00 เถียงกันอยู่ร่วมสัปดาห์ ปมคำถามพ่วงที่จะไปแต่งเติมในร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร หลังจาก สนช. พวกหัวหมู่ทะลวงฟัน ตั้งท่าให้ส.ว.ลากตั้ง เข้าคิวรอชงชื่อ “นายกฯนอกตะกร้า”ได้ใน “ก๊อกสอง” หากชื่อที่ทางสภาผู้แทนฯเสนอ ไปไม่ถึงดวงดาว ตามด้วย “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ “ป๋าป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช. ก็ออกโรงมาทุบโต๊ะปึ๊งๆ ก๊อกสอง ค่อยเสนอ ส่วนก๊อกแรกให้ ส.ว.ลากตั้งร่วมโหวตเฉยๆ แต่สุดท้าย ”ซือแป๋” มีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่เล่นด้วย เมื่อที่ประชุมกรธ. สรุปเปรี้ยงว่า ส.ว.ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯ ไม่ว่าจะก๊อก 1 ก๊อก 2 ให้ได้แค่ร่วมโหวตเฉยๆ
00 รู้ทั้งรู้ว่า คสช. และรัฐบาลต้องการให้ส.ว.ร่วมเสนอชื่อนายกฯได้ แต่ กรธ.ก็ยกเหตุผลมาชี้แจงว่า ตามหลักการสำคัญของมาตรา 159 ในร่างรัฐธรรมนูญ บัญญัติ ขึ้นให้สอดคล้องกับหลักการแต่งตั้งนายกฯ ของประเทศที่ปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งจะต้องมาจากการดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการสนับสนุนจากส.ส. เท่านั้น เพื่อให้การดำเนินการบริหารประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับ มาตรา 272 เป็นเพียงบทเฉพาะกาล ที่ใช้เป็นการชั่วคราว เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถเลือกนายกฯ จากบัญชีรายชื่อที่ประกาศให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะเมื่อได้รับการยกเว้นแล้ว ก็ต้องย้อนกลับไปให้ ส.ส.ดำเนินการต่อไป ดังนั้นในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ส.ว.จึงมีสิทธิ์แต่ร่วมโหวต เท่านั้น
00 นั่นเป็นข้อสรุปเบื้อต้น จากที่ประชุมกรธ. ก่อนทำการแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญให้เข้ากับคำถามพ่ว แต่เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาชี้ขาด ว่าจะเอาตามที่ กรธ.เขียนมาหรือไม่ ดังนั้น คสช. และรัฐบาลรวมทั้งสนช. ก็ใช่จะหมดหวังเสียทีเดียว ก็คงต้องรอการตีความจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กรธ.ปรับแก้ ก็จะต้องแนะนำมา ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งกรธ.ก็ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
00 มองไกลๆ ว่าเมืองไทยจะมีเลือกตั้งในปี 2560 จริงๆ โดยไม่มีอุบัติเหตุแบบฟ้าถล่มดินทลาย แล้วหากเป็นตามสูตรนี้ นายกฯ หลังการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเป็น“คนที่ 30” ต่อจาก “นายกฯลุงตู่” ต้องมีเสียงสนับสนุนเบ็ดเสร็จ 376 เสียงจากทั้ง ส.ส.-ส.ว. ที่รวมกันแล้วได้ 750 เสียง พูดง่ายๆ คือ กึ่งหนึ่งหรือครึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมดในรัฐสภา ไม่แน่นะ เราอาจได้เห็นชื่อ “บิ๊กตู่–บิ๊กป้อม” ไปโผล่อยู่ในตะกร้า ของพรรคประชาชนปฏิรูปของ ไพบูลย์ นิติตะวัน อาจจะฉลุยตั้งแต่ก๊อกแรกเลย แต่พรรคของ “คุณพี่ไพบูลย์” ต้องได้ ส.ส.เข้ามาให้ได้ตามเกณฑ์ ร้อยละ 5 หรือ 25 คน ก่อนนะ ถึงจะมีสิทธิ์เสนอชื่อในที่ประชุมรัฐสภา ถ้าลงเลือกตั้งก็วัดดวงไปเลย นโยบายพรรคเรื่องอื่นไม่ต้องมี แค่ประกาศสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯอีกรอบ ดูสิ จะรอดไม่รอด
00 ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่มองมุมไหนก็คงชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากไม่ยากเย็น แต่ก็คงไม่ได้ตั้งนายกฯง่ายๆ หนทางที่คนของเพื่อไทยจะได้เป็นนายกฯ ก็แค่สร้างประวัติศาสตร์เหมือนเมื่อการเลือกตั้งปี 2548 ที่พรรคไทยรักไทยโกย ส.ส.เข้ามาได้ 377 เสียง ทางทฤษฎีพูดได้ ทางปฏิบัติไม่มีทางเกิด ภายใต้กติการัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ขีดเส้นตรงแน่วว่า การเมืองต้องเป็นรัฐบาลผสมเท่านั้น หรืออีกทางก็ต้องรวมส.ส.ต่างพรรค ให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป แค่นั้น ส.ว.ลากตั้งก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ... ง๊ายย ง่าย เนอะ
00 เสียงแปร่งไปแฮะ เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสปท. ที่เคยแสดงจุดยืนเรื่อง“เซตซีโรพรรคการเมือง”ว่า ไม่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคการเมืองทุกพรรคตามที่บางฝ่ายเสนอ แต่วันก่อนเห็นข่าวว่า กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ที่ “เสรี”เป็นประธาน เตรียมเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายลูก 4 ฉบับ ให้แก่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมีประเด็นสำคัญในการเสนอให้“เซตซีโร”เฉพาะในส่วนของสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ต้องยุบพรรค ให้เหลือหัวหน้าพรรคไว้คนเดียว พูดง่ายๆ ก็ล้างไพ่ให้พรรคการเมืองไปหาสมาชิกกันใหม่หมด โดยใช้ชื่อพรรคเดิมต่อไปได้ เป็น“สปท.เสรี”ที่ว่ากันว่าระดับ“สายตรง คสช.” อิหรอบนี้เตรียมหาสมาชิกพรรคกันใหม่ได้เลยพี่น้อง .
00 รู้ทั้งรู้ว่า คสช. และรัฐบาลต้องการให้ส.ว.ร่วมเสนอชื่อนายกฯได้ แต่ กรธ.ก็ยกเหตุผลมาชี้แจงว่า ตามหลักการสำคัญของมาตรา 159 ในร่างรัฐธรรมนูญ บัญญัติ ขึ้นให้สอดคล้องกับหลักการแต่งตั้งนายกฯ ของประเทศที่ปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งจะต้องมาจากการดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการสนับสนุนจากส.ส. เท่านั้น เพื่อให้การดำเนินการบริหารประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับ มาตรา 272 เป็นเพียงบทเฉพาะกาล ที่ใช้เป็นการชั่วคราว เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถเลือกนายกฯ จากบัญชีรายชื่อที่ประกาศให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะเมื่อได้รับการยกเว้นแล้ว ก็ต้องย้อนกลับไปให้ ส.ส.ดำเนินการต่อไป ดังนั้นในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ส.ว.จึงมีสิทธิ์แต่ร่วมโหวต เท่านั้น
00 นั่นเป็นข้อสรุปเบื้อต้น จากที่ประชุมกรธ. ก่อนทำการแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญให้เข้ากับคำถามพ่ว แต่เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาชี้ขาด ว่าจะเอาตามที่ กรธ.เขียนมาหรือไม่ ดังนั้น คสช. และรัฐบาลรวมทั้งสนช. ก็ใช่จะหมดหวังเสียทีเดียว ก็คงต้องรอการตีความจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กรธ.ปรับแก้ ก็จะต้องแนะนำมา ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งกรธ.ก็ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
00 มองไกลๆ ว่าเมืองไทยจะมีเลือกตั้งในปี 2560 จริงๆ โดยไม่มีอุบัติเหตุแบบฟ้าถล่มดินทลาย แล้วหากเป็นตามสูตรนี้ นายกฯ หลังการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเป็น“คนที่ 30” ต่อจาก “นายกฯลุงตู่” ต้องมีเสียงสนับสนุนเบ็ดเสร็จ 376 เสียงจากทั้ง ส.ส.-ส.ว. ที่รวมกันแล้วได้ 750 เสียง พูดง่ายๆ คือ กึ่งหนึ่งหรือครึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมดในรัฐสภา ไม่แน่นะ เราอาจได้เห็นชื่อ “บิ๊กตู่–บิ๊กป้อม” ไปโผล่อยู่ในตะกร้า ของพรรคประชาชนปฏิรูปของ ไพบูลย์ นิติตะวัน อาจจะฉลุยตั้งแต่ก๊อกแรกเลย แต่พรรคของ “คุณพี่ไพบูลย์” ต้องได้ ส.ส.เข้ามาให้ได้ตามเกณฑ์ ร้อยละ 5 หรือ 25 คน ก่อนนะ ถึงจะมีสิทธิ์เสนอชื่อในที่ประชุมรัฐสภา ถ้าลงเลือกตั้งก็วัดดวงไปเลย นโยบายพรรคเรื่องอื่นไม่ต้องมี แค่ประกาศสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯอีกรอบ ดูสิ จะรอดไม่รอด
00 ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่มองมุมไหนก็คงชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากไม่ยากเย็น แต่ก็คงไม่ได้ตั้งนายกฯง่ายๆ หนทางที่คนของเพื่อไทยจะได้เป็นนายกฯ ก็แค่สร้างประวัติศาสตร์เหมือนเมื่อการเลือกตั้งปี 2548 ที่พรรคไทยรักไทยโกย ส.ส.เข้ามาได้ 377 เสียง ทางทฤษฎีพูดได้ ทางปฏิบัติไม่มีทางเกิด ภายใต้กติการัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ขีดเส้นตรงแน่วว่า การเมืองต้องเป็นรัฐบาลผสมเท่านั้น หรืออีกทางก็ต้องรวมส.ส.ต่างพรรค ให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป แค่นั้น ส.ว.ลากตั้งก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ... ง๊ายย ง่าย เนอะ
00 เสียงแปร่งไปแฮะ เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสปท. ที่เคยแสดงจุดยืนเรื่อง“เซตซีโรพรรคการเมือง”ว่า ไม่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคการเมืองทุกพรรคตามที่บางฝ่ายเสนอ แต่วันก่อนเห็นข่าวว่า กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ที่ “เสรี”เป็นประธาน เตรียมเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายลูก 4 ฉบับ ให้แก่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมีประเด็นสำคัญในการเสนอให้“เซตซีโร”เฉพาะในส่วนของสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ต้องยุบพรรค ให้เหลือหัวหน้าพรรคไว้คนเดียว พูดง่ายๆ ก็ล้างไพ่ให้พรรคการเมืองไปหาสมาชิกกันใหม่หมด โดยใช้ชื่อพรรคเดิมต่อไปได้ เป็น“สปท.เสรี”ที่ว่ากันว่าระดับ“สายตรง คสช.” อิหรอบนี้เตรียมหาสมาชิกพรรคกันใหม่ได้เลยพี่น้อง .
