xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อุ๊ยตาย ว้ายกรี๊ด ธรรมกาย นิวคาสเซิล 40 ล้าน พระเดชพระคุณใช้ “สบู่ ดร.ปาโยต์”…นะจ๊ะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ยังคงเป็นที่ติดตามกันอย่างต่อเนื่องทีเดียว สำหรับ “วัดพระธรรมกายนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ” หลังตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเวอร์วังอลังการที่ “วัดพระธรรมกาย” ใช้เงินไปซื้อ “โบสถ์” เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีของเมืองนิวคาสเซิลเพื่อจัดตั้งเป็นวัดสาขา

และประเด็นที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่อง “เม็ดเงิน” ที่นำไปใช้ในการซื้อโบสถ์เก่าแห่งนี้ว่า “มากมายมหาศาล” เพียงใด

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พระสมุห์พิชิต ฐิตชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนิวคลาสเซิล ได้เคยชี้แจงที่มาและที่ไปของวัดแห่งนี้ว่า เป็นผลมาจากการที่ชาวพุทธในประเทศอังกฤษ ทั้งคนไทยในพื้นที่ และชาวท้องถิ่น ได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อซื้อโบสถ์เก่า ในราคาที่ไม่สูงมากนัก จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล อย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอังกฤษ ผ่านการรับรองโดยกรรมการเมือง มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายในการใช้งาน เพื่อประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งตามกฎหมายในอังกฤษ

ส่วนที่เห็นเป็นโบสถ์สวยงาม เนื่องจากซื้อ “โบสถ์เก่าประจำเมือง” ที่ถูกแปรสภาพไปใช้งานอย่างอื่นแล้ว ถูกทิ้งให้รกร้างเป็นระยะเวลานาน และนำมาปรับปรุงพัฒนาโดยใช้หลักประหยัดสุดประโยชน์สูง เพื่อให้เป็นพุทธสถานในท้องถิ่น ทั้งนี้ การทำอาคารใด ๆ ในประเทศอังกฤษ ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของกรมศิลป์ของประเทศ การดูแลพัฒนาอาคารต้องผ่านการตรวจสอบจากทางเมืองในทุกขั้นตอนอย่างละเอียด หากไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถทำอะไรกับอาคารทั้งภายในและภายนอกได้เลย “ที่สำคัญ ต้องให้เข้ากับลักษณะสถาปัตยกรรมเดิม” ของประเทศอังกฤษ โดยเน้นการใช้วัสดุพื้นเมืองราคาไม่แพง และให้พระภิกษุช่วยกันทำเอง เนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่ประเทศอังกฤษมีราคาแพงกว่าไทยหลายเท่า

คำชี้แจงดังกล่าวยืนยันว่า ราคาของโบสถ์เก่าหลังนั้นมีราคาที่ไม่สูงมากนัก และการบูรณะซ่อมแซมใหม่ก็เน้นใช้วัสดุพื้นเมืองราคาไม่แพง โดยให้พระภิกษุช่วยกันทำเองเนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่ประเทศอังกฤษแพงกว่าไทยหลายเท่า

ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเม็ดเงินที่ใช้ซื้อและตกแต่งโบสถ์หลังนี้ชนิดที่เห็นแล้ว ต้องร้องอุทาน โอ้โห....วัดพระธรรมกายนี่รวยจริงๆ นะจ๊ะ

จากการตรวจสอบของสำนักข่าวอิศราซึ่งได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวในอังกฤษ ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า โบสถ์ที่วัดพระธรรมกาย ซื้อมาใช้ในการจัดตั้งวัดพระธรรมกายนิวคาสเซิล เคยปรากฏเป็นข่าวในอังกฤษ ว่า มีผู้ชนะการประมูลในช่วงเดือน มีนาคม 2556 ด้วยวงเงินเกือบ 300,000 ปอนด์ ขณะที่ค่าปรับปรุงถูกระบุว่าอยู่ที่ราคากว่า 500,000 ปอนด์ คำนวณราคาเป็นเงินไทยในขณะนั้น 1 ปอนด์ ประมาณ 50 บาท ราคาไม่น่าจะต่ำกว่า 40 ล้านบาท

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเกิดคำถามตามมาว่า ในเมื่อวัดพระธรรมกายสามารถระดมเงินหรือมีเงินในการขยายสาขาเพียงแห่งเดียวถึงขนาดนี้ จริงๆ แล้วอาณาจักรธรรมกายของ “พระเทพญาณมหามุนี(ไชยบูลย์ ธัมมชโย)” จะมีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหน

รวมทั้งมีคำถามว่า การขยายสาขาของวัดพระธรรมกายในต่างประเทศซึ่งมีกว่า 40 สาขาทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา แห่งนั้น ใช้เงินมากน้อยขนาดไหน เพราะแต่ละแห่งราคาก็ไม่น่าจะไม่ต่ำกว่าหลักล้านทั้งสิ้น

กระนั้นก็ดี นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีรายงานในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 เรื่อง “1 วันอันเรียบหรูของธัมมชโย” ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

รายงานชิ้นดังกล่าวได้บอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระธัมมชโยเอาไว้ในหลากหลายแง่มุมว่า...

“พระธัมมชโยตื่นนอนระหว่างเวลาตีสี่ถึงตีห้า เพราะชื่อว่าการตื่นนอนแต่เช้าทำให้ร่างกายสดชื่น โดยเฉพาะเป็นเวลาที่ได้รับพลังงานจากพระอาทิตย์ในยาเช้า เพราะฉะนั้นพระธัมมชโยเลือกที่จะนอนหรือจำวัดเร็วและตื่นเช้าเพื่อมารับพลังงาน ห้องพำนักของพระธัมมชโยตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก ลูกศิษย์ลูกหาที่เคยไปด้านในระบุว่า เมื่อเปิดผ้าม่านและมองตรงไปข้างหน้าก็จะเห็นน้ำพุพวย พุ่งขึ้นกลางสระน้ำ เมื่อทอดสายตาไปยังบริเวณมหาเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดพระธรรมกายก็จะเห็นแสงอาทิตย์ยามเช้าที่กระทบาและสะท้อนเป็นประกายเข้าหาตัวของพระธัมมชโย นี่คือแสงที่เชื่อว่าจะเพิ่มพลังให้แก่พระธัมมชโย”

“เป็นเรื่องแปลกสำหรับพระที่พยายามสั่งสอนศิษย์ในเรื่องการปล่อยว่าง แต่กลับเลือกทำความสะอาดตัวด้วยสบู่ราคาแดงที่สุดในโลกยี่ห้อหนึ่ง ดร.ปาโยต์ เป็นสบู่ยี่ห้อเดียวกับที่ดาราฮอลลีวูดหรือคนชั้นสูงและบรรดาเศรษฐีใช้ในการบำรุงผิวพรรณย่านชองเอลิเซ่ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นแหล่งที่คนไทยนิยมไปหาซื้อสบู่ยี่ห้อนี้ ราคาก้อนละประมาณ 2,000 บาท ก็คงไม่ใช่ของฝากที่แพงเกินไปอย่างแน่นอนจากบรรดาลูกศิษย์ที่มีความเลื่อมใสต่อพระธัมมชโย และเรื่องของสบู่ ดร.ปาโยต์ก็ไม่ใช่ความลับอะไรในวัดพระธรรมกาย”

ยัง...ยังไม่หมดเพียงเท่านี้

รายงานฉบับนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า... “ผู้ที่ดูแลเรื่องผิวพรรณให้พระธัมมชโยเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งให้คำแนะนำขั้นตอนการประทินผิว ตั้งแต่การใช้ครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวและใบหน้า ไปจนถึงกรรมวิธีอื่นๆ ที่คนรักสวยรักงามทั่วไปทำกัน ไม่ว่าจะเป็นนวดหน้าวันละ 3 ครั้ง คือเช้า กลางวัน เย็น การยิงแสงเลเซอร์กำจัดรอยด่าง ขนและหนวดเคราก็ใช้วิธีถอนแบบถาวร นี่อาจจะเป็นคำตอบว่า ทำไมในวัย 72ปี พระธัมมชโยจึงยังมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาและอ่อนวัย”

“จีวรทุกผืนของพระธัมมชโยต้องผ่านการรีดจนเรียบ และต้องเป็นจีวรที่โดดเด่นกว่าจีวรของพระรูปอื่น เป็นเรื่องปกติที่พระธัมมชโยจะปรากฏตัวด้วยจีวรที่คลุมร่างกายคล้ายกับเครื่องแต่งกายของภิกษุณี และไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันที่หลายครั้งสวมหมวก พระธัมมชโยเคยอธิบายว่า จำเป็นต้องปกปิดร่างกายมิดชิดเพราะแพ้แสงแดด ไม่มีใครยืนยันข่าวลือว่า พระธัมมชโยมีร้านตัดจีวรส่วนตัวโดยเฉพาระย่านถนนสีลม”

“ในส่วนของอาหาร พระธัมมชโยมีวินัยในการฉันอาหารมาก ดูแลควบคุมอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักและเรื่องโภชนาการ โรงครัวของวัดพระธรรมกายมี 2 โรง โรงที่ 1 สำหรับเจ้าอาวาส และโรงที่ 2 สำหรับทุกคนทั่วไป ถึงแม้จะเป็นพระ ...แต่ลูกศิษย์ลูกหาก็รู้ดีกว่าพระธัมมชโยเป็นพระที่ยังมีอารมณ์สุนทรียะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำในยามว่างคือการแต่งเพลง แต่งกลอนและเขียนบทกวี และไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่พระธัมมชโยจะเปิดเพลงที่โปรดปรานคลอไปกับเสียงเทศน์ในบางครั้ง”

อุ๊ยตาย....ว้ายกรี๊ด ตาเถรตกใต้ถุน...อะไรจะขนาดนี้ขอรับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น