบสภาโดยกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม มีการใช้อาวุธสงครามไปยิงถล่มและวางระเบิดตามสถานที่ต่างๆระหว่างชุมนุม รวมถึงการใช้กองกำลังติดอาวุธมายิงถล่มทหารที่เข้ามาสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่สี่แยกคอกวัว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมารัฐบาลยอมเจรจาพร้อมข้อตกลงยุบสภา
การเจรจาทำท่าจะยุติลงด้วยด้วยดี แต่สุดท้ายแกนนำเสื้อแดงเปลี่ยนใจ มีการแฉกันเองต่อมาว่า แกนนำบางคนบอกว่าต้องการชัยชนะที่มากกว่าการยุบสภา ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใช้กำลังสลายการชุมนุม แต่บทเรียนเมื่อวันที่ 10 เมษายน ก็ทำให้ทหารต้องใช้กำลังติดอาวุธเข้ามาสลายจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนนำมาสู่การเผาบ้านเผาเมืองทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตามที่แกนนำเสื้อแดงได้ประกาศไว้ว่า ถ้ามีการสลายการชุมนุมให้ไปรวบรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดแล้วเผา โดยแกนนำประกาศว่าเผาไปเลยจะรับผิดชอบเอง แต่คนที่ติดคุกตอนนี้คือพี่น้องเสื้อแดงที่หลงเชื่อนั่นเอง
อย่างไรก็ตามความเข้าใจของคนชั้นล่างที่ถูกแกนนำเสื้อแดงปลุกปั่นว่า เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นก็ถูกจุดติด ทักษิณที่เข้ามาช่วยคนยากจนถูกอำมาตย์กลั่นแกล้ง การเลือกตั้งในเวลาต่อมาพรรคของทักษิณก็ชนะอีกหน ไม่มีใครออกมาชุมนุมเลยแม้จะไม่ยอมรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เพราะทุกคนยอมรับผลของการเลือกตั้งตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยนั่นเอง แต่สุดท้ายประชาชนก็ต้องออกมาชุมนุม เพราะพรรคของทักษิณใช้เสียงข้างมากเพื่อนิรโทษกรรมแบบสุดซอย มีการใช้เสียงข้างมากแก้ไขร่างกฎหมายนิรโทษกรรมร่างแรกที่นิรโทษเฉพาะคนธรรมดากลายเป็นนิรโทษให้ทักษิณด้วย อย่างขัดต่อกฎหมายโดยใช้เสียงข้างมากลากไป และปิดกั้นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านทุกวิถีทาง
จนกระทั่งประชาชนสุดทนต้องออกมาชุมนุมจนกลายเป็นกระแสคลื่นมหาชนแล้วนำมาสู่การก่อเกิดของ กปปส. แม้ต่อมารัฐบาลยอมยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่สามารถบริหารประเทศได้แล้ว เนื่องจากเหลือรัฐมนตรีในรัฐบาลไม่กี่คน ประเทศเดินมาถึงทางตัน แต่ กปปส.ก็ไม่ยุติการชุมนุมแต่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปเสียก่อน จนขัดขวางการเลือกตั้งในที่สุด แต่ระหว่างชุมนุม กปปส.ก็ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 79 และปาระเบิดหลายครั้งจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนทหารใช้เป็นเหตุในการยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วในเวลาต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.หัวหน้าคณะรัฐประหารก็เป็นนายกฯเสียเองอยู่ในตำแหน่งจนถึงวันนี้กว่า 2 ปีแล้ว
นี่เป็น10 ปีโดยย่อ ส่วนใครผิดใครถูกแบบที่คนเสื้อแดงพยายามจะจัดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วเอาคนที่มาความคิดไปในทางเดียวกันมาพูด เพื่อให้เห็นว่าฝ่ายที่เคยอยู่ตรงข้ามกับเสื้อแดงนั้นเป็นฝ่ายผิด โดยมีอี้แทนคุณ หลงไปเป็นเหยื่อนั้นเขาไม่น่าจะเรียกว่าเวทีประชาธิปไตย แต่เป็นเวทีมัวเมาประชาธิปไตยมากกว่า
ผมได้ยินเสื้อแดงชอบถามว่า กปปส.ได้ยุบสภาแล้วทำไมยังไม่ยุติการชุมนุม จนลืมไปว่า อภิสิทธิ์ก็ยอมยุบสภาแล้วแต่เสื้อแดงก็ไม่หยุดชุมนุมจนนำมาสู่การเสียชีวิตของมวลชนจำนวนมาก
แต่ต้องยอมรับว่า 10 ปีมานี้ทักษิณและแนวร่วมของทักษิณพลิกสถานการณ์จากเป็นคู่ความขัดแย้งกับประชาชนที่ไม่พอใจในการบริหารงานของทักษิณ มาให้เป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนที่สนับสนุนตัวเองกับฝ่ายที่สนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ ฝ่ายทักษิณสร้างวาทกรรมทำให้คนส่วนหนึ่งเชื่อว่า ที่ทักษิณถูกทำลายเพราะฝ่ายตรงข้ามต้องการทำลายประชาธิปไตย กระบวนการสอบสวนเอาผิดกระบวนการยุติธรรมที่กระทำต่อทักษิณและพวกล้วนแล้วแต่ถูกบงการจากอำมาตย์
จนทำให้คนส่วนหนึ่งที่ภักดีต่อทักษิณหลงเชื่อว่า การกระทำต่อทักษิณก็คือการทำร้ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ลงคะแนนเลือกทักษิณ ซึ่งฟังแล้วงงว่ามันเกี่ยวพันกันอย่างไร แต่ทำให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อจริงแล้วปักใจว่าพวกตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำมาเป็นเวลา 10 ปี
ฝ่ายสนับสนุนทักษิณและแนวร่วมจึงฉวยโอกาสนี้ปลุกเร้าให้คนชิงชังต่อสถาบันมากขึ้น แม้ไม่พูดตรงๆแต่อ้อมค้อมไปว่า อำมาตย์โดยเอาความเชื่อปรัมปราเกี่ยวกับจักรๆวงศ์ในละครช่อง7มาหลอกหลอนคนว่านี่เป็นเรื่องของความแตกต่างทางชนชั้น เอาความน้อยเนื้อต่ำใจจนรวยไม่เท่ากันของคนมาเป็นเชื้อไฟ
คนที่ต้องการล้มสถาบันก็สบโอกาสในการใช้มวลชนของทักษิณขับเคลื่อนเป้าหมาย ในขณะที่ทักษิณก็ใช้คนพวกนี้ในการรักษามวลชนเกื้อกูลและหนุนเนื่องกัน
ต้องยอมรับว่า 10 ปีมานี้ระดับนำในเสื้อแดงและแนวร่วมของทักษิณประสบความสำเร็จในการมอมเมาให้เกิดความชิงชังในหมู่มวลชนของเขาจนเชื่อว่า ที่ผ่านมาพวกเขาถูกย่ำยีสารพัดจนฝังใจเจ็บหยั่งรากลึกในหมู่คนเสื้อแดง
แม้วันนี้กองทัพจะเข้ามารักษาความมั่นคงและเสถียรภาพของประเทศ แต่ยากครับที่จะยับยั้งความเปลี่ยนแปลงแตกหักที่รออยู่ข้างหน้า
