ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ไชน่าเดลี - ชาวแดนมังกร ที่ออกไปท่องเที่ยวทั่วโลก ขยายจำนวนอย่างรวดเร็วเปรี้ยงปร้างมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน ทัพนักท่องเที่ยวจากจีนจะยิ่งมหึมาในปีนี้ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งเม็ดเงิน ที่หลั่งไหลเนืองนองไม่ขาดสาย
การท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนคาดว่า จะยังขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากการผ่อนคลายกฎระเบียบการออกวีซ่า การแข็งค่าของเงินหยวน และความทันสมัยของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน
นาย จาง เฮ่าหรัน ชาวกรุงปักกิ่ง วางแผนไปเที่ยวเมืองนอกอีกแล้ว หลังจากเพิ่งไปเที่ยวเกาะเชจู ในเกาหลีใต้ และเกาะบาหลีในอินโดนีเชียอยู่หยก ๆ มีสถานที่ที่เขาอยากไปสัมผัสบรรยากาศอีกมากมาย เช่น วิหารอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ท้องทะเลอีเจี้ยน อันงดงาม หรือนั่งบอลลูนชมทัศนียภาพเหนือหุบผาแคปพาโดเซีย ในตุรกี
เขาบอกว่า ตัดสินใจลำบาก แต่ไม่เป็นไร เมื่อเลือกไปที่หนึ่งแล้ว ปีหน้าค่อยไปเที่ยวอีกที่ก็ได้
นายจางจัดอยู่ในกลุ่มชาวจีน ที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยขึ้น ซึ่งมีจำนวนพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่เข้าสู่คริสต์วรรษที่ 21 ชาวจีนไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 8 เท่า จาก 10 ล้านคนในปี 2543
ในปี 2555 จีนกลายเป็นตลาดแหล่งนักท่องเที่ยวติดอันดับสูงสุดของโลก และจำนวนชาวจีนไปเที่ยวต่างประเทศมีอัตราการขยายตัวเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์ 2 หลักมานับตั้งแต่นั้น จากข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
ชาวจีนไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มถึง 107 ล้านคนในปี 2557 และคาดว่า จะเพิ่มถึง 120 ล้านคนในปี 2558 หรือร้อยละ 16 จากปีก่อน ตามรายงานของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติ
ขณะที่ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า ชาวจีนไปเที่ยวต่างประเทศอาจเพิ่มถึง 174 ล้านคนภายในปี 2562 และมีการใช้จ่ายสะพัดมากถึงราว 264,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งพอ ๆ กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของชาติพัฒนาอย่างสิงคโปร์เลยทีเดียว
กองทัพนักท่องเที่ยวแดนมังกรกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับคำชมเปาะว่า เป็นกลุ่ม ที่ควักเงินใช้จ่ายมากที่สุดและน่าต้อนรับมากที่สุดในโลก โดยนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายในต่างแดนเป็นเงินจำนวน 164,800 ล้านดอลลาร์ ในปี 2557 หรือ 4 เท่าจากเมื่อปี 2551 โดยการใช้จ่ายราวร้อยละ 88 หมดไปกับการชอปปิง จากรายงานของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน
ด้านสื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานว่า ชาวจีนราว 4 แสนคนใช้จ่ายเงินประมาณ 833 ล้าน 7 แสนดอลลาร์ในญี่ปุ่นระหว่างช่วงสัปดาห์วันหยุดแห่งชาติของจีนเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้น ยังควักเงินเป็นฟ่อนจ่ายถึงราว 8,900 ล้านดอลลาร์บนแดนซากุรุ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 165
สำหรับไทยนั้น มีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนราว 4 ล้านคนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 เพิ่มถึงร้อยละ 110 จากช่วงเดียวกันในปี 2557 จากข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ส่วนยอดใช้จ่ายพุ่งถึงร้อยละ 140 เป็น 53 ล้าน 5 แสนดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ชาวแดนมังกรขนเงินไปเที่ยวมากที่สุดถึง 5,600 ล้านดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนก.ย. 2558 แซงหน้ายอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อเมริกัน และแคนาดารวมกัน
อำนาจซื้อของนักท่องเที่ยวจีนเขย่าหัวใจการท่องเที่ยวของชาติต่าง ๆ ไม่หยุดยั้ง โดยวิซิตบริเตน (VisitBritain) ซึ่งเป็นคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งสหราชอาณาจักรคาดว่า ภายในปี 2563 นักเดินทางชาวจีนจะใช้จ่ายมากถึงกว่า 1,470 ล้านดอลลาร์ในสหราชอาณาจักรในแต่ละปี
นอกจากนั้น ยังพบว่า แพ็กเกจทัวร์หรูยังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวแดนมังกร ซึ่งสอดรับกับชื่อชาวจีน ที่ติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดโลก เพิ่มขึ้น
จากรายงานของหูหรุ่น /อินเตอร์เนชันแนล ลักชูรี แทรเวล มาร์เก็ต เอเชีย (A Hurun/International Luxury Travel Market Asia) เมื่อเดือนพ.ค. 2558 ระบุว่า นักเดินทางระดับมหาเศรษฐีของจีนถึงครึ่งหนึ่งโดยสารเครื่องบินชั้นบิสซิเนสในปี 2557 เทียบกับเมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งมีเพียง 1 ใน 3
นักท่องเที่ยวระดับหรูชาวจีนนับวันก็ยิ่งคุ้นเคยกับการได้รับการบริการต้อนรับที่ดี และรายละเอียดในการเดินทางท่องเที่ยว ที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ น่าสนใจ นายสตีฟ สปิวัก (Steve Spivak) รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขายทั่วโลกของบริษัททัวร์ Tauck ในสหรัฐฯ ระบุ
“ โปรแกรมท่องเที่ยว ที่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่ และมีความหรูหรา ตอนนี้นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวระดับมหาเศรษฐีของจีน เช่น การล่องเรือสำราญในแม่น้ำอะเมซอน และการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติในเคนยา” เขาเปิดเผย
ลี เมนแกรน (Li Mengran ) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของยูทัวร์ ( Utour) เสริมว่า การจัดทัวร์ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ซึ่งนำโดยนักวิทยาศาสตร์และมีช่างภาพระดับมืออาชีพติดตามไปด้วยนั้น กำลังขายดีในขณะนี้ด้วยเช่นกัน
ปรากฏการณ์คลื่นนักท่องเที่ยวจีนทะลักจากแผ่นดินใหญ่ นอกจากส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว ยังทำให้ธุรกิจการบินคึกคักตามไปด้วย โดยสายการบินต่าง ๆ มีการขยายเส้นทางและเที่ยวบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
(ติดตามเรื่องนี้กันในตอนหน้า)