วานนี้ (23 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างมอบนโยบายในการประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศไทยแบบบูรณาการ หัวข้อ "บูรณาการเพื่อนำประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" ตอนหนึ่งว่า ในเรื่องการเมืองขอให้หนักแน่นอดทน เชื่อมั่นตนและทุกคนว่าไม่ได้เข้ามาเพื่ออะไรทั้งสิ้น ใครที่พูดอย่าไปเชื่อ เดี๋ยวกำลังฟ้องกันอยู่ ตั้งตำรวจ ตั้งทหาร ตั้งบ้าบอคอแตกเสียเงิน
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแต่งตั้งตำรวจระดับสารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2558 ที่ยังล่าช้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ไม่มีปัญหา แต่ปีนี้ไม่เหมือนปีที่ผ่านๆ มา เพราะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่กำหนดขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา เนื่องจากมีจำนวนมากถึงกว่า 8 พันคน จึงได้ใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะทำไม่ได้ ติดขัดไปหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจการแต่งตั้งระดับนี้ไปอยู่ที่ผู้บัญชาการ จึงโยกย้ายข้ามหน่วยไม่ได้
"ไม่ถือว่าล่าช้า เพราะในวันนี้ (23 พ.ค.) จะมีการประกาศรายชื่อทั้งหมดจนครบ และผมขอยืนยันว่าไม่มีการยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายตามที่มีกระแสข่าวออกมา" พล.อ.ประวิตรกล่าว
สำหรับกรณี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Arthit Ourairat ระบุมีการซื้อขายตำแหน่งแต่งตั้งตำรวจนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ให้ไปหาหลักฐานมาว่าใครที่ซื้อขายตำแหน่ง เอาชื่อออกมา อย่ามาพูดลอยๆ มันไม่ดี พูดไปเรื่อย ใครๆ ก็พูดได้
"ให้ ดร.อาทิตย์มาหาผมเลย มาพูดลอยๆ ทำให้ประชาชนสับสน บอกมาเลยว่าเป็นคนไหน ใครเป็นคนซื้อขาย ตำแหน่งอะไรขอให้บอกมา เพราะผมสั่งชัดเจนและก็ดูด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องปลดออกจากราชการทันที" รองนายกฯ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ดร.อาทิตย์ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการปฏิรูปตำรวจและข่าวการซื้อตำแหน่ง โดยเนื้อหาระบุว่า "ปฏิรูปตำรวจ? แต่งตั้งตำรวจเรียบร้อยหรือยัง มีข่าวกระจายทั่วไปว่าขึ้นผู้กำกับต้อง 1 ล้าน ขึ้นรองผู้บังคับการต้อง 2 ล้าน ถามว่ามี ผู้กำกับกี่คน มีรองผู้บังคับการกี่คน ยังไม่นับสารวัตร รองผู้กำกับการ ผู้บังคับการ รองผู้บัญชาการ ผู้บัญชาการ อีกหลายพันตำแหน่ง มีข่าวว่าตอนนี้หลายที่ก็ขี่กันหลายคน หลายที่ยังว่าง นี่ใช่ไหมคือการปฏิรูปตำรวจ ใช้ระบบคุณธรรม อย่าใช้ระบบอุปถัมภ์ ตำรวจเขาไม่มีกำลังใจทำงานกันแล้ว"
อย่างไรก็ตามภายหลังที่ พล.อ.ประวิตรออกมาเรียกร้องให้ ดร.อาทิตย์หาหลักฐานการซื้อขายตำแหน่งมาแสดง ปรากฏว่า ดร.อาทิตย์ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat ว่า "ผมไม่ได้สงสัย หรือมีส่วนได้เสียอะไร และผมไม่ได้กล่าวหาลอยๆ แต่ถึงผมไม่พูด คนอื่นเขาก็พูดกันทั่ว และยังบอกอีกว่า ที่ผมพูดนั้นน้อยเกินไป และมีมานานแล้ว ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้ง ผมพูดเพื่อต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบว่าสังคมรู้กันว่าอย่างไร ควรมองเห็นในความหวังดีของผมบ้าง ผมไม่ต้องการไปพบท่านหรอกครับ และผมก็ไม่ทราบว่าท่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะผมรักและอยากให้บ้านเมืองนี้สงบ สันติสุข และเจริญรุ่งเรือง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมไม่ใช่ เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียว เสื้อฟ้า ผมใส่ทุกสี บางทีก็ไม่ใส่ แต่ผมมีหัวใจสีเลือดแห่งสุวรรณภูมิ ใจเย็นๆ และขอพระผู้เป็นเจ้าจงประทานพรให้สงบและสันติสุข"
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ปอท.ให้ดำเนินคดีกับ ดร.อาทิตย์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุมีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งตำรวจ
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดร.อาทิตย์แล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงได้เดินทางมาที่ บก.ปอท. ซึ่งคาดว่ามาดูรายละเอียดการแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าวเพื่อกำชับการดำเนินคดีต่อไป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก สตช.) และ ผบก.น.6 แถลงถึงคำสั่งแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ว่า คำสั่งแต่งตั้งจะทยอยออกมาเรื่อยๆ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ได้สั่งให้เร่งรัดโดยเร็วที่สุด ส่วนรายละเอียดกำหนดการรายงานตัวคงต้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำลังพลมาชี้แจง ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้มีความล่าช้ามาพอสมควร โดยเจตนาของ ผบ.ตร.คิดว่าจะเสร็จทัน แต่ก็น่าจะทราบกันดีว่าปีนี้ สตช.นำข้อมูลมาทำเองทั้ง 23 กองบัญชาการ ดังนั้นข้อมูลที่มากอาจผิดพลาดได้ คงไม่ต้องหาผู้มารับผิดชอบ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นแก้ไขได้
"ผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนให้ตัดไปได้เลย เพราะความล่าช้าจะไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชน และไม่เกิดสุญญากาศ และไม่ทำให้ข้าราชการตำรวจเสียขวัญกำลังใจ อย่างในพื้นที่ บก.น.6 ที่ผมรับผิดชอบ ตอนนี้ก็ให้คนเดิมทำงานไปก่อน คนมาใหม่ก็ยังไม่ให้รายงานตัว เนื่องจากคนเก่ายังอยู่" พล.ต.ต.ทรงพลกล่าว
ส่วนกรณี ดร.อาทิตย์โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีการซื้อขายตำแหน่ง พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้ามีข้อมูลจริงต้องมาพูดคุยกัน การจะนำตัวผู้โพสต์มาสอบปากคำหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้อง คงยังให้คำตอบไม่ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.เผยแพร่ออกมาแล้วทั้งสิ้น 17 คำสั่ง จำนวน 4,360 รายชื่อ จากตำแหน่งว่างกว่า 8,000 ตำแหน่ง ทำให้ยังเหลือรายชื่อที่ยังไม่ประกาศอีกกว่า 3,000 ตำแหน่ง
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแต่งตั้งตำรวจระดับสารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2558 ที่ยังล่าช้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ไม่มีปัญหา แต่ปีนี้ไม่เหมือนปีที่ผ่านๆ มา เพราะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่กำหนดขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา เนื่องจากมีจำนวนมากถึงกว่า 8 พันคน จึงได้ใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะทำไม่ได้ ติดขัดไปหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจการแต่งตั้งระดับนี้ไปอยู่ที่ผู้บัญชาการ จึงโยกย้ายข้ามหน่วยไม่ได้
"ไม่ถือว่าล่าช้า เพราะในวันนี้ (23 พ.ค.) จะมีการประกาศรายชื่อทั้งหมดจนครบ และผมขอยืนยันว่าไม่มีการยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายตามที่มีกระแสข่าวออกมา" พล.อ.ประวิตรกล่าว
สำหรับกรณี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Arthit Ourairat ระบุมีการซื้อขายตำแหน่งแต่งตั้งตำรวจนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ให้ไปหาหลักฐานมาว่าใครที่ซื้อขายตำแหน่ง เอาชื่อออกมา อย่ามาพูดลอยๆ มันไม่ดี พูดไปเรื่อย ใครๆ ก็พูดได้
"ให้ ดร.อาทิตย์มาหาผมเลย มาพูดลอยๆ ทำให้ประชาชนสับสน บอกมาเลยว่าเป็นคนไหน ใครเป็นคนซื้อขาย ตำแหน่งอะไรขอให้บอกมา เพราะผมสั่งชัดเจนและก็ดูด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องปลดออกจากราชการทันที" รองนายกฯ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ดร.อาทิตย์ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการปฏิรูปตำรวจและข่าวการซื้อตำแหน่ง โดยเนื้อหาระบุว่า "ปฏิรูปตำรวจ? แต่งตั้งตำรวจเรียบร้อยหรือยัง มีข่าวกระจายทั่วไปว่าขึ้นผู้กำกับต้อง 1 ล้าน ขึ้นรองผู้บังคับการต้อง 2 ล้าน ถามว่ามี ผู้กำกับกี่คน มีรองผู้บังคับการกี่คน ยังไม่นับสารวัตร รองผู้กำกับการ ผู้บังคับการ รองผู้บัญชาการ ผู้บัญชาการ อีกหลายพันตำแหน่ง มีข่าวว่าตอนนี้หลายที่ก็ขี่กันหลายคน หลายที่ยังว่าง นี่ใช่ไหมคือการปฏิรูปตำรวจ ใช้ระบบคุณธรรม อย่าใช้ระบบอุปถัมภ์ ตำรวจเขาไม่มีกำลังใจทำงานกันแล้ว"
อย่างไรก็ตามภายหลังที่ พล.อ.ประวิตรออกมาเรียกร้องให้ ดร.อาทิตย์หาหลักฐานการซื้อขายตำแหน่งมาแสดง ปรากฏว่า ดร.อาทิตย์ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat ว่า "ผมไม่ได้สงสัย หรือมีส่วนได้เสียอะไร และผมไม่ได้กล่าวหาลอยๆ แต่ถึงผมไม่พูด คนอื่นเขาก็พูดกันทั่ว และยังบอกอีกว่า ที่ผมพูดนั้นน้อยเกินไป และมีมานานแล้ว ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้ง ผมพูดเพื่อต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบว่าสังคมรู้กันว่าอย่างไร ควรมองเห็นในความหวังดีของผมบ้าง ผมไม่ต้องการไปพบท่านหรอกครับ และผมก็ไม่ทราบว่าท่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะผมรักและอยากให้บ้านเมืองนี้สงบ สันติสุข และเจริญรุ่งเรือง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมไม่ใช่ เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียว เสื้อฟ้า ผมใส่ทุกสี บางทีก็ไม่ใส่ แต่ผมมีหัวใจสีเลือดแห่งสุวรรณภูมิ ใจเย็นๆ และขอพระผู้เป็นเจ้าจงประทานพรให้สงบและสันติสุข"
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ปอท.ให้ดำเนินคดีกับ ดร.อาทิตย์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุมีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งตำรวจ
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดร.อาทิตย์แล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงได้เดินทางมาที่ บก.ปอท. ซึ่งคาดว่ามาดูรายละเอียดการแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าวเพื่อกำชับการดำเนินคดีต่อไป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก สตช.) และ ผบก.น.6 แถลงถึงคำสั่งแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ว่า คำสั่งแต่งตั้งจะทยอยออกมาเรื่อยๆ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ได้สั่งให้เร่งรัดโดยเร็วที่สุด ส่วนรายละเอียดกำหนดการรายงานตัวคงต้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำลังพลมาชี้แจง ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้มีความล่าช้ามาพอสมควร โดยเจตนาของ ผบ.ตร.คิดว่าจะเสร็จทัน แต่ก็น่าจะทราบกันดีว่าปีนี้ สตช.นำข้อมูลมาทำเองทั้ง 23 กองบัญชาการ ดังนั้นข้อมูลที่มากอาจผิดพลาดได้ คงไม่ต้องหาผู้มารับผิดชอบ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นแก้ไขได้
"ผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนให้ตัดไปได้เลย เพราะความล่าช้าจะไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชน และไม่เกิดสุญญากาศ และไม่ทำให้ข้าราชการตำรวจเสียขวัญกำลังใจ อย่างในพื้นที่ บก.น.6 ที่ผมรับผิดชอบ ตอนนี้ก็ให้คนเดิมทำงานไปก่อน คนมาใหม่ก็ยังไม่ให้รายงานตัว เนื่องจากคนเก่ายังอยู่" พล.ต.ต.ทรงพลกล่าว
ส่วนกรณี ดร.อาทิตย์โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีการซื้อขายตำแหน่ง พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้ามีข้อมูลจริงต้องมาพูดคุยกัน การจะนำตัวผู้โพสต์มาสอบปากคำหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้อง คงยังให้คำตอบไม่ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.เผยแพร่ออกมาแล้วทั้งสิ้น 17 คำสั่ง จำนวน 4,360 รายชื่อ จากตำแหน่งว่างกว่า 8,000 ตำแหน่ง ทำให้ยังเหลือรายชื่อที่ยังไม่ประกาศอีกกว่า 3,000 ตำแหน่ง