xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นผบ.ตร.แย้งคดีโอนหุ้น หลังอัยการไม่ฟ้อง"บรรยิน-พวก"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้สั่งไม่ฟ้อง "บรรยิน" กับพวก คดีปลอมเอกสารโอนหุ้น "เสี่ยชูวงษ์" 300 ล้าน เผยสำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด หากมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ก็จะส่งให้ ผบ.ตร. พิจารณา ถ้าเห็นแย้ง ต้องให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ผบช.ก.รับผลสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้น อาจกระทบถึงคดีฆาตกรรม เหตุมีความเชื่อมโยงกัน ยันสุดท้าย หากญาติติดใจ สงสัย สามารถยื่นฟ้องได้เอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 ส.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายเสกสรร เสนาชู ทนายความของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้สาว ผู้ต้องหาที่ 2 ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 1 ในคดีร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง มูลค่า 300 ล้านบาท เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เพื่อขอทราบคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องของอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ที่รับผิดชอบสำนวนในคดีดังกล่าว โดย ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือแทน

นายเสกสรร กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปยื่นคำร้องที่สำนักงานอัยการกรุงเทพใต้เพื่อขอทราบคำสั่ง แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการว่าได้ส่งสำนวนมาที่อัยการสูงสุดตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาอัยการเจ้าของสำนวนยังไม่เคยแจ้งให้ผู้ต้องหาไปรับทราบคำสั่งคดี จึงมาขอทราบรายละเอียดคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้อัยการสูงสุดส่งสำนวนคดีไปถึง ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ต่อไป เพราะที่ผ่านมา ทางครอบครัวของนายชูวงษ์ ผู้เสียหาย ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมทั้งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ และอัยการสูงสุด ทั้งนี้ ยืนยันว่าลูกความตนได้รับโอนมาโดยสุจริต ไม่มีนิติกรรมอำพราง

ด้าน ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าอัยการสูงสุดได้เรียกสำนวนคดีดังกล่าวมาตรวจสอบ แต่ไม่ทราบว่าสำนวนมาถึงหรือยัง โดยอัยการสูงสุดได้มอบให้รองอัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนของอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ หากพิจารณาแล้วมีความเห็นตามนั้น ก็ต้องส่งสำนวนไปให้ ผบ.ตร. พิจารณาทำความเห็นมาตามขั้นตอนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ถ้า ผบ.ตร. เห็นแย้งให้ฟ้องคดี ก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด หรือถ้ารองอัยการสูงสุดมีความเห็นให้ฟ้อง ก็จะนำตัวผู้ต้องหายื่นฟ้องศาล คดีนี้จึงยังไม่จบขั้นตอน อยู่ระหว่างการกลั่นกรอง ในกระบวนการเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน

นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่รองอธิบดีอัยการมีความเห็นแย้งให้ฟ้อง และเมื่อสำนวนส่งมาถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้ว ก็สั่งไม่ฟ้อง ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายก็ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด จึงต้องรอให้รองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวพิจารณาและมีความเห็นก่อน

“ยืนยันว่าอัยการมีอิสระในการใช้ดุลพินิจ ซึ่งรองอธิบดี และอธิบดีอัยการ ยังมีความเห็นต่างกันอยู่” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าว

วันเดียวกันนี้ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง และนางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ ภรรยาและพี่สาวของนายชูวงษ์ พร้อมด้วยนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด แต่เป็นคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภรรยาและพี่สาวเคยมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมคดีโอนหุ้นแล้ว โดยวันนี้มี ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับหนังสือแทน

ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานไว้อย่างรอบด้าน จนมีความเห็นสั่งฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน และยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่าหากอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้น จะมีผลกระทบต่อสำนวนคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ หรือไม่ เนื่องจากทั้งสองคดีมีความเชื่อมโยงกัน แต่ท้ายสุด หากอัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีใด และญาติผู้เสียหาย ติดใจสงสัย สามารถยื่นฟ้องได้ด้วยตนเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น