ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน มีข่าวทั้งนายทหารและนายตำรวจก่อคดีฉาวโฉ่ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ข่มขู่ประชาชนจนถูกสังคมรุมประณามอย่างหนัก ทำให้ผู้บังคับบัญชาต้องลงมาจัดการกับนายทหารและนายตำรวจนอกแถว
แต่การจัดการกับนายทหารที่แสดงความกร่าง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการจัดการนายตำรวจที่ใช้อำนาจเถื่อน
เพราะบทลงโทษของกองทัพหนักหน่วง รุนแรง รวดเร็ว มีผลบังคับใช้ทันที และเยียวยาความรู้สึกของประชาชนได้ ขณะที่บทลงโทษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเบาหวิว และประชาชนยังหวั่นว่า ตำรวจจะปกป้องพวกพ้องอีกหรือไม่
คดีฉาวโฉ่ของนายทหารเกิดขึ้นที่จังหวัดยะลา โดยพ.อ.ขจรเดช สมิตะโยธิน สัสดีจังหวัดยะลา แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ขู่อุ้มหญิงสาวเจ้าของร้านขายเสื้อผ้า แต่ถูกถ่ายคลิปประจานสู่สาธารณชน
ส่วนคดีนายตำรวจใช้อำนาจข่มเหงประชาชนเกิดขึ้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยพ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1.บก.สส.ภาค 2 พร้อมพวกรวม 7 คน นำกำลังบุกร้านนางฟ้าคาราโอเกะ อ้างว่าเปิดบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ยัดข้อหาค้าประเวณี และยังกักขัง หน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ ซึ่งผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
หลังมีข่าวพ.อ.ขจรเดชก่อความเสื่อมเสียให้กองทัพ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ออกมาแสดงความรับผิดชอบในทันที ยอมรับผิดในพฤติกรรมของทหารที่ก่อเหตุ ขออภัยสังคมในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
และสั่งย้ายด่วนพ.อ.ขจรเดชออกนอกพื้นที่จังหวัดยะลา สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัย โดยกำชับให้คณะกรรมการสอบสวนทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ถ้าพบความผิดให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด
นอกจากนั้นยังประกาศให้คู่กรณีที่ประสงค์ดำเนินคดีอาญา ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ความมั่นใจในความปลอดภัยและให้ความเป็นธรรม โดยกองทัพจะไม่ปกป้องหรือแทรกแซงการสอบสวน
ขณะที่พฤติกรรมของพ.ต.ท.นราวุธ ตำรวจต้องรายงานตามลำดับชั้นถึง ผบ.ตร. ส่วนบทลงโทษเบื้องต้น ให้ย้ายไปประจำที่ตำรวจภูธรภาค 2 สั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนคดีอาญาให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง
ผู้บังคับบัญชาของพ.ต.ท.นราวุธยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่คำยืนยันการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายของตำรวจ กรณีที่ประชาชนถูกตำรวจรังแก สุดท้ายมักเป็นฝ่ายตำรวจที่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกดำเนินคดี ไม่ถูกลงโทษ สวมเครื่องแบบต่อไป และมีตำแหน่งใหญ่โตขึ้น
กองทัพแสดงให้เห็นความเด็ดขาดในการกำจัดทหารที่ประพฤติชั่วมาตลอด เพราะกองทัพไม่มีระบบซื้อขายตำแหน่ง ไม่มีระบบเก็บส่วยส่งนายตามลำดับชั้น จึงไม่ต้องปกป้องลูกน้องที่คอยหาเงินส่ง
นายทหารที่กระทำความผิดร้ายแรง ไม่ว่าจะยศใหญ่โตขนาดไหน กองทัพสั่งไล่ออกเป็นประจำ แม้แต่พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำกองทัพบก ที่พัวพันการค้ามนุษย์ ก็ยังไม่ได้รับการปกป้อง
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติปกป้องพวกพ้องเป็นประจำ ตำรวจที่ก่อความผิด ปล่อยให้มีบ่อนในพื้นที่ ปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ถูกเปิดโปงรับส่วย หรือแม้แต่ข่มเหงรังแกประชาชน บทลงโทษมักเป็นรายการ “ปาหี่” เท่านั้น
แกล้งสั่งย้ายด่วนเพื่อลดกระแสโจมตี ทำเป็นตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย แต่มักสรุปด้วยคดีไม่มีมูล และย้ายกลับสู่ตำแหน่งเดิม
ทหารก่อเรื่องกับประชาชน กองทัพไม่ปกป้อง แต่ตำรวจก่อเรื่องกับชาวบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าข้างตำรวจลูกเดียว แถมยังจะเล่นงานประชาชนที่นำพฤติกรรมตำรวจมาเปิดโปงอีกด้วย
คดีผู้โดยสารบนรถแท็กซี่ที่มีปากเสียงกับจราจร สน.บุคคโล รักษาการ ผบช.น.ถึงกับวิ่งรี่ลงพื้นที่ปกป้องตำรวจ และขู่จะเล่นงานคนที่นำคลิปตำรวจก้าวร้าวประชาชนไปเผยแพร่
คดีตำรวจจราจร สน.บุคคโล ตบหัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่หลบด่านตรวจจนรถคว่ำบาดเจ็บ รักษาการ ผบช.น.ก็วิ่งแจ้นลงพื้นที่แก้ต่างให้ตำรวจอีก และขู่จะเล่นงานพลเมืองดีที่นำคลิปตำรวจโหดไปประจานตามเคย
การซื้อขายตำแหน่งสารวัตรจราจรวงเงิน 7 แสนบาท ซึ่ง 2 ร.ต.อ.แจ้งความสาวไส้กันเอง และเป็นการยืนยันว่า ตำรวจมีการวิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้ตามที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีปกับดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ออกมาเปิดโปง คดีกำลังถูกเบี่ยงเบนให้เป็นความผิดเฉพาะบุคคล เพื่อกลบความฟอนเฟะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เช่นเดียวกับความบกพร่องของพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่นที่รับแจ้งความนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล และทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องติดคุกหรือตกเป็นผู้ต้องหาเกือบ 10ราย โดยอาจไม่มีตำรวจคนใดที่ต้องรับผิด
คดีพ.อ.ขจรเดชกับคดีพ.ต.ท.นราวุธ เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า กองทัพนั้น “สุดยอด” เพราะจัดการกับทหารที่ประพฤติตัวนอกลู่นอกทางอย่างเด็ดขาดจริงจัง แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น “สุดแย่” มานานแล้ว เพราะมุ่งปกป้องพวกพ้องมาตลอด ไม่ว่าก่อพฤติกรรมเลวร้ายขนาดไหน
ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินมาตรการที่เข้มข้นและจริงจัง ในการกำจัดตำรวจชั่ว เช่นเดียวกับกองทัพที่ลงโทษหนักทหารเลว ประชาชนคงนอนตายตาหลับ ไม่ต้องห่วงสังคมที่จะเสื่อมทรุดเพราะตำรวจ
และไม่ต้องคอยทวงถามถึงการผ่าตัดใหญ่องค์กรตำรวจ
วันนี้ก็ยังมีเสียงตะโกนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่ เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ปฏิรูปตำรวจเสียที เพราะแวดวงสีกากีเน่าเฟะเต็มทนแล้วนะ
แต่การจัดการกับนายทหารที่แสดงความกร่าง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการจัดการนายตำรวจที่ใช้อำนาจเถื่อน
เพราะบทลงโทษของกองทัพหนักหน่วง รุนแรง รวดเร็ว มีผลบังคับใช้ทันที และเยียวยาความรู้สึกของประชาชนได้ ขณะที่บทลงโทษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเบาหวิว และประชาชนยังหวั่นว่า ตำรวจจะปกป้องพวกพ้องอีกหรือไม่
คดีฉาวโฉ่ของนายทหารเกิดขึ้นที่จังหวัดยะลา โดยพ.อ.ขจรเดช สมิตะโยธิน สัสดีจังหวัดยะลา แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ขู่อุ้มหญิงสาวเจ้าของร้านขายเสื้อผ้า แต่ถูกถ่ายคลิปประจานสู่สาธารณชน
ส่วนคดีนายตำรวจใช้อำนาจข่มเหงประชาชนเกิดขึ้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยพ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1.บก.สส.ภาค 2 พร้อมพวกรวม 7 คน นำกำลังบุกร้านนางฟ้าคาราโอเกะ อ้างว่าเปิดบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ยัดข้อหาค้าประเวณี และยังกักขัง หน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ ซึ่งผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
หลังมีข่าวพ.อ.ขจรเดชก่อความเสื่อมเสียให้กองทัพ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ออกมาแสดงความรับผิดชอบในทันที ยอมรับผิดในพฤติกรรมของทหารที่ก่อเหตุ ขออภัยสังคมในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
และสั่งย้ายด่วนพ.อ.ขจรเดชออกนอกพื้นที่จังหวัดยะลา สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัย โดยกำชับให้คณะกรรมการสอบสวนทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ถ้าพบความผิดให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด
นอกจากนั้นยังประกาศให้คู่กรณีที่ประสงค์ดำเนินคดีอาญา ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ความมั่นใจในความปลอดภัยและให้ความเป็นธรรม โดยกองทัพจะไม่ปกป้องหรือแทรกแซงการสอบสวน
ขณะที่พฤติกรรมของพ.ต.ท.นราวุธ ตำรวจต้องรายงานตามลำดับชั้นถึง ผบ.ตร. ส่วนบทลงโทษเบื้องต้น ให้ย้ายไปประจำที่ตำรวจภูธรภาค 2 สั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนคดีอาญาให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง
ผู้บังคับบัญชาของพ.ต.ท.นราวุธยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่คำยืนยันการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายของตำรวจ กรณีที่ประชาชนถูกตำรวจรังแก สุดท้ายมักเป็นฝ่ายตำรวจที่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกดำเนินคดี ไม่ถูกลงโทษ สวมเครื่องแบบต่อไป และมีตำแหน่งใหญ่โตขึ้น
กองทัพแสดงให้เห็นความเด็ดขาดในการกำจัดทหารที่ประพฤติชั่วมาตลอด เพราะกองทัพไม่มีระบบซื้อขายตำแหน่ง ไม่มีระบบเก็บส่วยส่งนายตามลำดับชั้น จึงไม่ต้องปกป้องลูกน้องที่คอยหาเงินส่ง
นายทหารที่กระทำความผิดร้ายแรง ไม่ว่าจะยศใหญ่โตขนาดไหน กองทัพสั่งไล่ออกเป็นประจำ แม้แต่พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำกองทัพบก ที่พัวพันการค้ามนุษย์ ก็ยังไม่ได้รับการปกป้อง
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติปกป้องพวกพ้องเป็นประจำ ตำรวจที่ก่อความผิด ปล่อยให้มีบ่อนในพื้นที่ ปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ถูกเปิดโปงรับส่วย หรือแม้แต่ข่มเหงรังแกประชาชน บทลงโทษมักเป็นรายการ “ปาหี่” เท่านั้น
แกล้งสั่งย้ายด่วนเพื่อลดกระแสโจมตี ทำเป็นตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย แต่มักสรุปด้วยคดีไม่มีมูล และย้ายกลับสู่ตำแหน่งเดิม
ทหารก่อเรื่องกับประชาชน กองทัพไม่ปกป้อง แต่ตำรวจก่อเรื่องกับชาวบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าข้างตำรวจลูกเดียว แถมยังจะเล่นงานประชาชนที่นำพฤติกรรมตำรวจมาเปิดโปงอีกด้วย
คดีผู้โดยสารบนรถแท็กซี่ที่มีปากเสียงกับจราจร สน.บุคคโล รักษาการ ผบช.น.ถึงกับวิ่งรี่ลงพื้นที่ปกป้องตำรวจ และขู่จะเล่นงานคนที่นำคลิปตำรวจก้าวร้าวประชาชนไปเผยแพร่
คดีตำรวจจราจร สน.บุคคโล ตบหัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่หลบด่านตรวจจนรถคว่ำบาดเจ็บ รักษาการ ผบช.น.ก็วิ่งแจ้นลงพื้นที่แก้ต่างให้ตำรวจอีก และขู่จะเล่นงานพลเมืองดีที่นำคลิปตำรวจโหดไปประจานตามเคย
การซื้อขายตำแหน่งสารวัตรจราจรวงเงิน 7 แสนบาท ซึ่ง 2 ร.ต.อ.แจ้งความสาวไส้กันเอง และเป็นการยืนยันว่า ตำรวจมีการวิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้ตามที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีปกับดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ออกมาเปิดโปง คดีกำลังถูกเบี่ยงเบนให้เป็นความผิดเฉพาะบุคคล เพื่อกลบความฟอนเฟะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เช่นเดียวกับความบกพร่องของพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่นที่รับแจ้งความนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล และทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องติดคุกหรือตกเป็นผู้ต้องหาเกือบ 10ราย โดยอาจไม่มีตำรวจคนใดที่ต้องรับผิด
คดีพ.อ.ขจรเดชกับคดีพ.ต.ท.นราวุธ เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า กองทัพนั้น “สุดยอด” เพราะจัดการกับทหารที่ประพฤติตัวนอกลู่นอกทางอย่างเด็ดขาดจริงจัง แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น “สุดแย่” มานานแล้ว เพราะมุ่งปกป้องพวกพ้องมาตลอด ไม่ว่าก่อพฤติกรรมเลวร้ายขนาดไหน
ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินมาตรการที่เข้มข้นและจริงจัง ในการกำจัดตำรวจชั่ว เช่นเดียวกับกองทัพที่ลงโทษหนักทหารเลว ประชาชนคงนอนตายตาหลับ ไม่ต้องห่วงสังคมที่จะเสื่อมทรุดเพราะตำรวจ
และไม่ต้องคอยทวงถามถึงการผ่าตัดใหญ่องค์กรตำรวจ
วันนี้ก็ยังมีเสียงตะโกนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่ เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ปฏิรูปตำรวจเสียที เพราะแวดวงสีกากีเน่าเฟะเต็มทนแล้วนะ