ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -แหม่! ออกตัวแรงอย่าบอกใคร สำหรับเจ้าแม่วังทองหลาง “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่ช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ ชนิดไม่รู้ว่าไปได้ยาดีมาจากไหน โดยเฉพาะช็อตล่าสุดที่ออกมาปูดแนวคิดของฝ่ายอำนาจ เรื่องการจับจดทะเบียนพรรคใหม่ ชนิดทำเอา“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กับ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ควันออกหู แสดงปฏิกิริยา เห็นแล้วรู้เลยว่า บ่จอย
ความเคลื่อนไหวของ“เจ๊หน่อย”น่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ทำตัวเหมือนกบจำศีล ไม่ค่อยออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหาร ไม่ว่าจะเรื่องร่างรัฐธรรมนูญหรือเรื่องการบริหารงาน ต่อให้ไมค์จ่อปาก ชงคำถามนำให้ แต่เจ๊ก็ถนอมเนื้อ ถนอมใจ ไม่แตะต้องบิ๊กคสช. ให้เสียน้ำใจกัน จนหลายฝ่ายเชื่อไปหมดแล้วว่า รัฐบาลชุดหน้าจะขนพาทีมงาน อดีตส.ส.กทม. ชิ่งหนีพรรคเพื่อไทยไปซบตักพรรคทหาร ด้วยเพราะคอนเนกชั่นระหว่างพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ กับเจ้าแม่วังทองหลาง ถือว่าแน่นปึ้กพอตัว
แต่อยู่ๆ มาเคลื่อนไหวชนิดมีอิมแพ็กพอตัว มันก็ชวนคิดว่า คอนเนกชั่นบ้านวงษ์สุวรรณ กับบ้านเกยุราพันธุ์ มันอิหลักอิเหลื่อกันแล้วหรืออย่างไร ยิ่งระยะหลังๆ ไม่ใช่แค่ตัวเจ๊เท่านั้นที่ขยับเขยื้อน บรรดาลิ่วล้อกทม.ลูกเจ๊ ก็เริ่มออกลายให้เห็นเหมือนกัน ตั้งแต่ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม. ไปรวมแจมแคมเปญไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ กับ16 แกนนำ หรือกรณีที่ วิชาญ มีนชัยนันทน์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชาสัมพันธ์ เรื่องการลงประชามตินอกเขต
เสียงลือเสียงเล่าอ้างกันแซ่ด ในคิวของวิชาญ และพ้องเพื่อนอีกคนสองคน ที่ไปยื่นกกต. แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจจะไปรณรงค์กันที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน คสช.เพิ่งจะเชือดไก่ให้ลิงดู ดำเนินคดีกับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ข้อหามั่วสุม หลังเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่ฐานบัญชาการ คนเสื้อแดง อิมพีเรียล ลาดพร้าว ทำให้เกิดอาการปอดแหก พับโปรเจกต์ไปแก้เกี้ยวกันที่ กกต.แทน
เบื้องหลังวีรกรรมครั้งนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเจ้าแม่วังทองหลางนี่แหละที่กำกับการแสดง ส่งสัญญาณให้เด็กในคาถาลุกขึ้นมาออกแอ็กชั่นกันบ้าง ทว่าเรื่องเปลี่ยนแผนของวิชาญและพ้องเพื่อน ไม่ใช่คิวที่เจ๊บอก เลยโดนโทรศัพท์วีนกันหูชา โทษฐานใจปลาซิว แต่ในมุมของเด็กๆ ก็อึดอัดเหมือนกัน เพราะงานอย่างนี้มันเสี่ยง แถมยังต้องลงแรงเอง
นึกเล่นๆ ว่าเก่งนักทำไมไม่ลงมาเอง ใช้หนังหน้าไฟทำไม
ซึ่งมันก็สอดคล้องกับจังหวะที่เจ๊จุดพลุเมื่อวันก่อน ในเมื่อเด็กในคาถาเล่นไม่ได้ดั่งใจ เลยต้องถึงคิวเจ๊ใหญ่แสดงเอง แบบไม่ต้องใช้แสตนอิน ที่แย่งซีนหน้าสื่อไปได้พอสมควร ในฐานะแกนนำคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ที่สำคัญออกมาเที่ยวนี้ทำเอาสองเสือตะวันออก ถึงกับเดือดปุดๆ
ว่ากันว่า ในพรรคเพื่อไทยเอง เจ้าแม่วังทองหลางกำลังขึ้นหม้อกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงนี้ไปอี๋อ๋ออยู่ “หญิงอ้อ”พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาทักษิณ ชินวัตร แบบผิดหูผิดตา ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวซดเกาเหลากันอยู่เนืองๆ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะปัจจุบันตัวเลือกภายในพรรคมันลดน้อยถอยลงไปทุกที จำเป็นต้องพึ่งพวกมีแบรนด์เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน ยิ่งระยะหลังๆ มานี้พรรคเพื่อไทย และ นปช. กำลังเล่นสงครามข่าวแข่งกับ คสช. เพื่อตีตื้นคะแนนในการทำประชามติ โปรเจกต์ร่วมกันตี จึงบังเกิด
ตัวเจ๊เองก็ธรรมดาเสียที่ไหน เจ้าแม่การตลาดที่ว่าแน่ๆ เจอเข้าไปชิดซ้ายติดฟุตบาท จัดเป็นเจ้าแม่การตลาดที่เรียกความสนใจได้หลายครั้งหลายหน ดูแต่ละอีเวนต์ที่เคยทำ มักเปรี้ยงเป็นข่าวอยู่เสมอ เหมือนรอบนี้แค่ปูดเรื่องการจดตั้งทะเบียนพรรคใหม่ ยังเป็นข่าวหน้าหนึ่งไปได้หลายวัน เพราะพะยี่ห้อ “หญิงหน่อย”ยังขายได้ ที่สำคัญการมาพูดเรื่องร่างรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ สร้างความสนใจได้อยู่แล้ว
แล้วมาแบบเหยียบเมฆเสียด้วย ปูดเสร็จตีปี๊บอีเวนต์เดินสายพูดคุยกับอดีต ส.ส.ต่อเลย มีทั้ง สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หรือแม้แต่โจทก์ทางการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ก็เออออห่อหมกไปกับเขาด้วย
ในแง่ของแรงสั่นสะเทือน มีแน่ เพราะการที่เจ๊มาเปิดแผนเซ็ตซีโรของทหาร ด้วยการจดทะเบียนพรรคใหม่ เป็นการตอกย้ำให้สังคมหวาดกลัว กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าปล่อยให้ผ่านไปได้ ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญ ดูเป็นของอันตรายสำหรับประเทศ ซึ่งมันก็หนุนเนื่องกับกระแสที่แกนนำพรรคเพื่อไทย และนปช. จั่วหัวนำร่องกันแล้วหลายวัน เพื่อปลุกให้คนตื่นจากการหลับใหล แล้วไปกากบาทคว่ำทิ้งเสีย ในวันที่ 7 สิงหาคม
แต่ขึ้นชื่อว่า“เจ๊หน่อย” ทำอะไรมีหรือจะไม่หวังผล งานนี้แม้คนจะมองว่าแตกหักกับ“บิ๊กป้อม”แล้วกลับไปตายรังกับพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า แต่มันไม่ชัวร์เสมอไป เพราะการเคลื่อนไหวเที่ยวนี้มันได้สองทางเหมือนกัน
ทางหนึ่งแม้เจ้าแม่วังทองหลางจะมีคอนเนกชั่นกับพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ใช่ประเภทที่ “บิ๊กป้อม”ไว้เนื้อเชื่อใจ ยอมให้ทำนู่นทำนี่ได้ แค่รู้จักกันในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงกับเกรงอกเกรงใจ การออกมามาเที่ยวนี้ จึงเหมือนเป็นการปั่นโปรโฟล์ให้ตัวเอง เพื่อให้ทหารต้องเหลียวมามอง ในฐานะตัวละครสำคัญ ไม่ใช่ตัวประกอบหรือคนที่ไร้น้ำยา
ขณะที่ฝั่ง“นายใหญ่”ก็น่าจะแฮปปี้กับท่าทีครั้งนี้ เพราะถือเป็นการสร้างกระแสให้กับปฏิบัติการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญได้ไม่น้อย อย่างน้อยๆ เจ๊ก็เป็นตัวเรียกแขกในโซนกทม.ได้ โดยเฉพาะฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยในเมืองหลวง ไม่มีอะไรเสียเลย พรรคเพื่อไทยกินเต็มกับการออกมาครั้งนี้ เสริมแรงกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนจะถึงขั้นปูนบำเหน็จให้เจ๊เป็นเต็งหนึ่งในการถือธงนำพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวหน้าซะละคงยาก เพราะจะว่าไปขุมข่ายกำลัง ส.ส.ในมือมีไม่ถึง 20 คน อีกทั้งภายในพรรค หลายคนไม่คนสบอารมณ์กับแก๊งนี้ เป็นไม้เบื่อไม้เมากับหลายก๊ก น่าจะปิดประตูฝันถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองไปได้เลย ไม่น่าจะถึงชัวร์
แต่การออกมาครั้งนี้ถือว่าเจ๊คุ้มแล้ว ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง โดยเฉพาะทำตัวเองให้เป็นข่าว
