xs
xsm
sm
md
lg

พังกับพวก สนช.จอมเลียหากินกับเผด็จการ ได้คืบเอาวา!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


กำลังวิ่งฉิวมาดีๆ แต่จู่ๆกลับทำท่าหัวทิ่มตกคูเอาง่ายๆ เหมือนกันสาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าพวกลิ่วล้อจอมเลียทั้งหลายทำเกินเลยซึ่งในอดีตก็มักจะเป็นแบบนี้มาหลายครั้ง และหากไม่เบรกเสียก่อนก็อาจเกิดเรื่อง “ไม่คาดหมาย” ได้ไม่ยาก อย่าดูเบาเป็นอันขาด

ก่อนหน้านี้ก็กำลังพิจารณามองกันตามสถานการณ์ความเป็นจริงเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีโอกาสที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีของพรรคการเมือง (คนนอก) เป็นไปได้สูงยิ่ง ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นอยู่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขและความรู้สึกที่เป็นไปแบบ “ธรรมชาติ” นั่นคือเงื่อนไขที่เป็นอยู่บวกกับกระแสความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่ในอนาคตเมื่อเปรียบเทียบกับพวกนักการเมืองสารพัดหน้าที่มีอยู่หรือจะเข้ามาใหม่ในช่วงเลือกตั้งมันก็ยังไม่เห็นแววที่พอจะเป็นตัวเลือกให้เจ๋งพอที่จะเบียดเขาให้ตกลงไปได้ และที่สำคัญที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่ปฏิเสธ เพียงแต่บ่นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาพูดถึงเรื่องแบบนี้

อีกทั้งผลสำรวจที่ออกมาในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงก็สะท้อนออกมาตรงกัน แต่ก็อย่างว่าแหละทุกยุคทุกสมัยมันก็ย่อมมีลูกน้อง หรือไม่ก็พวกที่โชว์ออฟ “ล้ำเส้น” จะด้วยหวังดีหรือประจบประแจงให้ล้ำหน้าเพื่อสร้างความโดดเด่นเข้าตานาย เพื่อหวังตำแหน่งแห่งหนในวันหน้า ใช่แล้วกำลังกล่าวถึงและรำคาญพวก สนช.บางคนทั้งประเภทที่มาจาก “สายทหาร” และพวกพลเรือนที่ได้ตำแหน่งหรือหากินกับเผด็จการแต่งมาตลอดที่กำลังจะ “บังคับ” ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแก้บทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญแบบ “ล็อกเป้า” ล็อกชื่อนายกฯ คนต่อไปเอาไว้ล่วงหน้ากันเลย ไม่ต่างจากการหลอกต้มชาวบ้าน หรือแบบ “ได้คืบเอาวา” กันเลยทีเดียว เพราะการเสนอให้แก้ไขบทเฉพาะกาลให้ ส.ว.(แต่งตั้ง) มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ คนนอกเพิ่มเติมเข้ามาอีก แบบนี้มันก็ส่อที่จะทำให้นายพังไม่เป็นท่าแบบไม่ควรจะเกิดขึ้นมันถึงน่าเอาเท้ายันยิ่งนัก

หากพิจารณาจากคำถามพ่วง (มติจาก สนช.นั่นแหละ) ที่ให้ชาวบ้านโหวตที่มีว่า

“ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรก นับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”

ในคำถามก็เขียนชัดอยู่แล้วว่าในช่วง 5 ปีแรกให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา (ส.ว.แต่งตั้ง+ส.ส.) เป็น “ผู้พิจารณาเห็นชอบ” บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ มันก็ชัดแจ้งแดงแจ๋ เพราะมันไม่มีข้อความไหนที่เขียนว่าให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเป็น “ผู้เสนอชื่อ” ผู้ที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ เหมือนกับที่ สนช.บางคนกำลังตะแบงแบบศรีธนญชัยโดยอ้างรัฐธรรมนูญปี 40 ปี 50 ว่าคำว่าพิจารณาหมายรวมถึงทั้ง “เสนอชื่อและโหวต” ไปพร้อมกัน

แน่นอนว่าการเสนอแบบนี้มันก็ต้องไปแก้ไขในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็น “ประเด็นหลัก” ซึ่งผิดขั้นตอนและทำไม่ได้แล้ว เพราะหากจะแก้ไขก็เพียงแค่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุด “มีชัย ฤชุพันธุ์” ไปแก้ไขในบทเฉพาะกาลให้สอดคล้องกันเท่านั้น ไม่ใช่ไปแก้ไขในมาตรา 272 มาตรา 268 มาตรา 159 หรือมาตรา 88 ในรัฐธรรมนูญหาได้ไม่ เพราะนั่นเท่ากับว่า “เหิมเกริม” คิดจะแก้ไขตามใจชอบ

หากพิจารณาตาม มาตรา 272 กำหนดไว้ว่า

“ในวาระเริ่มแรก เมื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 268 แล้ว หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามมาตรา 159 ต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้”

ความหมายมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เมื่อ ส.ส.เลือกนายกฯจากบัญชีพรรคการเมืองไม่ได้แล้วก็ให้ ส.ส.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาและให้รัฐสภามีมติ 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดให้ยกเว้นได้ (ยกเว้นการเสนอชื่อนายกฯ จากบัญชีพรรค) โดยจะเสนอชื่อจากคนนอกก็ได้

นี่คือขั้นตอนแรกคือให้ ส.ส.เขาเสนอชื่อและเลือกนายกฯ จากคนใน (ก่อน) หากเลือกไม่ได้ก็ให้ ส.ส.เป็นผู้เสนอให้ ส.ว.มาร่วมโหวตยกเว้นข้อกำหนดดังกล่าว คือเลือกจากคนนอกก็ได้ แต่คนเลือกก็ยังเป็นหน้าที่ของ ส.ส.นั่นเป็น “เนื้อหาในรัฐธรรมนูญหลัก”

แต่ก็ยกเว้นในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกที่กำหนดเอาไว้ในคำถามพ่วงที่ “ให้ ส.ว.(แต่งตั้ง) มา “ร่วมโหวต” เลือกนายกฯ คนนอกเท่านั้นไม่ใช่เสนอชื่อ แต่ที่กำลังจะมีปัญหาคือ “ได้คืบจะเอาวา” กำลังจะให้แก้ไขให้ ส.ว.เป็นผู้เสนอชื่อและโหวตไปพร้อมกันไง ซึ่ง สนช.พวกนี้แหละที่กำลังจะทำให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พังแบบ “น่าเศร้า” พังเพราะพวก “ประจบประแจง” แบบล้ำเส้น

เนื่องจากนี่คือการ “สร้างเงื่อนไขใหม่” ที่ทำให้ชาวบ้านเขาเริ่มจากการเสียความรู้สึกเหมือนกับการ “ถูกต้ม” เหมือนกับหลอกให้เซ็นชื่อด้วยวัตถุประสงค์แบบหนึ่งแต่ดันไปทำอีกอย่างหนึ่ง มันก็มีสิทธิ์ป่วน อีกทั้งเวลานี้ทางฝ่ายพรรคการเมืองกำลังสร้างกระแสต้านกันแบบสามัคคี มันก็ทำท่าจะปลุกขึ้นเสียด้วย ดังนั้นมีทางเดียวก็ต้องออกมาเบรกเสียก่อน หากไม่เบรกมันก็อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า “ให้ท้าย” และสมรู้ร่วมคิดไปด้วย!
กำลังโหลดความคิดเห็น