MGR Online - พี่สาวควงภรรยา “เสี่ยชูวงษ์” นักธุรกิจชื่อดัง ร้องขอความเป็นธรรรมต่ออัยการสูงสุดให้ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาสั่งคดีร่วมการปลอมเอกสารโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาท เพราะห่วงเรื่องการวิ่งเต้น
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พร้อมด้วยนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง พี่สาวและภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้านที่เสียชีวิตในอุบัติรถยนต์ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง ร.ต.อ.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการพิจารณาสำนวนคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกรวม 4 รายตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจรซึ่งเป็นหุ้นบริษัทของนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และคดีที่ พ.ต.ท.บรรยินตกเป็นต้องหาฐานร่วมกันฆ่านายชูวงษ์โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีข่าวว่าพนักงานสอบสวนเตรียมจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดีภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้
โดยมี ร.ท.สมนึก เสียงกัอง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนอัยการสูงสุด รับหนังสือแทน
ด้านนางวันเพ็ญ พี่สาวของนายชูวงษ์ กล่าวว่า การร้องขอความเป็นธรรมคดีหุ้นเพราะไม่สบายใจมาก หลังมีการออกหมายจับและได้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วปล่อยชั่วคราวเมื่อปี 2558 โดยมีการส่งสำนวนให้อัยการแล้วเวลาผ่านมานานนับปีแต่คดียังไม่คืบหน้า อัยการยังไม่มีคำสั่งคดี โดยเห็นว่าเมื่อออกหมายจับแล้วตำรวจก็น่าจะมีหลักฐานชัดเจนพอที่จะสรุปสำนวน ส่วนคดีกันฆ่านั้นต้องขอบคุณกองปราบปรามที่ได้รวบรวมหลักฐานและเห็นว่าตำรวจเคยให้สัมภาษณ์ว่าส่งสำนวนให้อัยการภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ โดยเราพร้อมจะเป็นโจทก์ร่วมทั้งสองคดีด้วย ซึ่งการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้นได้แสดงความเป็นห่วงทั้ง 2 คดี โดยห่วงเรื่องการวิ่งเต้น จึงอยากขอให้อัยการได้มีการตั้งคณะทำงาน
ด้าน ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตระหนักถึงเรื่องการให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย โดยหลังจากรับหนังสือแล้วจะรีบดำเนินการส่งหนังสือถึง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณามีคำสั่งต่อไป ในเบื้องต้นตนทราบว่าคดีโอนหุ้นนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ แต่ที่พิจารณาไม่แล้วเสร็จเนื่องจากมีการสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น เนื่องจากเอกสารที่ส่งมาเป็นเรื่องของเส้นทางการเงินที่ต้องใช้เวลาสอบเพิ่มอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความได้ ยืนยันว่าอัยการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และจะไม่ยอมให้มีการวิ่งเต้นเกิดขึ้นได้ ที่มีกระแสข่าวว่าอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ตนไม่เคยได้ยินมาก่อน อาจจะเป็นความวิตกเลยคาดคะเนไปเอง แต่ตนให้หลักประกันในเรื่องนี้ได้ว่าไม่มีการวิ่งเต้น
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแล้ว จะมีการนำหนังสือดังกล่าวเสนอ ต่อ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ อัยการสูงสุด ภายในวันนี้ จากนั้นอัยการสูงสุดจะมีการสั่งการลงไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้เพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรมตามหนังสือที่ร้องมา โดยในการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้น ทางตนได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าทางอัยการจะสามารถพิจารณาได้แต่ในสำนวนทีมีการแจ้งข้อหาฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม, ลักทรัพย์ และรับของโจรก่อนเท่านั้น ส่วนคดีร่วมกันฆ่านั้นทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการส่งสำนวนมาอัยการจึงยังไม่สามารถพิจารณาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีร่วมการปลอมเอกสารโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา นางวันเพ็ญ และนางศิริรัตน์ พี่สาวกับภรรยาของนายชูวงษ์ได้เดินทางเข้าพบนายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการสั่งคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน อดีต รมช.พาณิชย์, น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์, น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์ คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ซึ่งเป็นหุ้นบริษัทของนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาทด้วย โดยสำนวนดังกล่าวพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ ส่งให้พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 พิจารณาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2558 ขณะนี้สำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 หลังจากได้มีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วนคดีร่วมกันฆ่าฯ นั้น พ.ต.ท.บรรยิน ถูกจับกุมตัวตามหมายจับคดีร่วมกันฆ่าฯ ที่รีสอร์ต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังไว้ต่อศาลจังหวัดพระโขนง และอนุญาตให้ประกันตัวชั้นฝากขังในวงเงิน 2 ล้านบาท