xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ”มึนปมท่อก๊าซ คลังฉะสตง.หมกเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “วิษณุ” งงข่าว “วัฒนา” ขอรื้อคดีคลองด่าน ชี้คนละศาลกับมติ ครม. แต่ยินดีหากมีข้อมูลใหม่ พร้อมแนะ “คลัง-พลังงาน-ปตท.-สตง.” รีบถกปมท่อก๊าซ รับ ครม.นายกฯเสี่ยงผิด ม.157 “รองปลัดคลัง” ร่อนแถลงการณ์ซัด คตง.-สตง.อีกหน ย้ำทำตามคำพิพากษาศาล-มติ ครม.ครบถ้วนแล้ว โอดบิดเบือน-หมกเม็ด ทำลายขวัญ ขรก.

วานนี้ (19 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คนใกล้ชิด นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุกในคดีทุจริตก่อสร้างบ่อบัดน้ำเสียคลองด่าน ออกมาระบุว่านายวัฒนาอยากให้รื้อคดีใหม่ว่า ยังไม่ทราบ แต่กรณีที่ ครม.มีมติให้กระทรวงการคลังใช้สิทธิ์ยื่นศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาคดีใหม่นั้น เป็นไปตามมาตรา 75 ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองที่เปิดโอกาสไว้ ส่วนคดีของนายวัฒนา เป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคนละแบบกับของรัฐบาล ส่วนจะรื้อได้อย่างไรหรือไม่ยังไม่รู้ยังคิดไม่ออก การที่นายวัฒนาอ้างว่ามีข้อมูลใหม่ที่จะขอรื้อก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นข้อมูลใหม่แล้วมาเกี่ยวข้องและจะเป็นประโยชน์กับรัฐ รัฐยินดีที่จะรับข้อมูล

** นายกฯ-ครม.เสี่ยงโดนละเว้น

ส่วนกรณีที่ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีมติให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) มอบท่อก๊าซที่ยังคืนไม่หมดให้กับกระทรวงการคลังนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ได้สอบถามไปที่กระทรวงการคลังแล้วและได้รับการชี้แจงว่า กรณีนี้มีคำพิพากษาของศาลแล้ว และได้ถามขั้นตอนการปฏิบัติตามคำแนะนำของศาล รวมทั้งปฏิบัติตามที่ศาลตัดสินเอาไว้แล้ว แต่ สตง.ก็มีประเด็นของเขา ตนเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะมีการพบกันและเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ปตท. และสตง. ควรจะคุยกันให้เข้าใจ ตอนนี้ต้องยอมรับว่ากระเทือนต่อภาพลักษณ์องค์กร และจนถึงขณะนี้ทราบว่ากระทรวงการคลังรับทราบทุกอย่างจากสื่อมวลชน แต่ยังไม่ได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น รอให้เขารับคำสั่งและคุยกันเสียก่อน

“ยอมรับเรื่องนี้มีความสำคัญ ไม่เช่นนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายกฯ อาจจะต้องรับผิด และอาจถูกฟ้องมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น เมื่อกระทรวงการคลังได้รับหนังสือ ถึงเวลาหนึ่งก็นัดที่จะเจอกัน ถึงอย่างไรเรื่องนี้ต้องยุติ แต่อาจจะไม่ยุติในทันที และถ้าเห็นไม่ตรงกันต้องไปศาล” นายวิษณุ กล่าว

** “รองปลัดคลัง” อัดซ้ำ คตง.-สตง.

ด้าน นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และ สตง.ระบุว่า ปตท.คืนท่อก๊าซให้กระทรวงการคลังไม่ครบถ้วน และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายอำนวยเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหาด้วยว่า มีข้อเท็จจริงบางส่วนที่สำคัญซึ่งทาง คตง.และ สตง. ตั้งใจไม่แถลงให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ โดยยืนยันว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ เป็นผู้ดำเนินการ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่จะแบ่งแยกเสร็จสิ้นและรายงานให้กระทรวงการคลังเห็นชอบ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มี.ค.51 จากนั้นก็ได้มีการลงนามบันทึกการแบ่งแยกและรายงานสรุปผลการดำเนินการต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งศาลปกครองสูงสุด ได้มีความเห็นว่า มีการดำเนินการตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.51แต่เมื่อวันที่ 20 ก.พ.52 สตง.มีหนังสือลับถึงศาลปกครองสูงสุดและนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่าการแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำพิพากษายังไม่ครบ และเมื่อวันที่ 10 มี.ค.52 ศาลปกครองสูงสุดได้แจ้งกลับไปว่า ผู้ถูกฟ้อง คดีที่ 1 - 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เอกสารฉบับลงวันที่ 20 ก.พ.52 และวันที่ 10 มี.ค.52 นี้ คตง.และ สตง. ตั้งใจปกปิดไม่แถลงต่อสื่อมวลชนและประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ นอกจากนี้ในระหว่างดำเนินการก็ได้มีผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัยว่าการแบ่งแยกและโอนทรัพย์สินดังกล่าว ยังไม่ครบถ้วนอีกหลายครั้ง ซึ่งศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งไม่รับฟ้องและยืนยันท้ายคำฟ้องมาโดยตลอดว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ได้แบ่งแยกและโอนทรัพย์สินตามคำพิพากษา เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.59 ที่ประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีมติยืนยันเช่นเดียวกันว่าผู้ถูกฟ้องคดี ได้แบ่งแยกและโอนทรัพย์สินตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว ในส่วนนี้ คตง.และ สตง. ก็จงใจปิดบังไม่ให้ข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนและประชาชน” นายอำนวย ระบุ

** อ้างศาลยืนยันคืนท่อเรียบร้อยแล้ว

นายอำนวย กล่าวต่อว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ คตง. และ สตง. จะบอกว่าการโอนทรัพย์สินไม่ครบเพราะศาลปกครอง ได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่าครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว คำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดย่อมถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องการละเว้นไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 ส.ค.50 และรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จนั้น กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานได้รายงานให้ ครม.รับทราบ รายงานศาลปกครอง เพื่อพิจารณาว่าเป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่ และรายงาน สตง.เพื่อตรวจสอบตามมติ ครม. จึงเป็นแนวทางปฏิบัติราชการปกติทั่วไป ครม. มิได้มีมติให้ สตง.ตรวจสอบและรับรองความถูกต้องก่อน แล้วจึงให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง รายงาน ครม. หรือศาลปกครองแต่อย่างใด การดำเนินการของกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ และ บมจ.ปตท. จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ครม.มอบหมาย และมิได้มีการรายงานข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จแต่ประการใด

“ข้อกล่าวหาของ คตง. และ สตง. ทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าว จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากซึ่งเหตุและผลทุกประการ มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่สำคัญที่ สตง. ได้ทำความเห็นไปยังศาลปกครองและศาลปกครองได้ตอบยืนยันเป็นทางการแล้วว่าการแบ่งแยกทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว พฤติกรรมของ คตง.และ สตง. ดังกล่าวเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตเป็นอย่างยิ่ง” นายอำนวย ระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น